รำเบิกโรงชุด ระบำนารายณ์เจ็ดปาง

ทุกๆ ช่วงเวลาเมื่อใกล้จะสิ้นปี ราวๆ เดือนพฤศจิกายน คนไทยรวมถึงคนต่างชาติที่รัก เชิดชู และหลงใหลในศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยจะตั้งตาเฝ้ารอชมการแสดงโขนที่สุดวิจิตรตระการตา และสุดอลังการเป็นประจำเสมอมาตลอดระยะเวลา 7 ปีนี้ เพราะทุกคนรู้ดีว่าจะได้ชมการแสดงโขนพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อนุรักษ์นาฏศิลป์ชั้นสูงนี้ไว้ เพื่อให้อนุชนได้ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมตามขนบประเพณีมาแต่โบราณ

ปีนี้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดการแสดงชุด “ศึกอินทรชิต” ตอน “นาคบาศ” บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยแสดงระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายนถึง 5 ธันวาคม ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

พญาครุฑจับนาคศรนาคบาศ

สำหรับผู้ที่เคยชมความวิจิตรอลังการของโขนพระราชทานในปีก่อนๆ มาแล้วคงปราศจากข้อสงสัยใดๆ ถึงความยิ่งใหญ่ของการแสดง เพราะจะรู้ซึ้งว่าเสื้อผ้าพัสตราภรณ์ และถนิมพิมพาภรณ์ของตัวละครทุกตัว โดยเฉพาะตัวเอก รวมถึงฉากทุกฉากบนเวทีล้วนเกิดมาจากฝีมือและมันสมองชั้นเลิศของครูช่างผู้ชำนาญงานศิลป์ชั้นสูงของไทย บทร้อง ท่ารำ และนักดนตรีก็ล้วนแล้วแต่วิเศษจนเกินจะพรรณนา

พัสตราภรณ์ของตัวละครเอกในรื่องจะใช้ผ้ายกนครศรีธรรมราช จากศูนย์ศิลปาชีพสองแห่งคือจากบ้านเนินธัมมัง อำเภอเชียรใหญ่ และบ้านตรอกแค อำเภอชะอวด ซึ่งผ้ายกเมืองนครฯ นี้ เป็นงานศิลป์ชิ้นเยี่ยมของเมืองนครฯ มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล แต่ถูกทอดทิ้งไประยะหนึ่ง จนกระทั่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ฟื้นฟูการทออีกครั้ง ผ้าที่ใช้ในการแสดงนี้มาจากฝีมือของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพกว่า 40 ชีวิต ทอผ้ายกทอง 43 ชิ้น เป็นผ้าที่มีองค์ประกอบตามแบบราชสำนักไทยโดยครบถ้วน

ท้องพระโรงกรุงลงกา

ส่วนฉากอันวิจิตรประกอบไปด้วย ท้องพระโรงกรุงลงกา พลับพลาพระรามเชิงเขามรกต โพรงไม้โรทัน (ต้นไม้ใหญ่) บนเขาอากาศที่อยู่ของนาคและสัตว์มีพิษ) สนามรบ และฉากการยกรบสัประยุทธ์บนหลังม้า กระบวนรบและกระบวนตรวจพล
เป็นกระบวนท่ารำชั้นครูที่สืบทอดมาจากกรมมหรสพในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 

พลับพลาพระรามเชิงเขามรกต

และที่น่าประทับใจมากที่สุดอีกสิ่งคือฉากรำเบิกโรง ชุดระบำนารายณ์เจ็ดปาง บทพระนิพนธ์ของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ที่จะใช้ในโอกาสสำคัญเท่านั้น ส่วนฉากจะเป็นประติมากรรมลอยตัวรูปพระนารายณ์ทรงสุบรรณ ความสูงกว่า 7 เมตร

พรรณนามาจนหมดพื้นที่แล้ว ขอเรียนย้ำสั้นๆ ว่าอย่าพลาดการแสดงครั้งนี้เป็นอันขาด แสดงวันที่ 7 พ.ย.-5 ธ.ค. (งดการแสดงทุกวันจันทร์) จองบัตรโดยด่วนที่ www.thaiticketmajor.com หรือโทร.02-262345 บัตรราคา 420-1,520 บาท บัตรนักเรียนนักศึกษา 120 บาท ขอย้ำว่าค่าบัตรเมื่อเทียบกับมูลค่าการลงทุนจัดแสดงแล้วไม่สามารถเทียบกันได้เลย เพราะลงทุนมหาศาล แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงต้องการให้คนไทยได้มีโอกาสชมการแสดงชั้นสูงจึงได้เกิดการแสดงที่สุดวิจิตรนี้ขึ้นมา

พญาชามพูวราชสู้กับอินทรชิต

เรื่องย่อ อินทรชิต (เดิมชื่อรณพักตร์) โอรสทศกัณฐ์ รณพักตร์ได้ศรพรหมาสตร์ซึ่งประทานโดยพระอิศวร และพระอิศวรประทานเวทให้แปลงการเป็นพระอินทร์ได้ด้วย ส่วนพระพรหมประทานศรนาคบาศให้ พระนารายณ์ประทานศรวิษณุปาณัม รณพักตร์รบชนะพระอินทร์จึงได้ชื่อ อินทรชิต

อินทรชิตทำศึกกับพระราม พระลักษมณ์หลายครั้งไม่มีใครแพ้ใครชนะ จึงกลับเข้ากรุงลงกาไปทำพิธีชุบศรนาคบาศที่เขาอากาศ โดยให้ฝูงนาคคายพิษลงบนศรเป็นเวลาเจ็ดวัน เมื่อพระรามทรงทราบเรื่องจึงสั่งให้ชามพูวราชแปลงกายเป็นหมีไปทำลายพิธีชุบศร เมื่อพิธีไม่สำเร็จ อินทรชิตจึงออกรบกับพระรามที่เขามรกต พระลักษมณ์ต้องศรนาคบาศของอินทรชิต พระรามจึงแผลงศรพลายวาตเรียกพญาครุฑออกไปจับนาค

พระลักษมณ์ออกรบ

วิรุญมุข ยักษ์เด็กสู้กับกองทัพพระราม

พระรามช่วยดึงนาคออกจากพระลักษมณ์