ด้วยธุรกิจหลากหลายที่เขาเป็นเจ้าของ เป็นหุ้นส่วน ตั้งแต่ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสถานบันเทิง ธุรกิจสิ่งพิมพ์ แม้ปัจจุบันจะผันตัวเองมาเป็น ที่ปรึกษา บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) แต่ใครๆ ก็ยังขนานนาม “กมล เอี้ยวศิวิกุล” ว่าเป็น “เจ้าพ่อ” จากเด็กหนุ่มจากนครปฐมที่ก่อร่างสร้างตัวจนนำพาธุรกิจในกลุ่มไมด้าขึ้นมาอยู่แถวหน้าของเมืองไทย ด้วยบุคลิกเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา เขาจึงมีเพื่อนฝูงรายล้อมอยู่ไม่ขาด แต่ในอีกมุมหนึ่งหนุ่มใหญ่คนนี้ก็มีโลกส่วนตัว ยามว่างจากงานมาพักพิง บ้านทรงไทย บนเนื้อที่ 40 ไร่เป็นอาณาจักรย่อมๆ ที่หากใครได้ไปเยือนจะรู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในยุคสมัยอยุธยาก็ไม่ปาน

กมล บอกเล่าถึงความหลงใหลใน “บ้านทรงไทย” เนื่องจากเขาเป็นรักต้นไม้ ชอบรูปทรงต้นไม้ที่มีความปราดเปรียว มีความแข็งแรง เขายกตัวอย่างระหว่าง ต้นตาลและต้นมะพร้าว แม้จะเป็นไม้สายพันธุ์ใกล้เคียงกัน แต่รูปทรงของต้นไม้สองต้นนี้แตกต่างกัน ต้นตาลมีรูปทรงที่ตั้งตรงแข็งแรง ต่างจากต้นมะพร้าวที่สามารถอ่อนเอนได้ และด้วยการทำธุรกิจที่ต้องเดินทางไปมาทั่วประเทศไทย ทำให้เขามีโอกาสได้เห็นบ้านทรงไทยภาคต่างๆ แต่บ้านเรือนไทยอยุธยาเป็นบ้านที่เขาชอบมากที่สุด

“ผมก็บอกไม่ถูก บ้านทรงไทยอยุธยา มันมีเสน่ห์ มีความปราดเปรียวมากที่สุดในบ้านเรือนไทยตามภาคต่างๆ แล้วเป็นที่อยู่อาศัยที่บอกถึงฐานะของเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะบ้านทรงไทยอยุธยาจะชัดเจนมากกว่า บ้านขุนนาง คหบดี บ้านชาวบ้าน จะมีรายละเอียดในการปลูกสร้างที่ต่างกัน ความจริงก็มีบ้านหลายหลังก็ออกทรงไทย แต่ก็ยังไม่ไทยแท้ ผมมีความตั้งใจไว้แล้วว่าบ้านหลังที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ต้องเป็นบ้านทรงไทยอยุธยาแท้ๆ อีกอย่างผมเป็นคนนครปฐมก็อยากจะสร้างบ้านอยู่ที่นี่ พอดีมีที่ดินอยู่ 200 ไร่ให้คนงานทำสวนทำไร่ไป ผมก็เลยแบ่งที่ดินมา 40 ไร่ เพื่อปลูกบ้านทรงไทยอย่างที่ฝันไว้”

ความชื่นชอบในบ้านทรงไทย ของ กมล ไม่ใช่เพียงแค่ผิวเผิน แต่เมื่อตัดสินลงมือปลูกบ้านทรงไทย เขาลงทุนสร้างโรงเลื่อยไม้เป็นของตนเอง และเชิญผู้เชี่ยวชาญบ้านทรงไทยและศิลปะไทย มาเป็นผู้ออกแบบการปลูกสร้าง ที่ตรงตามตำราบ้านทรงไทยอยุธยากันเลยทีเดียว

“สร้างมาจะเข้าปีที่ 14 แล้ว ยังไม่เสร็จเลย ด้วยเนื้อที่มันกว้าง พอสร้างเสร็จบ้านกลุ่มนี้เสร็จมันก็เลยแบบ จากตรงมุมนี้ มองไปมุมนั้นมันสวยปลูกอีกกลุ่มดีกว่า มีสระน้ำก็ต้องปลูกศาลาริมน้ำ สร้างหอพระกลางน้ำ แล้วเรือนไทยแท้ๆ ไม่ใช่มีแค่หลังเดียว เขาถึงเรียกเป็นกลุ่มไง กลุ่มเล็กสุดก็จะเห็นว่ามีหลังเดี่ยว เขาเรียกว่า หอนก กลุ่มแปดต้องมี หอนั่ง หอนอน หอพระ ศาลากลางบ้าน อย่างนี้เป็นต้น ความงดงามของบ้านเรือนไทยแต่ละกลุ่มก็ไม่เหมือนกัน ตอนนี้สร้างไปแล้ว 8 กลุ่ม เหลืออีก 2 กลุ่ม ก็น่าจะพอแล้ว”

เท่านั้นยังไม่พอในรอบรั้วบ้านของเขายังเต็มไปด้วย สัตว์เลี้ยงอย่าง วัว ควาย ม้า เป็ด ห่าน นับรวมๆ แล้วกว่า 100 ชีวิต

“ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงหรอก เริ่มจากลูกน้องผมเขาไปไถ่ชีวิตความจากโรงฆ่าสัตว์ 1 คู่ ตัวผู้กับตัวเมีย ให้เป็นของขวัญวันเกิด แล้วตัวเมียท้องพอดี ก็เลยเป็น 3 ตัว ต่อมาคนงานในไร่มีวัว 6 ตัวจะเอาไปขาย เมียเขาสงสารก็มาขอให้ผมช่วยซื้อผมก็ซื้อไว้ คนโน่นคนนี้เอามาให้เพิ่มอีก วัวกับควายนี่ 30 กว่าตัว อย่างไก่ชนนี่คนงานอีกเหมือนกันเลี้ยงไว้แล้วเอามาชนพนันกัน ผมไม่ชอบผมก็ยึดไก่มันมาเลี้ยง ตอนนี้มี 50-60 ตัวได้ โดนโขมยไปก็เยอะ ทั้งหมดมันได้มาด้วยความไม่ตั้งใจ

ที่ตั้งใจเลี้ยงจริงๆ ก็เป็ด เลี้ยงไว้เผื่อให้กินสาหร่ายในสระน้ำ แต่มันดันไม่กินก็ต้องซื้ออาหารเป็ดมาเลี้ยง ห่านก็เหมือนกัน คนบอกห่านกันงูได้ ก็ซื้อมาเลี้ยงมันก็ออกลูกออกหลานกันสนุก แล้วก็ม้ามีคนให้มาเป็นของขวัญวันเกิด มันเป็นตัวผู้ทั้งคู่เลย ผมสงสารก็เลยไปซื้อตัวเมียมาอีก 2 ตัวให้มันเป็นคู่กัน ตอนนี้มีม้าอยู่เกือบ 20 ตัว ทั้งหมดที่เลี้ยงไว้ วัว ควาย เป็ด ไก่ ไม่เคยคิดจะกินนะ มันมาอยู่ด้วยก็เลี้ยงกันไป แต่ละเดือนค่าอาหารสัตว์ ค่าสัตวแพทย์ร่วมๆ แสน รับเขามาเลี้ยงแล้วก็ต้องดูแลเขาให้ดี แต่เคยพูดกับพวกสัตว์พวกนี้เล่นๆ นะ ว่า ให้พวกมันสวดอ้อนวอนไม่ให้ผมจน เพราะถ้าผมจน ไม่มีเงินเลี้ยงพวกมัน ผมก็ต้องขายอยู่ดี อันนี้ขำๆ เอาจริงๆ ไม่ขายหรอก”

อย่างที่บอกตอนต้นว่า เขาตั้งใจจะใช้ชีวิตบั้นปลายที่จังหวัดนครปฐม จึงไม่ได้สร้างบ้านทรงไทยไว้เป็นที่พักกายพักใจเท่านั้น แต่เขายังตั้งใจสร้าง “ไมด้า ทวารวดี แกรนด์ นครปฐม” โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แห่งแรกและแห่งเดียวของนครปฐม ซึ่ง กมล ใส่ความเป็นตัวตนของตัวเขาเองลงไปอย่างเต็มที่

“บ้านเกิดผมอยู่ที่นี่ อายุขนาดนี้แล้วกำลังจะเกษียณ ลาออกจากตำแหน่งบริหารหมดแล้วมาเป็นที่ปรึกษา นอกจากสร้างบ้านผมก็อยากให้โรงแรมนี้เป็นเหมือนบ้านอีกหลัง ก็เลยตั้งใจสร้างเป็นพิเศษ ด้วยคอนเซ็ปต์การตกแต่งสมัยทราวดีและแบบไทยแท้ ตั้งแต่ประตูทางเข้าด้านหน้า ทุกอย่างมีรายละเอียดในตัวมันเองหมด เข้ามาในตัวอาคารโรงแรมก็มี กินรี – เหรา สัตว์ในหิมพานต์ออกแบบโดยอาจารย์ที่ดูแลบ้านทรงไทยให้ผม อย่างศาลาที่สระว่ายน้ำ ปลูกสร้างแบบโบราณ แกะสลักปิดทอง งบบานปลายมากแต่ผมก็ยอม เพราะไม่ใช่แค่ความชอบส่วนตัว แต่ผมอยากให้ ไมด้า ทวารวดี แกรนด์ นครปฐม เป็นหน้าเป็นตาแลนด์มาร์คของนครปฐมด้วย”

ถึงแม้จะออกปากว่าเกษียณ แต่หนุ่มใหญ่วัย 63 ปี บอกว่า ถึงอย่างไรก็ยังไม่สามารถหยุดทำงานได้ ตราบใดที่สมองยังทำงานได้ เพียงแต่จะทำงานให้น้อยลง เป็นมือที่คอยโอบอุ้มเจนเนเรชั่นที่สองของไมด้า และคงจะพอมีเวลามองหา “คนรู้ใจ” มาแชร์ความสุขร่วมกันสักคนหนึ่ง

“ผมไม่สนใจนะผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใครมาจากไหน  แต่อยู่ที่ว่าวันนี้เราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ถ้ามีความสุขก็จบ” เจ้าพ่อไมด้า เผยสเป็คสาว เป็นการทิ้งท้ายตามสไตล์ผู้ชายอารมณ์ดี