เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กับพิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์

เอาอกเอาใจเด็กๆ และพ่อ-แม่ที่มี ลูกเล็กๆ จริงๆ สำหรับรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยสัปดาห์นี้พิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” จะพาไปพูดคุยกับ “เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์” กรรมการบริหาร บริษัททรีแอลเอ็น จำกัด และเจ้าของ ฟันเนเรี่ยม (FUNARIUM )สนามเด็กเล่นในร่ม ที่เน้นในเรื่องของความปลอดภัย และใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ เล่าว่า“แต่เดิมทำธุรกิจทางด้านการเงินการลงทุน เคยทำงานอยู่ที่ธนาคาร ทำกองทุนรวม และก็ออกมาทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มจากสินค้าแม่และเด็ก เป็นแบรนด์ มาเธอร์แคร์ มาจากประเทศอังกฤษ ก็ทำกับภรรยามา 3-4 ปี และหลังจากนั้นก็มาต่อยอดเป็นสนามเด็กเล่นในร่มครับ ซึ่งแรงบันดาลใจในการทำสนามเด็กเล่นในร่มนี้ เรียกว่าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเงินเลย จริงๆ แล้วประสบการณ์ที่ได้มานี้ ก็ทำให้เราได้มองอะไรหลายๆ ด้าน ทำให้สร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาได้

หลังจากนั้นเราก็เห็นว่าทำไมผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศ เขาให้ความสำคัญเกี่ยวกับทางด้านความปลอดภัยมาก และช่วงนั้นก็ค่อนข้างจะอินเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยในเด็ก เพราะว่าบ้านเราจะมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กค่อนข้างจะเยอะ สนามเด็กเล่นล้มทับเด็กเสียชีวิตบ้างอะไรบ้าง ก็เลยทำความเข้าใจมากขึ้น และเผอิญช่วงนั้นก็ออกมาจากวงการการเงินแล้ว ก็มีเวลา ลูกก็กำลังโต เราไปเห็นตัวอย่างนี้ในต่างประเทศ แล้วเราก็คิดว่ามันเป็นที่เรียกว่าสนามเด็กเล่นในร่ม ประเทศไทยยังไม่มี เราก็เลยศึกษา และก็คิดว่ามันน่าจะเอามาทำในประเทศไทยได้บ้าง ก็เลยเป็นที่มาของ ฟันเนเรี่ยม แห่งนี้

จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็ 6 ปีแล้ว ส่วนของเด็กเล่นในนี้ที่เรียกว่าสนามเด็กเล่นของเราเราเริ่มรับเด็กตั้งแต่คลานเลย จนกระทั่งอายุ 13 ปี เราก็จะแบ่งโซนที่เรียกว่าโซนเล่นออกไป 2 ส่วน คือส่วนเด็กเล็ก กับส่วนเด็กโตเด็กเล็กคือตั้งแต่คลานจนถึง 4 ขวบ เพราะว่าเขายังวิ่งไม่ค่อยแข็ง ก็จะเป็นสนามเด็กเล่นที่พ่อแม่พาลูกมาเล่น เป็นที่ที่คุณพ่อคุณแม่จะใช้เวลาประคบประหงมดูแลลูกอยู่อย่างใกล้ชิดอันนี้ก็จะเป็นโซนที่เรียกว่า โซนเด็กเล็ก และก็จะมีโซนเด็กโต ก็จะมีอายุตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไป ก็จะเป็นเครื่องเล่นสไลเดอร์ขนาดสูง 2-3 ชั้น แล้วก็มีกิจกรรมทางด้านเรื่องของกีฬา เล่นบาส เล่นบอล เล่นโรเลอร์เบสได้ อันนี้ที่เราเรียกว่าโซนเล่น

โซนกิจกรรม ก็จะเป็นกิจกรรมที่เรียกว่า กิจกรรมวาดรูป ห้องศิลปะ ร้องรำทำเพลงบ้างบนเวที ตรงนี้เราจะมีบุคลากรนำในกิจกรรม ไม่มีคลาส เพราะเราเป็นสนามเด็กเล่นหมายความว่าคุณพ่อคุณแม่พอใจจะมากี่โมงก็มา ในช่วงที่เราเปิด 09.00-18.00 น. เราก็จะมีกิจกรรมทั้งวัน เสาร์-อาทิตย์ก็อาจจะมีมากหน่อย เช่น อาจจะมีร้องรำทำเพลง ก็มาเล่นได้ทั้งวัน

ข้างในนี้เราก็จะมีโซนอาหารด้วย ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทานอาหาร มาที่นี่แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็จะอยู่กับเด็กๆ ได้ทั้งวัน อาหารเราก็พยายามที่จะเรียกว่าอาหารมีสุขลักษณะ ก็คือไม่ใช่ที่เรียกว่าฟาสต์ฟู้ดส์ แน่นอนเรามีอาหารที่ทานเร็ว เด็กๆ ส่วนใหญ่สมัยนี้ก็อยากจะทานอาหารอะไรที่ทานง่ายและคุ้นเคย ซึ่งเราก็มี แต่ว่าอาหารที่เรียกว่าเป็นสุขลักษณะก็มีด้วยเช่นกัน

สำหรับชื่อ ฟันเนเรี่ยม มาจากคำว่า ฟัน (FUN) กับ เอเรี่ยม (ARIUM) ฟัน คือเราต้องการให้ที่นี่เป็นที่ที่สนุก เอเรี่ยม คือสถานที่เพราะฉะนั้นเราก็เอามาสมานกันก็กลายเป็น ฟันเนเรี่ยม ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 26 เนื้อที่ 2 ไร่ก็แบ่งเป็นตัวตึกกับที่จอดรถ ในตัวตึกก็ประมาณ 2,000 ตารางเมตร เครื่องเล่นทั้งหมดเราไม่ได้นับเป็นชิ้น แต่เราแบ่งเป็นโซนแต่เราก็คิดว่าที่เรามีอยู่ก็ใหญ่ที่สุดแล้ว ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ นี้

ส่วนเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยนั้น เป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ต้น ก็คืออย่างที่เรียนไว้มูลเหตุที่ผมมาสร้าง ฟันเนเรี่ยม เป็นเพราะว่าเห็นว่าบ้านเราละเลยเรื่องของความปลอดภัยไว้เยอะ อุปกรณ์ที่เราใช้ที่นี่เรานำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ ทำไมต้องเป็นประเทศอังกฤษ เพราะว่าเขามีมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยค่อนข้างจะสูงมาก อุปกรณ์ทุกชิ้นเขาจะมีการปกป้องว่าอย่างไรไม่ให้เด็กได้รับอันตราย ซึ่งหมายถึงเรื่องของการดีไซน์ด้วยเหมือนกัน

หลายๆ ครั้งผู้ปกครองที่ไม่มีความรู้ ไปที่สนามเด็กเล่น จะไม่สังเกตว่าทำไมถึงเกิดอันตรายขึ้น แต่ของเราทุกมุมทุกหลืบ จะมีกรรมวิธีการป้องกัน ไม่ให้เด็กประสบอุบัติเหตุได้อันนี้เป็นอันแรก อันที่สองคือใครก็ตามที่จะมาที่ฟันเนเรี่ยม ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เดินเข้ามาจะเข้าได้ เด็กจะต้องเป็นคนพาผู้ใหญ่เข้าคือหมายความว่าถ้าเกิดคุณเป็นผู้ใหญ่ คุณเดินเข้ามาที่ฟันเนเรี่ยมเฉยๆ คือเข้าไม่ได้นะครับ เราไม่ให้คุณเข้า คุณไม่มีกิจธุระ ที่นี่คือสถานที่ที่เด็กเป็นใหญ่ เพราะฉะนั้นเด็กต้องเป็นคนพาผู้ใหญ่มา

สมมุติว่าในกลุ่มของคุณพามา 5 คน ขากลับคุณต้องกลับ 5 คนด้วย แล้วเราก็จะมีแท็กข้อมือ ที่จะควบคุมว่าคำว่า 5 คนในกลุ่มของคุณหมายถึงคนไหน สลับตัวกลับก็ไม่ได้ ซึ่งหมายความว่าคนแปลกหน้าที่ไม่มีสิทธิ์อะไรในนี้ก็คือเข้าไม่ได้ มา 5 กลับ 6 ไม่ได้ มา 5 กลับ 4 ก็ไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันอันตราย

สุดท้ายเรื่องของความสะอาด ที่เกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยด้วย เพราะว่าสมัยนี้โรคภัยไข้เจ็บมันก็เยอะ โดยเฉพาะหน้าฝนเราก็จะทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา คือที่ฟันเนเรี่ยมนี่ผมไม่มีชีทให้มาว่าต้องทำความสะอาดทุกครึ่งชั่วโมงเราไม่มี เหตุผลเป็นเพราะว่าเราต้องทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา คือเราไม่ได้ทำทุกครึ่งชั่วโมง เราทำอยู่ตลอดเวลา

เรื่องการจัดกิจกรรม เราจะมีกิจกรรมให้กับเด็กๆ อยู่แล้ว เช่น วันเด็ก วันคริสต์มาส ปีใหม่ ที่ขอใช้คำว่าพิเศษจริงๆ ของเราก็คือ วันฮาโลวีน เพราะว่างานฮาโลวีนบ้านเราส่วนใหญ่จะเน้นไปที่วัยรุ่น หน้าตาเละๆ มีแผลเยอะๆ แต่ของเราเราจะเน้นสำหรับเด็กเล็กๆ แต่งตัวสวยงาม แปลกบ้าง อะไรบ้าง เราจัดมา 6 ปีแล้วได้รับความนิยมมากมาย ก็มากันทั้งครอบครัว ก็มาประกวดกันทั้งครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ คุณลูก คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย

กับเรื่องความประทับใจ คือมีหลายเหตุการณ์ครับ อันหนึ่งที่ประทับใจเพราะว่าเห็นกับตาตัวเอง ก็คือว่าเรื่องของการเล่น มันช่วยเรื่องของการพัฒนาเด็กมากจริงๆ คือสิ่งหนึ่งที่เราพยายามที่จะให้เห็นที่นี่ก็คือ หลายๆ ครั้งที่เราอัดวิชาการไปให้ในเด็กเยอะเราลืมนึกถึงเรื่องของจินตนาการ เราลืมนึกถึงเรื่องของการแก้ปัญหา ซึ่งทั้งหมดมันมาได้จากการเล่น การรู้จักรอเข้าคิว การแชร์กัน อะไรอย่างนี้

ที่เห็นกับตาอีกอันหนึ่งคือ เด็กพิเศษที่มา ที่นี่เราไม่ได้ปิดกั้นกับใครเลย เพราะฉะนั้นจะมีกลุ่มที่เป็นเด็กพิเศษมาอยู่พอประมาณ เราจะเห็นว่าเขามีพัฒนาการในแต่ละวันอย่างไร แล้วเราขอใช้คำว่าชื่นใจ ที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้เขามีพัฒนาการที่ดีขึ้น สำหรับเด็กๆ ที่จะมาใช้บริการที่นี่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสมาชิก ที่นี่ใครอยากมาก็มา เราก็มีค่าเข้าเด็กเล็ก 200 บาท เด็กโตหมายถึงสูงเกิน 105 เซนติเมตร 320 บาท ผู้ใหญ่ก็ 110 บาท ถ้าเป็นวันธรรมดาก็อยู่ได้ทั้งวัน ถ้าวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ก็อยู่ได้ 3 ชั่วโมง

ถามว่าเราดำเนินธุรกิจมาก็หลายด้านมีหลักการอะไรในการดำเนินชีวิต และประกอบธุรกิจบ้าง ตรงนี้คือผมคิดว่า แน่นอนที่สุดเราพยายามที่จะทำธุรกิจที่เรียกว่าสุจริต แล้วก็เราคิดว่าคนไทยเราสามารถสู้กับใครก็ได้ในโลกนี้ ขอให้มีความคิด แล้วก็สามารถเอาความคิดเอาประสบการณ์มาสู้กับคนทั้งโลกได้แต่ก็ขอใช้คำว่าต้องทำอย่างตรงไปตรงมา เราสู้ได้ครับ”