วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ทุ่งกุลาร้องไห้’ แหล่งข้าวของแผ่นดินอีสาน

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ทุ่งกุลาร้องไห้’ แหล่งข้าวของแผ่นดินอีสาน

วันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : ทุ่งกุลาร้องไห้ อีสาน
  •  

ทะเลสาบที่ทำให้ทุ่งกุลาสดใส

วันก่อนตามไปดูโครงการวัฒนธรรมสัญจรสู่สถานศึกษาที่สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปีพ.ศ.2551 โดยเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนและเยาวชนในจังหวัดต่างๆ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่นำมิติของวัฒนธรรม ศาสนา วิทยาศาสตร์ จากหน่วยงานที่รับผิดชอบไปร่วมกันสร้างโอกาสได้เห็นได้ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งทำกันมาแล้วถึง 15 ครั้ง สำหรับครั้งนี้ร่วมกันจัดที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจังหวัดที่ทำให้นึกถึงทุ่งกุลาร้องไห้ ที่อยู่ในอ.เกษตรวิสัย ขึ้นมาทันทีเพราะทุ่งกุลาร้องไห้นี้มีความสำคัญมาก เพราะสามารถพลิกฟื้นความแห้งแล้งให้เป็นแหล่งผลิตข้าวจนมีชื่อเสียงของประเทศได้ ทุ่งกว้างนี้มีพื้นที่ 2,107,681 ไร่ มีบริเวณครอบคลุมพื้นที่ 13 อำเภอ 5 จังหวัด คือแนวทิศเหนือนั้นเป็นอำเภอปทุมรัตต์ อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอสุวรรณภูมิ และอำเภอโพนทราย ของจังหวัดร้อยเอ็ด แนวทิศใต้มีลำน้ำมูลทอดยาวตลอดพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ แนวทิศตะวันตกผ่านอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร และอำเภอพยัคฆภูมิพิสัยของจังหวัดมหาสารคาม

กิจกรรมวัฒนธรรมสู่สถานศึกษา

สรุปแล้วทุ่งกุลาร้องไห้ประมาณ 3 ส่วนใน 5 ส่วน นั้นเป็นพื้นที่อยู่ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดทุ่งกุลาร้องไห้อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสุวรรณภูมิ6 กิโลเมตร เลยกู่พระโกนาไปประมาณ 200 เมตรทุ่งกุลาร้องไห้แห่งนี้มีเรื่องเล่ากันว่าพวกกุลาเป็นชนกลุ่มน้อยจากเมืองเมาะตะมะ ประเทศพม่าซึ่งเป็นชนกลุ่มหนึ่งที่เร่ร่อนเดินทางค้าขายระหว่างเมืองต่างๆ นั้น ได้เดินทางมาค้าขาย นำสินค้าประเภทสีย้อมผ้า เครื่องทองเหลืองต่างๆ

พวกกุลานี้ถือกันว่าเป็นชนเผ่าที่เป็นนักเดินทางนักต่อสู้ที่มีความทรหดอดทนสูงมากและความเข้มแข็งเป็นที่รู้จักกันดี เมื่อพวกกุลาเดินทางมาถึงทุ่งกว้างนี้แล้วกลับได้รับความทุกข์ยากเป็นอันมากถึงกับร้องไห้ มีพื้นที่กว้างขวางเหลือประมาณ ต้องใช้เวลาเดินทางหลายวัน ไม่พบหมู่บ้านใด ๆ เลย น้ำก็ไม่มีดื่ม ต้นไม้ก็ไม่มีที่จะให้ร่มเงา มีแต่ทุ่งหญ้าเต็มไปหมด พื้นดินก็เป็นทราย เดินทางยากลำบากเหมือนอยู่กลางทะเลทราย เพราะตลอดทุ่งกว้างนี้ไม่มีน้ำหรือต้นไม้ใหญ่อยู่เลย ในฤดูแล้งแผ่นดินที่ทุ่งนี้กลับแห้งแตกระแหง แห้งแล้งมาก ส่วนในฤดูฝนน้ำจะท่วมทุกปี ใต้พื้นดินลงไปเป็นน้ำเค็ม ไม่สามารถทำการเกษตรได้ จะขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครให้ขอความช่วยเหลือ มีแต่แดดต้นหญ้า และดินปนทราย ถึงเวลาค่ำคืน ทั้งหิว ทั้งเหนื่อยสายตัวแทบขาด ร่างกายขาดน้ำ ทำท่าจะตายเอาทั้งหมดจึงได้แต่นอนร้องไห้ จนมีชาวพื้นเมืองผ่านมาพบเข้า จึงช่วยเหลือหาบหามกันไปรักษาพยาบาลในหมู่บ้าน

ชนเผ่ากุลา

ผู้รอดตายเล่าว่าก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือว่าทำอะไรไม่ได้เลย เอาแต่นอนร้องไห้เพียงอย่างเดียวจนเรียกรู้กันว่าเป็นทุ่งที่แม้แต่พวกกุลาที่ทรหดอดทนต้องนอนร้องไห้ตามชื่อ“ทุ่งกุลาร้องไห้” นั่นแหละ ในอดีตจึงไม่มีใครใส่ใจไยดีกับทุ่งกว้างแห่งนี้นัก ปัจจุบันทุ่งกว้างแห่งนี้ได้รับการพัฒนาโดยรัฐบาลไทยได้ร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลีย ส่งเจ้าหน้าที่ผู้มีความเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูผืนดินที่ไร้ประโยชน์ ให้สามารถทำประโยชน์ได้  ด้วยการทำถนน สร้างอ่างเก็บน้ำที่มีอย่างเหลือเฟือในฤดูฝน ขุดคลองซอยอย่างถี่ยิบ แล้วผันน้ำเข้าสู่คลองซอย ผืนดินที่แห้งแล้งสีน้ำตาลนั้นจึงเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม เต็มไปด้วยพืชพรรณธัญญาหารจนทุ่งกุลาร้องไห้นั้นเป็นทุ่งกุลาที่สดใส และมีสำนักงานศูนย์พัฒนาที่ดินทุ่งกุลาร้องไห้กรมพัฒนาที่ดิน ดูแลจนเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญของประเทศ และกลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่มีชื่อเสียงของไทย ยิ่งกว่านั้นยังได้พบแหล่งโบราณคดีที่เกี่ยวเนื่องกันจากบริเวณต่างๆ คือ พบภาชนะดินเผาขนาดใหญ่และเรื่องราวของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุในอดีตอีกด้วย

ทะเลสาบที่ฟื้นฟูทุ่งกุลาร้องไห้

ทุ่งนาในทุ่งกุลาร้องไห้

นาข้าวหอมมะลิ

สภาพแห้งแล้งของทุ่งกุลาร้องไห้

ภาพเขียนการทำภาชนะดินเผา

บ้านเรือนของชนเผ่ากุลา

ภาชนะดินเผาที่พบในทุ่งกุลาร้องไห้

แหล่งโบราณคดีทุ่งกุลาร้องไห้

แผนที่-ทุ่งกุลาร้องไห้

เรียนรู้จากโบราณวัตถุ

อบรมมารยาทไทย


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

(คลิป) วิเคราะห์การไต่สวนคดี! 'นช.ทักษิณ'ชั้น14 เตือน! ระวังให้การเท็จ 'ซักซ้อมมาอย่างดี แต่รายระเอียดเป๋'

เขตดินแดงแห่งใหม่ สูง 18 ชั้นเตรียมเปิดให้บริการก.ค.นี้

ซีรีส์วายช่อง7 HD'อาการมันเป็นยังไงไหนบอกหมอ'จัดพิธีบวงสรวงเอาฤกษ์ก่อนเปิดกล้อง

(คลิป) 'อุ๊งอิ๊งค์'อ้าง! เตรียมเอกสารไม่ทัน ชำแหละเบื้องหลัง ขอขยายเวลา 15 วัน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved