อิง-ยลวารี สัตยนาวิน เล่าว่า “ธุรกิจนี้จริงๆ แล้วอิงเริ่มตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เนื่องจากเราเป็นผู้หญิงชอบความสวยงาม แล้วก็อยากจะทำอะไรเป็นธุรกิจของตัวเอง ก็เลยเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุดนั่นก็คือเครื่องประดับ ค่อนข้างถึงขนาดสะสมเลยก็ว่าได้ หรือไปที่ไหนก็จะชอบมาก
ก็เลยเริ่มจากตอนแรกไปหาของวินเทจมาขาย แล้วอิงก็สะสมจนได้เงินก้อนหนึ่งหลังจากนั้นก็พัฒนาทำเป็นคอลเลคชั่นของตัวเอง มีทั้งดีไซน์เอง แต่ เฮ้าส์ ออฟ จิวเวลรี่มันเกิดจากเหมือนเราอยากให้เป็นร้านที่รวมจิวเวลรี่จากดีไซเนอร์ไทยทั้งหมด แล้วก็งานที่มีความสามารถ ฉะนั้นนอกเหนือจากที่อิงออกแบบเองแล้ว ก็จะมีงานที่อิงเลือกมาขายทั้งจากต่างประเทศและก็ทั้งเมืองไทยอิง-ยลวารี สัตยนาวิน และพิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์
อิงเปิดร้านมาตั้งแต่ปลายปี 2009 จนถึงวันนี้ก็ประมาณ 6-7 ปีแล้ว มีเกือบ 30 แบรนด์แล้ว 30 แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ของไทยดีไซเนอร์ แล้วก็เป็นแบรนด์ของอินเตอร์แบรนด์ด้วย ตอนนี้มีทั้งหมด 4 สาขา อันแรกเลยที่อิงเปิดคือที่สยามสแควร์ ซอย 1 ร้านชื่อ บ๊อกซ์ร้านที่ 2 ที่เปิดอยู่ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ร้านที่ 3อยู่ที่เซ็นทรัล เวิลด์ และที่ซอยอ่อนนุช 66 คือสาขาที่ 4 จะเป็นเฟล็กชิฟสโตร์เลย คือเป็นร้านเฮ้าส์ ออฟ จิวเวลรี่ จริงๆ
นอกจาก เฮ้าส์ ออฟ จิวเวลรี่ ที่อิงเลือกของมาขายแล้ว ถ้าเป็นคาแร็กเตอร์ของเฮ้าส์ ออฟ จิวเวลรี่ เราจะค่อนข้างเลือกงานเหมือนเป็นอาร์ตพีส คือมีความโมเดิร์น ไม่ค่อยเป็นจิวเวลรี่เหมือนสมัยก่อนและมันจะค่อนข้างเหมือนคอสตูมจิวเวลรี่มากกว่า คือเป็นชิ้นใหญ่ๆล่าสุดเราก็มีเป็นแก้ว แล้วก็เป็นน้ำข้างในอันนี้ก็ฟีดแบ๊กดีมาก
แต่ส่วนแบรนด์ของตัวเอง อิงตั้งขึ้นมาชื่อ ยลวารี ตามชื่อจริงอิงเลย คือเป็นคนชอบท่องเที่ยวมาก ฉะนั้นแต่ละคอลเลคชั่นก็จะมีแรงบันดาลใจมาจากสถานที่ที่อิงไปเที่ยว แต่มันจะออกมาเป็นค่อนข้างเส้นเรขาคณิต แล้วก็ความเรียบคมชัด หรืออย่างเพชร อิงก็จะเลือกเป็นเพชรสี่เหลี่ยม เพราะอิงเป็นคนชอบสเต็ปคัทชอบสี่เหลี่ยม เรื่องราวมันอาจจะเป็นสถานที่โบราณก็จริง แต่มันจะออกมาโมเดิร์นมากทันสมัยมาก ทุกครั้งที่อิงไปท่องเที่ยวเดินทาง ก็จะได้แรงบันดาลใจมาออกแบบจิวเวลรี่ด้วย
สำหรับวัตถุที่ใช้ อย่างที่อิงใส่อยู่ จะเป็นเงินแท้หมดเลยค่ะ เน้นเงินแท้ ตัวเพชรจะเป็นซีแซส ไทเทเนียม สีส่วนใหญ่ที่อิงใช้จะใช้ซิลเวอร์กับพิ้งค์โกลด์ อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวเลยชอบใช้สองสีนี้
ล่าสุดอิงมีโปรเจกท์ใหม่ขึ้นมาต้อนรับเดือนแห่งความรัก ก่อนหน้านี้อิงเปิดที่ซอยอ่อนนุช 66 เมื่อปีที่แล้ว เป็นคอนเซ็ปต์ซาฟารี ช่วงนั้นเปิดแค่ 1 เดือนเท่านั้นเพื่อแขกพิเศษคราวนี้อิงเปิดเป็นชื่อ พิ้งค์แพชชั่น แรงบันดาลใจมาจากว่า อิงอยากให้ที่นี่เป็นแหล่งรวมคนที่รักในสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วก็ตามความฝันของตัวเอง ฉะนั้นปีนี้พิเศษมากคือ อิงเลือกมา 4 แบรนด์ที่เป็นที่มาของแรงบันดาลใจอันนี้ ได้แก่ ไอรดาพิ้งค์ไวท์พิ้งค์ อิสวัน แล้วก็ สวิมแวร์ จะเป็นเสื้อผ้า 2 แบรนด์ กระเป๋า 1 แบรนด์ แล้วก็ชุดว่ายน้ำ 1 แบรนด์
และในเดือนพิเศษเดือนนี้ สถานที่นี้จะสำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เราจะเป็นแขกที่เราเชิญ เป็นแขกทั้งวีไอพี และลูกค้าที่อยู่กับเรามานาน มาชมที่นี่ คือนอกจากเราจะมี 1 แบรนด์พิเศษที่อิงบอกไปแล้ว อิงก็เปิดไลน์เฟอร์นิเจอร์ คือส่วนตัวเราเป็นคนชอบการเดคเคอเรชั่นอินทีเรีย คือ ธีมปีที่แล้วไม่ใช่แบบนี้เลย สมมุติว่าปีถัดไปจะเป็นแบบไหนเราก็จะฉีกแนวเลย คือทุกอย่างที่เห็นอยู่ตรงนี้ ก็จะไม่มีอยู่ตรงนี้แล้วเนื่องจากมันเป็นความลิมิเต็ดมาก หมายความว่าถ้าคุณพลาดปีนี้แล้ว ก็จะไม่เห็นอะไรแบบนี้ และรูปทุกอย่างก็จะไม่ใช่แบบนี้ คืออิงอยากจะเสนอไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ไม่ใช่แค่เรามาช็อปปิ้งแต่เราเหมือนแบบมีกิจกรรมอะไรทำที่แหวกแนว ไม่ใช่แค่เดินห้างหรือว่ากินข้าวกับเพื่อน แต่เราเหมือนมาจัดสรรกลุ่ม รักในการช็อปปิ้ง แล้วก็อยู่ด้วยกัน แล้วก็เอ็นจอยอินทีเรีย
คนที่มาที่นี่ก็จะเห็นงานดีไซน์จิวเวลรี่จากแบรนด์ต่างๆ ชิ้นที่สำคัญๆ ที่ทำมาในโปรเจกท์นี้ก็มีทั้ง 4 แบรนด์ที่ได้กล่าวไปแล้วเขาจะออกแบบจิวเวลรี่คอลเลคชั่นพิเศษ ที่แมทชิ่งกับของที่เขามาทำ เช่น อิสวัน สัญลักษณ์เขาเป็นตัว X ฉะนั้นจิวเวลรี่เขาจะเป็นชิ้นเล็กๆที่เป็นตัว X เป็นแหวนอันเล็กๆ ส่วนพิ้งค์ไวท์พิ้งค์เขามีแรงบันดาลใจมาจากชุดนอน ฉะนั้นจิวเวลรี่เขาจะเป็นเหมือนเสื้อเขาจะแหวกลึกนิดหนึ่ง เพื่อเซ็กซี่ แต่เขาจะมีจิวเวลรี่ชิ้นหนัก ไล่ลงมาตามสูทแล้วก็จะใช้เพชร ก็เหมือนความแวววาวนิดหนึ่งซึ่งของทั้งหมดไม่ได้มีแค่ในเดือนนี้พอเดือนมีนาคม เราจะอนุญาตให้คนนอกเข้ามาจองชมได้ โดยที่วันหนึ่งเราจะเปิด 3 รอบเช้า กลางวัน เย็น ก็เข้ามานัดวัน เวลา ล่วงหน้าได้เลย
สำหรับ เฮ้าส์ ออฟ จิวเวลรี่ นอกจากจะได้ช็อปปิ้งแล้ว ยังมีกิจกรรมในเดือนกุมภาพันธ์นี้ที่พิเศษมาก ทุกคืนวันเสาร์สามารถจองเข้ามาชมหนังได้ ข้างบนอิงทำเป็นรูทท็อป ในอนาคตมันก็อาจจะพัฒนาไปเป็นคลับ เป็นคาเฟ่ เป็นบาร์ โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศดีมาก คนก็จะเข้ามาจอง เป็นกลุ่มเพื่อน นอกจากนี้มาที่นี่อิงก็จะมีบริการถ่ายรูปโพลารอยด์ ให้รับรูปโพลารอยด์กลับไป แล้วก็มีอาหารพิเศษคือน้ำผลไม้เฉพาะเอกลักษณ์ เป็นยี่ห้อของเฮ้าส์ ออฟ จิวเวลรี่ เลย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี