ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
เพราะตระหนักว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ที่สำคัญหากการให้นั้นเป็นการต่อลมหายใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่รอคอยความช่วยเหลือด้วยแล้ว ยิ่งเป็นความอิ่มเอิบใจทั้งผู้ให้และผู้รับบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จึงจัดงานแถลงข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านการทำโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อโครงการ “บ้านร่วมทางฝัน 4 ” ซึ่งเป็นการปันผลกำไรทั้งหมดที่ได้จากโครงการที่พักอาศัย นำไปต่อยอดบริจาคให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมี ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน), ศ.พญ. อลิสา ลิ้มสุวรรณ แพทย์เจ้าของโครงการโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรงพยาบาลรามาธิบดี และ จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) ร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน เมื่อเร็วๆ นี้
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงที่มาของโครงการ“บ้านร่วมทางฝัน” ว่า “ตอนที่คุณพ่อป่วยด้วยโรคมะเร็งต้องเริ่มรักษาตัวอย่างจริงจังที่โรงพยาบาลศิริราช และเริ่มวางมือจากงานที่บริษัท เมื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช คุณพ่อพบว่ายังมีผู้ป่วยผู้ยากไร้อีกมากที่ต้องการเครื่องมือแพทย์ในการรักษา คุณพ่อจึงดำริกับครอบครัวว่า ในนามเสนาดีเวลลอปเม้นท์ น่าจะริเริ่มโครงการสักหนึ่งโครงการที่ไม่หวังผลกำไร จากนั้นจึงได้แรงบันดาลใจในการคิดพัฒนา และจัดการแนวคิดเรื่อง ‘การให้’ เกิดเป็นรูปธรรมโดยปันผลกำไรทั้งหมดที่ได้จากโครงการบ้านร่วมทางฝัน ‘อยู่ เพื่อ ให้’ นำไปต่อยอดให้เกิดทรัพยากรทางการแพทย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดจัดตั้งโครงการนี้ขึ้น เพราะได้สัมผัสด้วยตัวเองว่า เวลาที่ตัวเราหรือคนที่เรารักเจ็บป่วย คุณภาพการรักษาพยาบาล เป็นสิ่งสําคัญที่สุดในช่วงเวลานั้นและสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืมคือ คุณพ่อไม่เคยสั่งให้ต้องขยายบริษัทหรือเติบโตมากขนาดไหน แต่สั่งอยู่เพียงเรื่องเดียวคือ ให้ทำโครงการร่วมทางฝันตลอดไป”
ศ.พญ.อลิสา ลิ้มสุวรรณ
สำหรับโครงการ “บ้านร่วมทางฝัน” ก่อตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิด “อยู่ เพื่อ ให้” คือ เสนาสร้างบ้านให้อยู่ คนซื้อบ้านได้อยู่บ้านดีๆ แล้วยังไม่พอ ยังได้ช่วยให้คุณภาพการรักษาพยาบาลที่ดี เพื่อคนป่วยตามโรงพยาบาลอีกด้วย ซึ่งนี่คือแนวคิดหลักของโครงการนี้ ด้วยการสร้างบ้านคุณภาพทั้งโครงการทําออกมาขายในราคาปกติ ทําโปรโมชั่นเหมือนโครงการทั่วไปทุกประการ แต่เมื่อขายหมดแล้ว ก็จะนํากําไรทั้งหมดยกให้โรงพยาบาลที่กําหนดในแต่ละปี นําไปพัมนาและจัดซื้อทั้งเครื่องมือแพทย์ ห้องตรวจและสิ่งอำนวยตวามสะดวกต่างๆ ในโรงพยาบาลตามความเหมาะสม แยกการบริหาร การเงินชัดเจน เพื่อให้กําไรทั้งหมด ไปสู่การกุศลอย่างแท้จริงและโปร่งใส
โดยในปี 2547 บริษัทเริ่มโครงการบ้านร่วมทางฝัน 1 ย่านลำลูกกาคลอง 2 เป็นรูปแบบของทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ จำนวน 254 ยูนิต และเมื่อโครงการแล้วเสร็จในปี 2550 บริษัทฯ ได้นำผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมด 40.059 ล้านบาท มอบสมทบทุนโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่คุณพ่อ ธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานกรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) รักษาตัวอยู่ และเป็นที่ๆ ก่อให้เกิดแนวคิด "อยู่ เพื่อ ให้" และเริ่มต้นทำโครงการบ้านร่วมทางฝันขึ้นมา
จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ
จากนั้นสานต่อ โครงการบ้านร่วมทางฝัน 2 ที่ลำลูกกา คลอง 4 ที่มีทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ จำนวนทั้งสิ้น 184 ยูนิต โดยมอบผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมด 40 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปสร้างศูนย์โรคไต ส่วนโครงการบ้านร่วมทางฝัน 3 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 5 ชั้น 4 อาคาร ที่คลองหลวง ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2557 ทางบริษัทฯ ได้มอบผลกำไรทั้งหมด 40 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อโครงการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และจัดซื้อรถพยาบาล ซึ่งยอดการบริจาคเงินจากทั้ง 3 โครงการนี้ มีจำนวนทั้งสิ้นรวม 120 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านร่วมทางฝัน 4 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร ที่ ถนนเทอดไท บางแค ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เมื่อได้ผลกำไรทั้งหมด จะมอบให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อสนับสนุนงบประมาณกิจกรรมทางการแพทย์ เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาคนป่วยให้ดีขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี