ผาณิต พูนศิริวงศ์ กับบุตรทั้งสามของคุณแม่นงนุช ได้แก่ วิวัฒน์-นันทา-กัมพล ตันสัจจา
เป็นความงดงามอลังการที่ถูกกล่าวขานถึง สำหรับงานพระราชทานเพลิงศพนงนุช ตันสัจจา ผู้ก่อตั้งสวนนงนุชพัทยาซึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ ณ เมรุวัดธาตุทอง ที่ถูกตกแต่งประดับประดาด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างงดงามราวกับสรวงสวรรค์ เพื่อร่วมส่งผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 16 กันยายน 2558
นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ผู้เป็นบุตรชาย เผยว่า ลูกๆ ทั้งสามคน (วิวัฒน์-นันทา-กัมพล ตันสัจจา) ตั้งใจที่จะออกแบบจัดดอกไม้ประดับเมรุในงานพระราชทานเพลิงศพให้กับคุณแม่อย่างงดงามที่สุด ให้เห็นถึงความงดงามของดอกไม้ ที่ถูกตกแต่งเสมือนสรวงสวรรค์ ให้ผู้มาร่วมงานไม่รู้สึกโศกเศร้า โดย นายมานิจ นารินทร์รักษ์ผู้จัดการแต่งดอกไม้ ได้ระดมช่างจัดดอกไม้ซึ่งเคยผ่านเวทีจัดประกวดดอกไม้ระดับโลกและคว้าแชมป์เหรียญทองในงานเชลซีฟลาวเวอร์โชว์ ประเทศอังกฤษ 6 ปีซ้อนมาจัดดอกไม้และตกแต่งตามซุ้มต่างๆ บริเวณเมรุและศาลาโดยรอบ ใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วัน เริ่มขึ้นโครงสร้างเหล็ก ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 และในวันที่ 14-15 กันยายน 2558 ก็นำดอกไม้นานาชนิดมาประดับตกแต่ง
ซุ้มดอกไม้ที่ประดับอยู่บริเวณรอบเมรุวัดธาตุทอง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพเป็นอย่างมาก พร้อมร่วมบันทึกภาพความสวยงามอลังการของซุ้มดอกไม้ ที่ตกแต่งอย่างตระการตา ด้วยดอกไม้ไทยนานาชนิดและต้นไม้ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 850,000 ช่อ ประกอบด้วย ดอกไม้หวาย 650,000 ช่อ ดอกไม้พิเศษอื่นๆ เช่น ไฮเดรนเยีย, กุหลาบ, ลิลลี่ รวม 200,000 ช่อ, และต้นไม้อีก 14,720 ต้น, สับปะรดสี 8,000 ต้น, หมากแดง 300 ต้น, หางกระรอก 120 ต้น, หมากเขียวเล็ก 300 ต้น, หมากเขียวใหญ่ 60 ต้น, สับปะรด สีโพเทีย 1,000 ต้น และเข้มเชียงใหม่ 5,000 ต้น จัดตั้งแต่หน้าโบสถ์ไปถึงประตูงาน
ทั้งนี้ ผลงานอันโดดเด่นของ คุณแม่นงนุช ตันสัจจา ย้อนอดีตไปเมื่อปี พ.ศ. 2497 เจ้าของโรงภาพยนตร์เฉลิมไทยคุณพ่อพิสิฐ และคุณแม่นงนุช ตันสัจจา ได้ตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 1,300 ไร่ บนถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 163 อยู่ระหว่างพัทยา-สัตหีบ ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะพลิกฟื้นพื้นที่แปลงนี้เป็นสวนผลไม้ปลูกมะพร้าว มะม่วง และอื่นๆ เพราะนอกจากจะยึดเป็นอาชีพเสริมในบั้นปลายชีวิตแล้วยังใช้เป็นที่พักผ่อน ใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย และบริเวณนี้อากาศดี สิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ ตรงกับอุปนิสัยเป็นอย่างยิ่งถึงแม้สมัยนั้นการคมนาคมยังไม่สะดวกนัก
คุณแม่นงนุช ตันสัจจา เป็นผู้ชอบเดินทางท่องเที่ยว ครั้นเมื่อกลับจากการเดินทางท่องเที่ยวยุโรปและเอเชียในหลายประเทศ จึงเกิดแนวคิดและแรงบันดาลใจครั้งสำคัญ จากการได้เห็นความสวยสดงดงามของพันธุ์ไม้หลากสีสันจากสวนหลายแห่งในประเทศอิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส และสวนพฤกษศาสตร์ในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ณ ช่วงเวลานั้น จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ได้พลิกโฉมสวนมะพร้าว สวนมะม่วง มาเป็น “สวนนงนุช”
อันอุดมไปด้วยแมกไม้ร่มรื่นหลากสีสัน และนี่คือที่มาของสวพฤกษศาสตร์เอกชน ที่เปิดให้สาธารณชนเข้ามาเยี่ยมชมในปีพ.ศ. 2523 ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ชื่นชมพฤกษศาสตร์นานาพรรณ ซึ่งต่อมาได้เพิ่มบทบาทในฐานะแหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ เป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดนักพฤกษศาสตร์ และนักเล่นต้นไม้ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเยี่ยมชมนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้ที่ยาวนาน แต่การพัฒนายังไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องพัฒนาต่อไป คุณแม่เคยพูดและจารึกไว้ว่า “ณ ที่แห่งนี้ นงนุช ตันสัจจาขอมอบให้เป็นมรดกทางการศึกษาแก่ชนรุ่นหลังเพื่อเรียนรู้และพัฒนาสืบไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี