มูลนิธิคาราบาว และเครื่องดื่มคาราบาวแดงร่วมกับ ช่องเวิร์คพอยท์ จัดรายการประกวดวงดนตรีทางโทรทัศน์ “Bao Young Blood ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ซีซั่น 2 ประกาศผลวงชนะเลิศ วง “The Warrior” โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก หลังโชว์พลังดนตรีแนวฮึกเหิมผ่านบทเพลง “พระเจ้าตาก” พิสูจน์ฝีมือ “ทหารไม่ได้แค่จับปืน แต่จับเครื่องดนตรีสร้างความสุขให้กับทุกคนได้” ชนะใจวงคาราบาว และคณะกรรมการ พร้อมทั้งชนะผลโหวตจากผู้ชมทางบ้านอย่างเอกฉันท์ คว้าโล่เกียรติยศจากมูลนิธิคาราบาว และทุนการศึกษา 1 แสนบาท พร้อมได้ประชันคอนเสิร์ตกับวงคาราบาว

ตัวแทนวงดนตรี 5 วง 5 ภูมิภาคเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ต่างงัดฝีมือทางดนตรีมาสรรค์สร้างเพลงเพื่อชีวิตของวงคาราบาว ถ่ายทอดออกมาในแบบของตัวเอง ได้แก่ The Black Sheep จ.ภูเก็ต ตัวแทนภาคใต้, Full Feel Ska จ.นนทบุรี ตัวแทนกรุงเทพฯและปริมณฑล, Betta Splensจ.อุบลราชธานี ตัวแทนภาคอีสาน, Erotic Roll จ.สุโขทัย ตัวแทนภาคเหนือ และ The Warrior จ.นครนายก ตัวแทนภาคกลาง โดยผลการตัดสินมาจากคะแนน 3 ส่วน ได้แก่ผลคะแนนจากวงคาราบาว และกรรมการประจำรายการทั้ง 3 คน นำโดย “น้าเขียว คาราบาว” กีรติ พรหมสาขาณ สกลนคร, “แมว” จิรศักดิ์ ปานพุ่ม และ “ครูอ้วน” มณีนุช เสมรสุต รวมทั้งผลโหวตจากผู้ชมรายการทั่วประเทศ

“ภูมิ” นนร.บริรักษ์ มณีศรีสุวรรณ วัย 19 ปีปัจจุบันศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก นักร้อง ซึ่ง ตัวแทนจากวง The Warrior คว้าแชมป์ในซีซั่น 2 เผยว่า การประกวดครั้งนี้ สมาชิกภายในวงยึดแนวคิด “สร้างความสุขด้วยเสียงดนตรี” และต้องการแสดงให้เห็นว่า ทหารไม่ได้แค่จับปืนปกป้องชาติเท่านั้น แต่สามารถจับเครื่องดนตรีสร้างความสุขได้เช่นกัน โดยเลือกบทเพลง “พระเจ้าตาก” เป็นเพลงในรอบตัดเชือก

วง The Warrior เกิดจากรวมตัวของนักเรียนเตรียมทหาร 8 คน ของโรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก จากชมรมดนตรีสากล คัดสรรสมาชิกของวงที่มีความสามารถโดดเด่นด้านดนตรีที่แตกต่างกันจากแต่ละชั้นปี และเคยตระเวนประกวดร้องเพลงมาบ้างแล้ว แต่ท้ายสุดมาฉายแววทางดนตรีถึงขีดสุดจากการประกวด “Bao Young Blood ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ซีซั่น 2 ทั้งนี้ตัวแทนวง The Warrior ได้ฝากทิ้งท้ายไปยังน้องรุ่นที่จะเข้ามาประกวดเวทีนี้ในปีต่อๆ ไปอีกว่า อยากให้น้องๆ เล่นดนตรีจากใจรัก อย่าไปคิดว่าต้องได้ชื่อเสียงจากสิ่งเหล่านี้ เพราะดนตรีคือสิ่งจรรโลงใจช่วยให้ชีวิตเบิกบาน และพยายามฝึกฝนพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ เหมือนอย่างที่เกิดกับพวกเขาที่ได้มีโอกาสรับคำแนะนำจากวงคาราบาว

ด้าน ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว กล่าวว่า“โอกาส” เป็นสิ่งที่หาไม่ได้ แต่เมื่อโอกาสมาถึง ต้องคว้าโอกาสนั้นไว้ และสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนั้น คือ หัวใจและความมุ่งมั่น เวทีนี้เปรียบเสมือนการมอบโอกาสให้กับน้องๆ คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสในการแสดงความสามารถ และได้ภูมิใจที่ได้ช่วยส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สมกับชื่อโครงการ “ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” โดยรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตการกุศลทั้งหมด ได้มอบเป็นทุนดำเนินชีวิตให้กับศิลปินอาวุโสที่ประสบปัญหาชีวิตด้วย

สำหรับรางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 100,000 บาท จากมูลนิธิคาราบาว โดยวงดนตรีทั้ง 5 วงที่เข้ารอบ จะได้สัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญในชีวิต ได้มีโอกาสร่วมเล่นคอนเสิร์ตกับวงคาราบาว ตำนานเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งเป็นประสบการณ์ทางดนตรีน่าประทับใจที่สุดของสายเลือดใหม่ “คนพันธุ์บาว”