วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
(ซ้าย) ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์ และ ครูช่าง-ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง
มีโปรเจ็คดีๆ มาให้คนไทยได้ชมอีกแล้ว สำหรับ บ้านเรียนละครมรดกใหม่ ที่ “ครูช่าง-ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง” ได้ก่อตั้งขึ้นมา และสอนทุกอย่างผ่านละคร ล่าสุดจัดการแสดงละคร “ชูชกผู้ยิ่งใหญ่” รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปช่วยเหลือให้นักเรียนได้เรียนต่อ และซื้อเครื่องดนตรี ทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.20 น. ทางช่อง TNN2 โดยพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” จึงตามไปพูดคุยกับครูช่างถึงที่มาที่ไปของบ้านเรียนละครมรดกใหม่แห่งนี้
ครูช่าง เล่าว่า “จริงๆ อยากจะทำเป็นสำนัก แต่ก็ไม่สามารถที่จะหาอะไรมารองรับได้ คือถ้าเป็นสำนักปุ๊บตามกฏหมายปุ๊บ มันไม่มีอะไรรองรับเลย กระทรวงศึกษาธิการก็ไม่ได้เอื้อให้รับรอง คือเราเป็นสำนักแล้วเราก็เป็นสำนักไปก็จบ ไม่มีกฏหมายอะไรมารองรับเป็นทางการได้ แต่บังเอิญไปค้นดูก็พบว่า มันมีอยู่ข้อหนึ่งคือ โฮมสคูล นี่แหละที่เป็นกฏหมายรับรองให้จัดการศึกษาทางเลือกได้ ในใจมันคิดแบบสำนักไว้แล้ว มันก็เอื้อตรงนี้ให้ เราก็เลยต้องใช้โฮมสคูลเป็นหัวหอกในการที่จะเอาไปจัดการเรียนการสอน
เริ่มตอนแรกก็มีนักเรียนแค่คนหนึ่ง สองคน จนกระทั่งทุกวันนี้ก็มีประมาณ 30 กว่าคน เราก็เอาละครไปเล่นตามโรงเรียน แล้วครูๆ ก็เป็นมิตรรักแฟนเพลงเรา ก็เห็นว่าถ้าเด็กคนนี้ไปอยู่กับอาจารย์ชนประคัลภ์ก็จะดี ก็เริ่มฝากเด็กกันมา พอฝากเด็กกันมาปุ๊บ เราก็คิดว่าเอ๊ะมันก็ต้องเป็นโรงเรียนขึ้นมา และโรงเรียนมาที่หลังนะ หลังจากเกิดสำนักก่อน พอเป็นสำนักปุ๊บก็เกิดเป็นโรงเรียน พอเกิดเป็นโรงเรียนก็ต้องคิดว่าเป็นโรงเรียนแบบไหน สุดท้ายก็เลยกลายเป็นโรงเรียนทางเลือก การเรียนการสอนเราก็สอนผ่านละครหมดเลย สอนทุกอย่าง แต่สอนผ่านละครหมด
.jpg)
เนื่องจากผมเป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการละคร แล้วผมก็เล่นดนตรีต่างๆ นานา ถ้าจะมาเอาทางด้านฟิสิกส์กับผมก็คงไม่ได้ ฉะนั้นผมถนัดอะไร ผมก็สอนอย่างนั้น แล้วก็พยายามสร้างบรรยากาศแบบที่เติบโตมา คือพอมาเจอสถานการณ์ต้องทำโรงเรียน แล้วจะเอาโรงเรียนแบบไหน ก็ระลึกถึงรูปแบบที่เราเคยเติบโตมา... อ้าวแล้วจะเอาวิธีอย่างไรล่ะ เราได้รูปแบบมาแล้ว เนื้อในจะเป็นอย่างไรล่ะ เนื้อในผมก็ไม่รู้จะไปเอาจากไหนก็ต้องเอาจากพระพุทธศาสนา จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ประมาณ 10 ปีได้
.jpg)
ส่วนเรื่องชื่อโรงเรียนมรดกใหม่ เมื่อก่อนเป็นรายการทีวี ที่ว่าด้วยเรื่องของศิลปวัฒนธรรมไทย ก็ค้นพบจากรายการนี้ ค้นพบว่าภูมิปัญญาของไทยนี่มันสุดยอดมากเลย มันเยี่ยมยอด แล้วมันเหมาะกับวิถีของเราอย่างมากเลย พอเลิกรายการ คนก็แย่งเวลากัน เราก็หลุดออกมา พอหลุดออกมาปุ๊บ เราก็อยากจะมาทำอะไร แต่เราก็ยังคิดว่าเราก็ยังได้อะไรมาเยอะจากรายการอันนั้น ที่จะคิดกลับเข้าไปน้อมหาความเป็นไทย ก็เลยตั้งชื่อคณะละครว่าคณะละครมรดกใหม่ แล้วก็ตั้งชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนมรดกใหม่ จริงๆ ชื่อโรงเรียนชื่อว่า บ้านเรียนละครมรดกใหม่
.jpg)
โรงเรียนมรดกใหม่ได้สร้างผลงาน ด้วยการจัดไปโชว์ต่างประเทศ พอเราเรียนโฮมสคูล นั่นมันแปลว่าเราไม่มีห้องเรียน เป็นบ้านเรียนของเรา คือทุกที่เป็นที่เรียนหมด ด้วยคอนเซ็ปต์นี้ ด้วยความเป็นมนุษย์ มนุษย์มันต้องการค้นพบค้นหา เรามีวิถีนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่งั้นเราไม่พุ่งไปดาวอังคาร ดาวอะไรต่างๆ นานาหรอก เพราะฉะนั้นการได้เรียนรู้จากต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากว่าเราไม่มีรายได้ ครูผู้สอนไม่มีใครมีเงินเดือนเลย ทุกคนทำด้วยจิตอาสาหมด ทำฟรีๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเงินเหลือจากตรงไหน มันก็คือกำไรร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็เอาส่วนนั้นมาจัดสรรให้เกิดโอกาสที่จะไปต่างประเทศได้ เราก็เคยส่งเด็กไปเรียนที่อินเดียก็จบตรงนั้นไปแล้ว ตอนนี้ก็ไปต่อที่ฮังการี เราก็เช่าบ้านไว้แล้วก็มีเด็กไปเรียนที่ฮังการี ซึ่งฮังการีหัวทางดนตรีเขาเยี่ยมยอดมาก แล้วจากตรงนั้นมันก็สามารถต่อยอดไปที่ยุโรปอื่นๆ ได้ เด็กก็โอเคเลย”
.jpg)
กับการจัดการแสดงละคร “ชูชกผู้ยิ่งใหญ่” ครูช่าง เล่าต่อว่า “ การแสดงที่จัดขึ้นในครั้งนี้ รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือส่งให้นักเรียนไปเรียนต่อ และซื้อเครื่องดนตรี ซึ่งเครื่องดนตรีที่พัฒนาฝีมือมันแพงมาก เราก็อยากได้มือโปร ก็ต้องขอกลับไปที่โฮมสคูลหน่อย การเรียนโฮมสคูลแปลว่า ต้องถึงซึ่งฝีมือนะถึงจะเรียนโฮมสคูลได้ คนที่มาเรียนโฮมสคูลได้ต้องเก่ง งั้นแปลว่าโดยเอาคำของมันแล้วต้องได้เด็กที่มีทักษะมากขึ้นเรื่อยๆ พอเป็นอย่างนี้ปุ๊บ มันก็เลยชัดเจนว่าเราก็มีค่าใช้จ่ายที่จะต้องหาเครื่องดนตรีหรืออุปกรณ์ที่มันพัฒนาขึ้น พอยิ่งพัฒนาขึ้น ของดีขึ้น มันก็ยิ่งเล่าไอ้ที่อยู่ในใจได้ง่ายขึ้น ในขณะที่เรามีอะไรอยู่ในใจ แต่เราไปติดอยู่ที่สิ่งที่มันไม่ได้ อิสรภาพที่จะเล่าเรื่องราวที่อยู่ในใจ มันก็ไม่บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นเครื่องมือจึงสำคัญเช่นนี้
.jpg)
แต่ทีนี้ไม่ใช่แค่เอามาใช้เรื่องเครื่องมืออย่างเดียว แล้วก็ไปต่างประเทศอย่างเดียว พอดีปีนี้เราเพิ่งทำนา แล้วสิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นสัญลักษณ์ของการทำนาคือ ยุ้งข้าว เราก็เลยคิดว่าจะเอาเงินก้อนหนึ่งที่ได้จากนี้ไปสร้างยุ้งข้าว พอมียุ้งข้าวมันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดม มันเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งปันกันในครอบครัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งกว่าศาลพระภูมิอีก คนอื่นที่จะไปสร้างร้านสร้างอะไรต้องสร้างศาลพระภูมิก่อน แต่ผมไม่เอา สร้างยุ้งข้าวก่อน ยุ้งข้าวที่เก็บข้าวได้มิดชิด หนูไม่เข้า นอกเหนือนั้นแล้วเราก็อยากจะได้เครื่องสีข้าวแบบทำเอง สำหรับใครที่มีความสนใจอยากจะสนับสนุน อยากทำบุญ หรืออยากติดตามผลงานก็ติดตามได้ทางเฟสบุ๊ค คณะนักศิลปการละครเพื่อการพัฒนา และอินสตาแกรม Moradokmai หรือโทร.02-904-5665, 089-895-5751”
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี