วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
องคมนตรี ถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาท‘รัชกาลที่ 9’ กับความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

องคมนตรี ถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาท‘รัชกาลที่ 9’ กับความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

วันพฤหัสบดี ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : องคมนตรี ถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9
  •  

ความในใจ 19 องคมนตรี ผู้ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ถูกเรียงร้อยผ่านอักษรในหนังสือประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับองคมนตรี” กับความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติมาโดยตลอดระยะเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ คณะองคมนตรี จึงมีดำริร่วมกันจัดทำหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับคณะองคมนตรี”เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นมาของคณะองคมนตรี บทบาทและหน้าที่ของคณะองคมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 รวมบทความที่องคมนตรีแต่ละท่านในคณะองคมนตรีปัจจุบันบรรจงเรียงร้อยเรื่องราว ถ่ายทอดเหตุการณ์ และความรู้สึกประทับใจในการถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาท ในมุมมองและลีลาการเรียบเรียงที่หลากหลาย แตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของแต่ละท่าน ซึ่งล้วนสะท้อนให้เห็นถึงแนวพระราชดำริที่ลึกซึ้ง เบื้องหลังพระราชกรณียกิจและโครงการตามพระราชดำริ น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงรักและห่วงใยพสกนิกร ตลอดจนพระราชจริยวัตรอันงดงามในการทรงงานเพื่อความสุขสวัสดีของพสกนิกรและความวัฒนาสถาพรของประเทศ

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์แนวหน้าขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนอีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนได้น้อมนำแนวความคิด และแนวทางการทรงงานของพระองค์ไปเป็นแบบอย่าง สร้างแรงบันดาลใจและขวัญกำลังใจในการเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท

ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานนองคมนตรีฯบันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปรารภถึงคำสามคำคือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา พระราชดำริว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุข มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย น่าจะนำคำสามคำนี้ไปใช้ประโยชน์ บัดนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้คำสามคำนี้เป็นปัจจัยในการกำหนดนโยบายในการปฏิบัติต่อราษฎรแพร่หลายมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และได้ผลดีในระดับหนึ่งภาคเอกชนก็เข้าใจคำเหล่านี้และได้นำไปปรับใช้ในธุรกิจ

...ไม่เพียงแต่ “คน” เท่านั้นที่ได้รับพระราชทานพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณและน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “สัตว์ ภูเขา สิ่งแวดล้อม ฯลฯ” ก็ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเช่นเดียวกัน...”

นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...นอกเหนือจากเรื่องงานในหน้าที่แล้วผมยังพิศวงใจในสิ่งหนึ่งซึ่งเฝ้าสังเกตมานานปีด้วยว่าไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะวิกฤติสักปานใดพระองค์ไม่เคยทรงหวั่นไหว และมีพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขวิกฤติของบ้านเมืองตามกรอบแห่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ให้คลี่คลายและผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเสมอมา

...เมื่อมีผู้ใดจาบจ้วงล่วงละเมิดพระองค์ ไม่ว่าจะโดยการบิดเบือนสถานการณ์ หรือข้อเท็จจริงต่างๆ หรือโดยการปั้นน้ำเป็นตัว จะเห็นเป็นที่ประจักษ์แจ้งทั่วกันว่า ไม่เคยทรงตอบโต้หรือทรงมีปฏิกิริยาในทางใดๆ ทั้งสิ้น พระองค์ทรงสงบนิ่ง เสมือนหนึ่งไม่เคยทรงมีเรื่องเหล่านี้มาแผ้วพานให้ทรงระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเลย พระองค์ทรงปฏิบัติได้อย่างไร? เรื่องนี้จะคิดเห็นเป็นอื่นคงยาก นอกจากว่าพระองค์ทรงปฏิบัติทศพิธราชธรรม ประการที่ 7
“อกโกธ” หรือ “ความไม่โกรธ” 
และ

ต่อจากหน้า 17

ทรงบำเพ็ญ “อภัยทาน” ได้อย่างบริสุทธิ์และสมบูรณ์...”

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และ อดีตนายกรัฐมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...สิ่งหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดคือ แนวทางที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างลำบากพวกชนกลุ่มน้อยหรือผู้ที่ด้อยโอกาสในทุกๆ ด้าน พระราชดำริว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่จะต้องขจัดปัญหาความยากจนให้ได้ พระราชดำรัสที่พระราชทานเสมอคือ พวกเขาลำบากให้ไปช่วยกันดูแล

....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรู้จักทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย แผนที่ของพระองค์ท่าน เรียกได้ว่าดีและละเอียดกว่าของทุกๆ คน เพราะทรงบันทึกขึ้นมาจากการเสด็จฯ ด้วยพระองค์เองแม้แต่กรุงเทพฯ ที่เราคุ้นชินและรู้สึกว่าเป็นพื้นที่ราบเรียบ พระองค์ก็ยังทรงรู้ว่า ตรงไหนเป็นที่ต่ำ ตรงไหนเป็นที่สูง...”

นายเชาวน์ ณศีลวันต์ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...ผมมีความโชคดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสตามเสด็จฯไปวัดกรรมฐานต่างๆ เกือบทุกวัด ทั้งในภาคอีสานและภาคเหนือ จึงได้ประจักษ์และมีความประทับใจในความเป็นอัจฉริยะในทางพระพุทธศาสนาของพระองค์ท่านเป็นอย่างยิ่ง...”

พลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลาองคมนตรี ที่ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม ทรงเป็นที่รักเทิดทูนของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงเสียสละพระวรกาย ทรงทุ่มเทให้แก่ประชาชนของพระองค์มาตลอดหกสิบกว่าปีที่ทรงครองราชย์มาจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก...”

พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...เกษตรกรที่ขาดน้ำก็ยากที่จะทำมาหากิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า น้ำเป็นเรื่องที่ต้องจัดการก่อน ประเทศเรามีฤดูฝนที่ฝนตกน้ำท่วมมีฤดูแล้งที่ไม่มีน้ำ ปลูกพืชไม่ได้ จะทรงมองปัญหาตลอดแนว ทรงค้นหาสาเหตุ ทรงมองไปข้างหน้า โครงการเรื่องน้ำของพระองค์ท่านจึงครอบคลุมตั้งแต่การหาน้ำสำหรับที่แล้งด้วยฝนหลวง การรักษาต้นน้ำลำธารด้วยการปลูกป่า และการลดการตัดไม้ทำลายป่า การกระจายน้ำให้ใช้ประโยชน์ด้วยระบบชลประทานขนาดเล็กขนาดใหญ่ ซึ่งกักน้ำไว้เวลามีน้ำมาก เพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วม และปล่อยให้เกษตรกรใช้เพาะปลูกเมื่อยามต้องการ ไปจนถึงการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย...”

พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...แม้จะทุรกันดารหรือเสี่ยงอันตรายเพียงใด ทั้งสองพระองค์ไม่ทรงย่อท้อ เสด็จฯ ไปทุกหนทุกแห่งเพื่อทรงช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ให้พอมีพอกินจะได้หลุดพ้น ไม่ตกไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์...”

นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...แนวพระราชดำริหรือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ผมน้อมนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน คือ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงทุกอย่างที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างการสอนให้พึ่งตนเอง พอประมาณ เดินสายกลาง ให้ทำงานด้วยความมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน เป็นคนดี และมีความสามัคคี ผมก็ยึดตามนั้นหมด แต่ผมยอมรับว่า หลักการเศรษฐกิจพอเพียงนี้ขึ้นอยู่กับอายุและชีวิตของครอบครัวบางอย่างบางคนเขาทำไม่ได้ คือ คนยังหนุ่มอยู่ ให้ไปพึ่งตนเองไปเดินสายกลาง นั่นคงทำไม่ได้ พออายุมากขึ้นๆ ก็จะทำได้...”

ศาสตราจารย์พิเศษจำรัส เขมะจารุองคมนตรี ที่ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...การพิจารณาเรื่องราวการขอพระราชทานอภัยโทษแต่ละรายจะทรงพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด มีฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษหลายเรื่องที่ทรงพระเมตตา และแสดงให้เห็นว่าได้ทรงพิจารณาอย่างรอบคอบถึงอายุของนักโทษและความยุ่งยากของหน่วยงานราชการ ซึ่งหากจะคุมขังนักโทษรายนั้นต่อไป คงไม่เกิดประโยชน์อะไร...”

พลเรือเอก หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...พระองค์ท่านทรงเป็นอัครศิลปิน และตามที่ผมเคยได้ฟังพระองค์ท่านทรงดนตรีกับนักดนตรีแจ๊สระดับโลก ผมยืนยันได้ว่าฝีพระหัตถ์ทัดเทียมไม่แพ้พวกเขา...”

หม่อมราชวงศ์เทพกมล เทวกุล องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...เรื่องที่ขอเตือนสติคนไทยทุกคน คือ การที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพยายามจะพัฒนาประเทศชาติในขณะที่คนอื่นๆ ในชาติได้แต่เฝ้ารอให้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นโดยที่มิได้ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาจึงเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจที่คนไทยทั้งหลายไม่ตระหนักและยอมรับในสิ่งนี้ ...ทุกคนควรจะตระหนักว่า หนทางเดียวที่จะแสดงความเคารพต่อครู ก็คือเรียนรู้จากพระองค์ เพื่อที่จะนำความรู้นั้นไปช่วยเหลือผู้อื่นไม่ใช่เพียงแค่แขวนหรือประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้ที่บ้าน...”

นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ยกพระราชดำรัสที่ประทับใจมาบันทึกไว้ว่า “...คนไทยกินข้าวมาแต่บรรพบุรุษ จะกินขนมปังมื้อสองมื้อก็คงได้ แต่จะให้กินตลอดคงไม่ได้...พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปลูกข้าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกลมากๆ ถ้าเราเอานาไปทำอย่างอื่นหมดวันหนึ่งคนไทยต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ ถึงตอนนั้นข้าวคงมีราคาแพงแน่...”

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...ในการทรงงานเพื่อช่วยเหลือราษฎรทรงเน้นการทำตามลำดับขั้นตอน ทรงเริ่มต้นจากสิ่งที่จำเป็นที่สุดของประชาชน สร้างรากฐานที่มั่นคงก่อนแล้วค่อยๆ สร้างเสริมความเจริญและการพัฒนาด้านอื่นๆ ที่สูงขึ้นและยุ่งยากขึ้นตามลำดับเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ประหยัด สมดุล และยั่งยืนทรงให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทรงเปิดพระราชหฤทัยกว้างรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ความต้องการของสาธารณชนโดยทรงระลึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ภายใต้หลักการ “ขาดทุน” คือ “กำไร” ทรงเน้นการ “ให้” และ “เสียสละ”เพื่อผลกำไร นั่นคือ “ความอยู่ดีมีสุขของราษฎร” หรืออธิบายได้ว่า ขาดทุนในด้านเศรษฐกิจ แต่ได้กำไรในด้านสังคม”

นายสวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรี อดีตอธิบดีกรมชลประทานที่ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...พระราชดำรัสที่ยังก้องอยู่ในหูของผมจนทุกวันนี้คือ ที่เขายากจนต้องทำมาหากินในพื้นที่แห้งแล้งเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะมา แต่เพราะเขาไม่มีที่อื่นจะไปที่ฉันช่วยเขาไม่ใช่ว่าจะช่วยตลอดไปแต่ช่วยเพื่อให้เขาได้มีโอกาสช่วยตัวเองต่อไป...”

พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในด้านการต่อเรืออย่างยอดเยี่ยม ทรงเล่าถึงประสบการณ์ต่างๆ และปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่กองทัพเรือต่อเรือ ต.91 ตลอดจนสภาพท้องทะเลในอ่าวไทย ซึ่งจะมีผลต่อการใช้เรือ...”

นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า...“หลายคนอาจไม่รู้ว่า แม้ขณะประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับการถวายการรักษาพระวรกาย พระองค์ท่านก็ยังทรงงานพระบรมราชวินิจฉัยฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษอย่างสม่ำเสมอ และมีพระราชกระแสในฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษตลอดมาไม่ได้ทรงหยุด พระองค์ท่านไม่ได้ทรงรักษาพระองค์เหมือนคนป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวตามโรงพยาบาล แต่ยังคงทรงงานตลอดเวลา...”

นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...สำหรับผมแม้จะมีความปลาบปลื้มและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติงานดังกล่าวถวาย แต่ลึกๆ ก็รู้สึกหวั่นวิตกว่า จะปฏิบัติงานถวายบกพร่องหรือไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แม้จะมีพื้นฐานในงานตุลาการมาตลอดชีวิตราชการก็ตาม ผมจึงพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และมีความระมัดระวัง รอบคอบที่สุด หมั่นพัฒนาตนเอง ค้นหาข้อมูลต่างๆ ศึกษาจากแนวทางที่มีพระราชกระแสไว้เดิม ซึ่งพบว่าทรงพระบรมราชวินิจฉัยอย่างละเอียดรอบคอบ ประกอบด้วยเหตุผลที่เหมาะสมในกรณีที่ทรงเห็นว่า ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีการายใดมีเหตุอันสมควรได้รับพระมหากรุณาธิคุณก็จะมีพระบรมราชวินิจฉัยพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้นั้นตามสมควรแก่เหตุ...”

นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...แม้จะทรงมีพระบรมเดชานุภาพและพระบารมีเป็นที่ยอมรับของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ดังที่เรียกกันว่า “อเนกชนนิกรสโมสรสมมุติ” แต่พระองค์ก็ยังทรงเป็นนักประชาธิปไตยที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกประการ ไม่เคยทรงทำเกินหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญกำหนด...”

พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “...ไม่เพียงแต่พระมหากรุณาธิคุณที่มีประชาชนชาวไทยและชาวเขาที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินไทยเท่านั้น แม้แต่กับสัตว์พระองค์ก็ทรงดูแลด้วยเช่นกัน...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงช้างในเขตพื้นที่ป่ากุยบุรี ซึ่งพื้นที่แถบนั้น ชาวบ้านได้หักร้างถางพงไปใกล้กับพื้นที่ที่ฝูงช้างเคยอาศัยอยู่มาก่อน และมีข่าวยิงช้าง ล่าสัตว์ในเขตป่านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีข้อมูลของโขลงช้างต่างๆ เหล่านี้มาก่อนแล้ว จึงได้เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง นี่คือ พระเมตตาต่อสรรพสัตว์ในประเทศของเราด้วย...”

(แหล่งข้อมูล : หนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับองคมนตรี)

 

 


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'นายกฯ'นำปชช. ถวายพระพรชัยมงคล 'สมเด็จพระราชินี' เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

จวกสิ้นคิด! 'วิสุทธิ์'เดือด ข่าวปลอมปลดแม่ทัพภาค2 ขู่แจ้งความดำเนินคดี

ส.ป.ก. วางพานพุ่ม ลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

(คลิป) สีสันการเมืองแบบเด้งเด้ง : เจ็บจี๊ด!! 'เสรีพิศุทธ์'เปิดใจแฉ! ทำไม? 'ทักษิณ' เรียกพล.ต.อ.หญิง-หนูรี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved