ทันตแพทย์กิตติ สถิตานนท์, รศ.ทพญ.ดร.พัชราวรรณ ศรีศิลปนันทน์, อารียา สิริโสดา

เพราะตระหนักว่าสุขภาพที่ดีของเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพมีความสำคัญต่อการพัฒนาทั้งทางร่างกายและสติปัญญา ซึ่งสุขภาพช่องปากมีความสำคัญในลำดับต้นๆ แต่ในนักเรียนกลุ่มนี้ยังมีความยากลำบากในการดูแล ฟลูโอคารีลได้มีส่วนร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านทันตสาธารณสุข มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดสร้างคลินิกทันตกรรมพร้อมศูนย์ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้และสาธิตวิธีแปรง ฟันและดูแลสุขภาพฟันเพื่อน้องคนพิเศษโดยเฉพาะ ด้วยแนวคิดอารยะ สถาปัตย์ ณ โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่โดยได้นำคณะผู้บริหารและทันตแพทย์  ร่วมด้วยอารียา สิริโสภา เปิดตัวโครงการ สุข X 3 ปันน้ำใจ ให้รอยยิ้ม เพื่อร่วมช่วยเหลือเด็กพิเศษที่มีความบกพร่องทางร่างกายซึ่งโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ดูแลนักเรียนทั้งหมด 306 คน จากทั่วประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะมาจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ

รศ.ทพญ.ดร.พัชราวรรณ ศรีศิลปนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านทันตสาธารณสุข ม.เชียงใหม่ ได้กล่าวว่า “กว่า 7 ปีแล้ว ที่ทางคณะทันตแพทย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากและมีการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อให้การรักษาเด็กพิเศษมาตลอด แต่พบว่าเด็กๆ ยังมีอัตราการเกิดฟันผุสูง เนื่องจากเด็กแต่ละคนจะมีข้อจำกัดในด้านร่างกายแตกต่างกัน จึงส่งผลต่อวิธีแปรงฟัน เนื่องจากมีความบกพร่องทางด้านความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมือและแขนบางรายมีอาการเกร็ง บางรายมีภาวะอ่อนแรงบางคนไม่สามารถแปรงฟันได้เอง เป็นผลให้เกิดปัญหาในช่องปาก การนำเด็กพิเศษออกไปรับการรักษาในโรงพยาบาล มีความยากลำบากในการเดินทาง รวมถึงความพร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือในโรงพยาบาลทั่วไป เราจึงได้คิดโครงการคลินิกทันตกรรมเพื่อน้องคนพิเศษ เป็นคลินิกที่ออกแบบเพื่อเด็กพิการโดยเฉพาะ ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนศรีสังวาลย์ มีเก้าอี้ทำฟันที่แข็งแรงมั่นคง มุ่นเน้นการป้องกันฟันผุอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และมีการสอนการแปรงฟันด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายเด็กนักเรียนแต่ละคนมีอ่างแปรงฟันที่ออกแบบให้เด็กที่อยู่บนรถเข็นได้แปรงฟันเองได้ ร่วมถึงศูนย์การเรียนรู้ผ่านทางจอโทรทัศน์และแอพพลิเคชั่น ที่จะให้เด็กพิเศษรวมถึงบุคลากรที่ดูแลเด็กพิเศษเข้ามาศึกษาและเรียนรู้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพในช่องปากที่ดีของเด็กพิเศษ ร่วมถึงการป้องกันโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการและการเรียนหนังสือของเด็กนักเรียน และเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าทางผลิตภัณฑ์ฟลูโอคารีล ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่มีแนวคิดเชิงนวัตกรรมและมีทันตแพทย์ที่ดูแลด้านทันตกรรม ป้องกัน ได้ให้ความสำคัญทางด้านนี้ จึงร่วมกันพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมา”

ทางด้านผู้บริหารจากฟลูโอคารีล ทันตแพทย์กิตติ สถิตานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมาทางฟลูโอคารีลให้ความสำคัญกับเรื่องนวัตกรรมทางทันตกรรม ควบคู่กับการสร้างจิตสาธารณะในสังคมหลายๆ ด้านมาตลอด ในโครงการนี้นอกจากทางฟลูโอคารีลให้การสนับสนุนเงินทุนในการสร้างคลินิกทันตกรรม แล้วยังมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวคิดของคลินิกทันตกรรมเพื่อผู้พิการตลอดจนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโครงการอันจะนำมาซึ่งการดูแลป้องกันช่องปากด้วยตนเองอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ได้มอบผลิตภัณฑ์ฟลูโอคารีล ที่ใช้ในการดูแลช่องปากประจำวันให้กับน้องๆ ได้ใช้ไปตลอดเราเชื่อว่าคลินิกทันตกรรมเพื่อน้องคนพิเศษในโครงการนี้ถือเป็นต้นแบบเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ในอนาคตคงจะเป็นศูนย์การเรียนรู้ของผู้สนใจที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพการดูแล สุขภาพช่องปากกลุ่มผู้พิการต่อไป”