เมื่อคิดจะตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ แต่ละคนก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าทุกคนจะคิดเหมือนๆ กันคือ “อินเด็กซ์” แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติไทยแท้ ที่อยู่คู่บ้านคนไทยมานานกว่า 40 ปี และจะต้องมุ่งตรงไปที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เพื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในสไตล์ที่ชอบอย่างแน่นอน จากการบุกเบิกของ กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ และเสริมทัพด้วยฝีมือการบริหารของทายาทรุ่นที่ 2 อย่าง กฤษชนก, พิชพิมพ์, เอกลักษณ์ และที่น่าจับตามองมากในขณะนี้คือ ลูกชายคนเล็ก จิม-เอกฤทธิ์ ปัทมสัตยาสนธิ ที่มารับตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ เมื่อปี 2556 กับงานที่ท้าทายความสามารถในการนำแบรนด์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

แม้จะเป็นหนุ่มหน้าใส ผู้มีแววตายิ้มได้ ละลายใจสาว ด้วยวัยเพียง 28 ปี แต่ก็แฝงไปด้วยความมั่นใจตามสไตล์ผู้บริหารรุ่นใหม่ หลังจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้หาประสบการณ์กับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง IBM อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจมาทำธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มตัว

“ผมโชคดีตรงที่ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ให้โอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ให้อิสระในการตัดสินใจเรื่องการศึกษาของตัวเอง ช่วงนั้นเรื่องของไอที เทคโนโลยี ในประเทศไทยกำลังบูม และผมก็ชอบเรื่องพวกนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว จึงเลือกเรียนวิศวะฯ คอมพิวเตอร์ พอจบก็ได้งานที่ IBM แล้วจึงตัดสินใจมาช่วยงานของครอบครัว ความรับผิดชอบหลักๆ จะดูสองส่วน คือ เสาะหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อมาเสริมธุรกิจหลัก และอีกส่วนคือ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจ

 ในส่วนหลักก็มีไอทีเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มผลผลิตโดยรวม ซึงหน้าที่ตรงนี้ทำให้เราต้องเกี่ยวข้องกับฝ่ายต่างๆ ในบริษัทเกือบทั้งหมด ทั้งสายงานการตลาด งานด้านการจัดซื้อ รวมถึงการบริหารบุคคล ผมเลยคิดว่าเราคงต้องต่อยอดความรู้ที่ได้เรียนมาจึงได้ไปศึกษาต่อด้านการบริหารที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน แอนน์อาร์เบอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสาขาที่ค่อนข้างกว้าง สามารถนำมาปรับใช้ได้เกือบทุกสายงาน หลังจากเรียนจบจึงเข้ามาดูแลงานด้านการตลาดต่างประเทศ ของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทั้งการขยายสาขาและการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์”

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีการขยายตลาดในต่างประเทศมานานแล้วตั้งแต่ในยุคเริ่มก่อตั้งบริษัท ในรูปแบบของการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ออสเตรเลีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมถึงได้เปิดสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอยู่ 7 สาขา ได้แก่ รัสเซีย เวียดนาม พม่า ลาว เนปาล มัลดีฟส์ นอร์ธไซปรัส และสาขาล่าสุดที่กำลังจะเปิดในปลายปีนี้คือท มาเลเซีย ในฐานะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ หนุ่มจิม บอกว่า เป้าหมายของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ คือ การมีสาขาทั่วโลกให้ได้

“โจทย์ยากของการทำตลาดในแต่ละประเทศ นั่นคือพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งแตกต่างกัน เราต้องศึกษารวบรวมข้อมูลอย่างหนัก เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้า เข้าถึงความชอบ เข้าถึงไลฟ์สไตล์ รวมถึงการศึกษาเรื่องของวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ การเมือง ระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการลงทุนน้อยที่สุด แต่ถึงแม้จะเตรียมความพร้อมมากที่สุด ยังไงก็มักจะมีสถานการณ์ที่ต้องให้แก้ปัญหาอยู่เสมอ ซึ่งบางอย่างก็อยู่เหนือการคาดเดา แต่ก็ต้องค่อยๆ แก้ปัญหาเหล่านั้นให้ผ่านไปโดยเกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด

การที่เราจะนำแบรนด์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  ไปถึงจุดนั้นได้ จะต้องมีกลยุทธ์ที่ถูกต้อง บวกกับการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ผมมองว่าเมื่อถึงวันที่แบรนด์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีสาขาอยู่ในทั่วโลกแล้ว นอกจากจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของอินเด็กซ์แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของคนไทยในการแข่งขันทางธุรกิจในระดับโลกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”  

อีกหนึ่งหน้าที่รับผิดชอบของ เอกฤทธิ์ เช่นกันคือ ดูแลคัดสรรแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ที่เป็นแบรนด์ดังระดับโลก นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานคือ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติเดนมาร์ก “BoConcept”

“แบรนด์ที่ผมจะนำเข้ามาจะต้องเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยมีในเมืองไทยมาก่อน อย่าง BoConcept เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์เดนมาร์กที่ได้รับการยอมรับมานานกว่า 60 ปี มีสาขา 260 สาขาในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ความโดดเด่นเขาคือ งานดีไซน์ที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Urban Danish Design ที่เน้นความเรียบง่าย มีความร่วมสมัย ในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งผมมองว่า คนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องการความแตกต่าง ชอบงานดีไซน์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งาน และสามารถตอบสนองการใช้ชีวิตได้อย่างครบครัน ก็น่าจะถูกใจ BoConcept”

ในการทำงาน “การวางแผน” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้องค์กรเดินไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และสามารถไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ แต่สำหรับผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่คนนี้ ยังมองว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ การวางแผน นั่นคือ “การมองหาความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ”

“การแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ มันจะเป็นตัวกระตุ้นให้เราได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ณ วันนี้ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่นั่นคงยังไม่เพียงพอ การแข่งขันกับคู่แข่งคือเรื่องที่สำคัญ แต่ไม่สำคัญเท่ากับการแข่งขันกับตัวเอง ในการที่จะรักษามาตรฐานทั้งเรื่องของคุณภาพและการบริการ ที่เราใส่ใจและจะต้องเพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมมองว่า คือความท้าทายในฐานะของผู้บริหาร ที่จะต้องผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด”