หากนักท่องเที่ยวที่เรียนวิทยาศาสตร์หรือชื่นชอบ Leonardo da Vinci ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนมิลาน สถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเขาควรไปมิใช่เพียงแค่ Duomo, Sforza Castle, Emmanuel เท่านั้น National and Technology Museum เป็นสถานที่อีกแห่งที่ต้องไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นเสมือนหนึ่งมาไม่ถึงมิลานเลยทีเดียว ทั้งนี้เพราะที่นี่เป็นมิวเซียมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีและเป็นสถานที่เก็บผลงานของ Leonardo da Vinci มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
มิวเซียมแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ อารามเก่าที่เรียกว่า San Vittore al Corpo นี้ดั้งเดิมเป็น Benedectine convent แต่ในปี 1507 นักบวชกลุ่ม Olivetan ได้รับคอนแวนต์แห่งนี้มาปรับปรุง และขยายต่อเติมให้ใหญ่ขึ้น แต่ในปี 1805 ที่นโปเลียนมาครอบครองมิลานนั้น วัดแห่งนี้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลทหาร และกลายเป็นค่ายทหารในปีต่อมา หลังจากนั้นสภาพของอารามก็ลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด อารามแห่งนี้เสียหายอย่างหนักจากระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างไรก็ดีในปี 1947 เทศบาลเมืองมิลานก็ได้สถาปนาอารามแห่งนี้ให้เป็น National Museum of Science and Techniques
เครื่องพิมพ์ดีด
ก่อนที่มิวเซียมจะได้สถานที่ตั้งถาวร มิวเซียมถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1906 โดย Guido Ucelli ได้เชิญให้สถาบันจัดตั้งมิวเซียมอุตสาหกรรมขึ้น ต่อมาในปี 1930 เทศบาลเมืองมิลานก็ได้จัดตั้ง Museum of Art and Industry ขึ้นโดยมี Guido Ucelli di Nemi เป็นประธานคนแรก อีกปีหนึ่งต่อมา Guglielmo Marconi ประธาน National Research Council ก็ได้อนุญาตให้ใช้สถานี Sempione เป็นที่จัดตั้งมิวเซียม มิวเซียมถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่15 กุมภาพันธ์ ปี 1953 โดยทำการจัดแสดงผลงานของ Leonardo da Vinci เป็นคนแรก หลังจากนั้นในปี 1959 มิวเซียมก็เพิ่มส่วนของ Transport section ขึ้นและเพิ่มส่วนของ Music Instrument and Photo and film section ในปี 1962 อีกสองปีต่อมามิวเซียมก็เพิ่มส่วนของ Air transport ขึ้น และเพิ่มการจัดแสดงเครื่องยนต์รถไฟและรถในส่วนของ Railway transport ในปี 1967
5 มีนาคม ปี 1975 มิวเซียมได้เพิ่มส่วนของ New Radio and Television ขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ระลึกถึง Francesco Vecchiacchi ระหว่างปี 1982-3 มิวเซียมได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับLeonardo da Vinci อีกหลายครั้ง และในปี 1986 มิวเซียมก็ได้เพิ่มส่วน Playing with technology and science เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์มากขึ้น ต่อมาในปี 2006 มิวเซียมได้เพิ่มส่วน Plastic and new interactive lab Chemistry and Plastics และ Electricity รวมทั้ง Interactivelab เกี่ยวกับ Leonardo da Vinci ขึ้น ปีต่อมามิวเซียมก็เปิด Telegraph, Telephone and Television ในส่วนTelecommunication และ New Oil Area ขึ้น ปัจจุบันมิวเซียมมีของสะสมและ Interactive Lab อยู่ 7 ส่วน คือ Materials, Transports, Energy, Communications, LeonardoArt & Science, New Frontiers, Science for young children โดยแต่ละส่วนจะมีส่วนการศึกษาและวิจัย รวมทั้งของสะสมเพื่อไว้ในการจัดแสดงนิทรรศการ การศึกษา การประชุมเชิงปฏิบัติการอยู่เป็นจำนวนมาก
กล้อง
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเข้าชมมิวเซียมแห่งนี้ต้องมีขาที่แข็งแรง ความรู้และกำลังใจในการเดินชมพอสมควร ทั้งนี้เพราะที่มีของสะสมอยู่มากถึง 16,000 ชิ้น ตั้งแต่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ การขนส่ง เรือ รถ หัวรถไฟ เครื่องบิน เครื่องส่งวิทยุ
วิทยุ โทรศัพท์ เครื่องจักรอุตสาหกรรมโดยจัดอย่างเป็นหมวดหมู่ตามแผนกต่างๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเอกสารในห้องสมุดอีกกว่า 4 หมื่นชิ้นนี้ที่เป็นประจักษ์พยานความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมของอิตาลีด้วย การที่มิวเซียมแห่งนี้มีของสะสมจำนวนมากร่วมกับการจัดส่วนการศึกษาและการประชุมเชิงปฏิบัติการที่หลากหลายสาขาส่งผลให้มิวเซียมแห่งนี้เป็นมิวเซียมที่มีคนเข้าดูมากที่สุดในมิลานและเป็นอันดับต้นๆ ของมิวเซียมวิทยาศาสตร์ในระดับโลกด้วย
Solar Clock
Model from Davinci idea
เตารีด
นาฬิกา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี