วันที่ 18-21 มีนาคมนี้แล้วนะครับ ที่แฟนคลับของ Mr.Flower จะเดินทางไปเยือนเมืองย่างกุ้ง (อดีตเมืองหลวงของพม่า) และเมืองหงสาวดี (อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรมอญ) แฟนคลับหลายคนบอกว่าก่อนจะไปเยือนหงสาวดีก็ต้องกลับไปอ่าน “ผู้ชนะสิบทิศ” เพื่อจะได้เก็บข้อมูลไว้ก่อนจะไปพบสถานที่จริง หลายคนบอกว่าพยายามนึกถึงใบหน้าของบุเรงนองว่าจะงดงามและดูน่าเกรงขามสักเพียงใด ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามจินตนาการของแต่ละท่าน แต่ทว่าสิ่งที่คณะของเราจะไปสัมผัสกันจริงๆ ก็คือสถานที่ประวัติศาสตร์

หงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago, Pegu) ส่วนพม่าจะออกเสียงว่าหานตาวดี เป็นเมืองสำคัญที่อยู่ค่อนไปทางตอนใต้ของพม่า (เมียนมาร์) หงสาฯ อยู่ใกล้กับเมาะตะมะ, แปร, คัง, ยะไข่, อังวะ และพุกาม (ชื่อเมืองเหล่านี้คงคุ้นหูคุ้นใจของแฟนผู้ชนะสิบทิศเป็นอย่างดี) เมืองหงสาวดีเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู เจริญสูงสุดในยุคของพระเจ้าบุเรงนอง พระองค์ทรงให้สร้างพระราชวังชื่อกัมโพชธานี พระราชวังแห่งนี้ใหญ่โตมโหฬารมีประตูเข้าออก 10 ประตู

สัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดีคือ พระธาตุชเวมอดอ คนไทยเรียกพระธาตุมุเตา ตามตำนานว่าไว้ว่าก่อนพระเจ้าบุเรงนองจะทรงออกรบจะต้องไปถวายราชสักการะพระธาตุนี้ทุกครั้ง และเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จมายังหงสาวดี ก็ได้ทรงไปสักการะพระธาตุนี้ด้วย

ปัจจุบันหงสาวดีคือหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของพม่า เพราะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ และแหล่งวัฒนธรรม ทริปนี้เราจะไปสัมผัสแบบเจาะลึกกับโบราณสถานสำคัญๆ ในเมืองหงสาวดีด้วยกันครับ แต่ที่นำเสนอ ณ ตรงนี้ ถือเป็นเพียงหนังตัวอย่างเท่านั้น เพราะในวันที่เราไปถึงเมืองหงสาวดีแล้ว เราจะไปเยือนสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองอีกหลายแห่ง

เมื่อพูดถึงเมืองพม่าแล้ว หลายคนก็ต้องนึกถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งคอลัมน์นี้ได้นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ของชเวดากองไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนๆ หน้านี้ เพราะฉะนั้นในสัปดาห์นี้จึงขออนุญาตไม่พูดซ้ำ นอกจากพระมหาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของพม่าองค์นี้แล้ว หลายต่อหลายคนก็นึกถึงเทพทันใจและเทพกระซิบ แฟนคลับเกือบทุกคนที่ได้คุยกับ Mr.Flower บอกว่า
ตั้งใจอย่างมากที่จะไปขอพรจากเทพทั้งสองนี้ บางท่านก็บอกว่าไปครั้งนี้เพื่อไปแก้บน เนื่องจากเคยไปบนบานขอให้ท่านช่วยให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังตั้งใจไว้ แล้วก็ได้สมดังปรารถนาทุกประการ

เทพทันใจและเทพกระซิบประดิษฐานอยู่ ณ อาคารที่เขตวัดโบดาทาวน์ ซึ่งมีเจดีย์โบดาทาวน์เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า เจดีย์นี้เคยถูกฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้บูรณะขึ้นใหม่ในปี 2496 สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในเจดีย์โบดาทาวน์คือพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก ประดิษฐานอยู่ในวิหารด้านขวา ตามประวัติระบุว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ แต่เมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี 2428 จึงถูกอัญเชิญไปไว้ในพิพิธภัณฑ์กัลกัตตา ประเทศอินเดีย จึงทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ทิ้งถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้นต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกอัญเชิญไปแสดง ณ พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ต กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แล้วสุดท้ายก็ถูกอัญเชิญกลับมา ณ ประเทศพม่า

นอกจากนี้ ในวัดโบดาทาวน์ยังมีพระเขี้ยวแก้วประดิษฐานอยู่ใกล้กับวิหารพระทองคำ ส่วนด้านซ้ายมือของวิหารคืออาคารที่ประดิษฐานรูปปั้นของนัตโบโบจี หรือเทพทันใจ เทพที่ผู้เคารพศรัทธาเชื่อว่าเมื่อตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งที่ดีงามแล้วจะสมปรารถนาโดยทันใจ (เทพทันใจไม่ใช่พระพุทธรูป แต่คือนัตหรือบางคนเรียกว่าเทพหรือผีที่ศักดิ์สิทธิ์ คนพม่าและคนมอญต่างมีนัตที่ตนเองนับถือและศรัทธา) นัตคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่ตายอย่างร้ายๆ (ตายโหง) นัตคือ พึ่งทางใจของชาวพม่า นัตมีสถานะกึ่งผีกึ่งเทวดา มีระดับสูงกว่าผีทั่วไป แต่ไม่สูงเกินเทวดา สันนิษฐานว่า นัต ในภาษาพม่าอาจมาจากคำว่า นาถ ในภาษาบาลี ซึ่งแปลว่า ที่พึ่ง ปัจจุบันชาวพม่าและมอญนับถือนัตต่างๆ เกือบ 40 องค์ ซึ่งนัตแต่ละองค์ก็จะมีหน้าที่พิทักษ์รักษาสิ่งต่างๆ ให้ผู้คน ดังนั้นชาวพม่าจึงมีประเพณีเซ่นบวงสรวงบูชานัตตลอดเวลา และก่อนจะมีการแสดงต่างๆ ก็ต้องขึ้นต้นด้วยการรำถวายนัต ซึ่งความเชื่อนี้ก็คล้ายกับชาวฮินดูที่บูชาเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ตลอดเวลา

สำหรับเทพทันใจหรือนัตโบโบจีนั้นคือเทพผู้ปกปักรักษาและดลบันดาลโชคดีให้ผู้คน วิธีสักการะเทพทันใจเพื่อขอให้ได้ในสิ่งที่ตั้งใจไว้คือการเข้าไปกราบไหว้และบูชาด้วยดอกไม้ กล้วย มะพร้าวอ่อน และเงินธนบัตร และเมื่อได้ในสิ่งที่ขอกับเทพทันใจแล้วก็ต้องกลับไปแก้บนด้วยดอกไม้ กล้วย มะพร้าวอ่อน และเงินธนบัตร โดยใส่ธนบัตรในมือของนัตโบโบยี 2 ใบ แล้วเมื่ออธิษฐานเรียบร้อยแล้วให้นำธนบัตรกลับมาไว้กับตัวผู้ขอหนึ่งใบ แล้วถวายท่านไปหนึ่งใบ ส่วนวิธีการอธิษฐานคือให้เอาหน้าผากของเราไปแตะกับนิ้วชี้ของท่านแล้วตั้งใจให้แน่วแน่ ส่วนอีกองค์หนึ่งที่ผู้คนนิยมไปขอพรและบนบานกันมากก็คือเทพกระซิบ หรือเมี๊ยะนานหน่วย นางคือธิดาของพญานาคที่บังเกิดความศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีลอย่างเคร่งครัด ไม่กินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต เมื่อสิ้นชีวิตไปจึงกลายเป็นนัต ชาวพม่าและมอญให้ความเคารพอย่างมาก ขอบูชาเทพกระซิบคือ น้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้

หมดพื้นที่สำหรับเขียนเรื่องสิ่งสำคัญๆ ของเมืองย่างกุ้งกับหงสาวดีแล้ว ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงยังมีสิ่งสำคัญให้กล่าวถึงอีกมากมาย เอาเป็นว่าถ้าหากคุณต้องการจะไปเที่ยวหงสาวดีและย่างกุ้งกับคณะของเรา โปรดติดต่อ Mr.Flower ด่วนที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-9250300 (ที่นั่งเหลือเพียง 3-4 ที่เท่านั้น) ทริปนี้เน้นกินดี นอนโรงแรมห้าดาว และไม่นั่งรถนานๆ ไม่ตื่นเช้า ไม่กลับดึก เพราะโรงแรมที่นอนในทริปนี้สวยมาก อยู่ใกล้กับชเวดากอง และที่สำคัญที่สุดคือทริปนี้ไม่ได้เน้นหากำไรเลยแม้แต่น้อย ตั้งใจทำขึ้นเพื่อพาแฟนคลับของแนวหน้าไปไหว้พระทำบุญที่เมืองพม่า

ขอฝากแถมท้ายก่อนจบว่า เวลาจะไปเยือนเมืองพม่า โดยเฉพาะการไปวัดทุกแห่ง ขอให้สวมรองเท้าแตะนะครับ เพราะต้องถอดรองเท้าแล้วเดินเท้าเปล่า ดังนั้นรองเท้าแตะจึงเป็นสิ่งที่ต้องนำไปด้วยครับผม