คณะ ชสท. และการท่องเที่ยวฯ
การท่องเที่ยวชุมชนนั้นเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ส่วนจะทำกันอย่างไรให้ยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนในพื้นที่ต้องใส่ใจ ซึ่งมีการศึกษากันมาก่อนแล้วมากมาย อาทิตย์นี้ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ชสท.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เชื้อชวนให้ไปสำรวจพื้นที่ ณ เกาะช้าง จังหวัดตราด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นายทุนต่างพากันมุ่งหวังเข้าไปสร้างความรํ่ารวยจากธุรกิจร้อยแปด ดังนั้นการที่ชุมชนบ้านสลักคอกรวมตัวกันตั้ง “กลุ่มอนุรักษ์และชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก” เพื่อสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ขึ้นนั้นเป็นนวัตกรรมการสร้างเกราะคุ้มกันเพื่อรับมือก่อนที่พื้นที่จะถูกคุกคามจากทุนนิยมภายนอก
อีกทั้งยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาสังคมให้ชาวบ้านได้เป็นเจ้าของกิจการ จนเกิดกลไกท่องเที่ยวที่เอื้อต่อการดูแลรักษาป่าชายเลนและลำนํ้า โดยมีการสร้างเครือข่ายเพื่อเติมกิจกรรมด้านอนุรักษ์และรักษาอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนได้
ชาวประมงของบ้านสลักคอก
ด้วยเหตุนี้ผืนนํ้าทะเลที่ใสสะอาดเหมือนกระจก ไม่มีขยะให้รกตานั้นได้ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือมาดชมป่าชายเลนที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาจึงเป็นเสน่ห์ที่ให้บรรยากาศธรรมชาติได้อย่างดี ทำให้มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการแจวเรือนำเที่ยว จนเกิดทางเลือกใหม่ของการท่องเที่ยวชุมชนและสามารถสร้างเอกลักษณ์ของบ้านสลักคอก ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ให้เป็นที่รู้จักกิจกรรมกันเป็นอย่างดี บ้านสลักคอกนี้เรียกชื่อตามสภาพของอ่าวที่มีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายคอกจับปลาจับสัตว์มีช่องแคบปากอ่าวเป็นทางออกทะเลโดยมีเกาะสลักและเกาะลิ่ม ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ป่าชายเลนที่ใหญ่ท่ีี่สุดในเกาะช้าง
นอกจากนี้ด้านประวัติศาสตร์ของเกาะช้างนั้นได้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานมาก โดยมีการเสด็จประพาสมากถึง 12 ครั้ง จากการเสด็จประพาสทั่วประเทศจำนวน 24 ครั้ง เล่าว่าครั้งนั้น
ชาวบ้านได้ทูลขอให้พระองค์ทรงยืนประทับบนพื้นที่จะสร้างโบสถ์ หลังจากนั้น 15 ปี จึงได้สร้างโบสถ์ขึ้น ปัจจุบันคือวัดสลักคอก หรือวัดวัชคามคชทวีป ซึ่งยังเหลือร่องรอยของพระพุทธรูปไม้จำหลักที่ชำรุดและโบสถ์หลังเดิมอยู่
พระพุทธรูปไม้ที่เหลือเป็นศิลปะ
สำหรับหมู่บ้านสลักคอกนั้นก็เป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ที่สุดของเกาะช้าง มีเนื้อที่ 670 ไร่ เป็นผืนป่าที่ปกป้องการพังทลายของชายฝั่ง ช่วยต้านแรงปะทะของลม เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์นํ้า ช่วยให้ชาวประมงพื้นบ้านมีอาชีพที่มั่นคงยั่งยืน เป็นแหล่งอาหารและสมุนไพรของชาวบ้านซึ่งมี 117 ครัวเรือน 473 คน ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงพื้นบ้านทำสวนผลไม้ สวนยาง และรับจ้างทั่วไป
พัชรินทร์ ผลกาจ ประธานกลุ่มฯ และชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก
นางพัชรินทร์ ผลกาจ ประธานกลุ่มอนุรักษ์ และชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก ผู้เข้มแข็งนั้นได้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์บนเกาะช้างตามนโยบายรัฐบาล จนสามารถกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับสมาชิกและชุมชน โดยมีองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เป็นพี่เลี้ยง
เรือมาดสำหรับท่องเที่ยวชายเลน
แม้จะทำกันแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องการไม่ให้การท่องเที่ยวนั้นกลายเป็นตัวทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านและพยายามรักษาวิถีชุมชนดั้งเดิมไว้ให้มากที่สุด แม้กระทั่งการสื่อสารของชาวบ้านก็ใช้การสื่อสารภาษามือ ด้วยชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีใครสามารถพูดภาษาอังกฤษได้จึงเป็นเสน่ห์แบบชาวบ้านที่สร้างความประทับใจได้มาก
หมู่บ้านชาวประมงบ้านสลักคอก
กิจกรรมยอดนิยมที่รู้จักกันก็คือ การนั่งเรือเที่ยวชมป่าชายเลนโดยใช้ “เรือมาด” เป็นพาหนะที่นักท่องเที่ยวพากันเรียกว่า “กอนโดล่าแห่งเกาะช้าง” มีจำนวน 7 ลำ และเรือคายัค จำนวน 10 ลำ ดังนั้นความปลอดภัย การทำประกันอุบัติเหตุจึงเป็นเรื่องสำคัญของการท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้
เรือประมงกลับเข้าท่า
โบสถ์เก่าวัดสลักคอก
ฝีพายจากชาวบ้านสลักคอก
อาหารจากทะเลของชาวประมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี