9 ก.พ.58 บ้านไหนๆก็ต้องใช้ "น้ำยาปรับผ้านุ่ม" เพราะจะทำให้ผ้าหอมไร้กลิ่นอับและยังช่วยถนอมใยผ้าให้นุ่มและทนทานแต่ใครจะรู้ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น คุณพ่อบ้านแม่บ้านก็สามารถทำใช้เองได้ไม่ต้องซื้อ แต่วิธีทำจะยากง่ายแค่ไหนเราไปดูกันเลย

1. น้ำส้มสายชูกับน้ำมันหอมระเหย

หยดน้ำมันหอมระเหย 25-30 หยด ลงในน้ำส้มสายชูกลั่น 1 แกลลอน หรือประมาณ 3.8 ลิตร แล้วผสมให้เข้ากันดี น้ำส้มสายชูกลั่นสามารถเปลี่ยนผ้าที่แห้งแข็งจากสิ่งสกปรกตกค้างให้นุ่มใส่สบาย

วิธีใช้ ก็ให้เทน้ำยาปรับผ้านุ่ม ¼ แก้ว (60 มิลลิลิตร) ลงไปในเครื่องซักผ้าโดยตรง ในขณะที่กำลังจะซักน้ำสุดท้าย และไม่ควรใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มก่อนเครื่องจะทำงาน เพราะมันจะถูกชะล้างออกไปหมดก่อนออกฤทธิ์

2. เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู

ต้มน้ำ 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร) ให้ร้อนแล้วจัดการผสมกับเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย คนให้เข้ากันดีแต่ไม่ต้องให้ถึงกับละลายหมด เพราะเท็กซ์เจอร์ของเบกกิ้งโซดาจะช่วยขัดคราบสกปรกตกค้างให้ออกจากผ้าเราอย่างสิ้นเชิง และปรับค่าความเป็นกรดและด่างให้สมดุลกันด้วย และเพื่อเห็นผลทดีขึ้น เติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร) อย่างช้าๆ ลงไปในส่วนผสมแรก แล้วคนเบาๆ ให้เบกกิ้งโซดาละลาย จนเกิดฟองเมื่อนำไปใช้ มันจะทำหน้าที่ของน้ำยาปรับผ้านุ่มได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

3. น้ำยาปรับผ้านุ่มจากครีมนวดผม

คุณแม่บ้านแค่แบ่งส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกลั่น 3 ถ้วย (750 มิลลิลิตร) ครีมนวดผม 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร) และน้ำร้อน 6 ถ้วย (750 มิลลิลิตร) ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี แล้วนำไปใช้จะปรับผ้าให้นุ่มหอมดั่งใจ

4. ผงปรับผ้านุ่ม

ผสมเกลือเม็ดหยาบ หรือดีเกลือ ปริมาณ 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร) กับน้ำมันหอมระเหย 20-30 หยด แล้วคนให้เข้ากันดีจนน้ำมันนั้นซึมเข้าไปในเกลือทุกเม็ด เติมเบกกิ้งโซดาเพิ่มสัก ½ ถ้วย (125 มิลลิลิตร) เพื่อให้การปรับผ้านุ่มมีประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนอัตราในการนำไปใช้ เพียงแค่ใส่ผงปรับผ้านุ่มนี้ลงไปประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ตอนที่เครื่องซักผ้าปล่อยน้ำล้างออกมา โดยใส่ลงไปในน้ำโดยตรง และปล่อยให้เครื่องทำงานตามปกติ

ข้อมูล : kapook