วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
โรคลมชักในสุนัข (Idiopathic Epilepsy in Dogs)

โรคลมชักในสุนัข (Idiopathic Epilepsy in Dogs)

วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : โรคลมชักในสุนัข Idiopathic Epilepsy in Dogs หมา
  •  

ผมมั่นใจว่าเจ้าของสุนัขหลายคนคงมีคำถามว่า สุนัขก็เป็นโรคลมชักด้วยหรือ? อาการสุนัขที่เป็นโรคลมชักเป็นอย่างไร? แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขเราเป็นโรคลมชักหรือไม่?  วันนี้ เรามาคุยกันถึงวิธีการสังเกตอาการง่ายๆ ว่าอาการที่สุนัขแสดงนั้น เรียกว่าชักหรือเปล่ากันนะครับ เพราะบางอาการก็คล้ายกับอาการชักมาก จนเจ้าของเข้าใจผิดไปว่านั่นคืออาการชัก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่การชัก แต่เป็นลักษณะอื่น เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาการเป็นลม (syncope) ซึ่งพบในสุนัขที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น

โรคลมชักนั้นจะแสดงอาการ “ชักทั้งตัว” คือล้มลงนอนอย่างไม่มีสติ มีอาการเกร็งกระตุกทั่วทั้งตัว มีอาการงับปาก ขาตะกายเหมือนปั่นจักรยาน อาจมีอาการน้ำลายไหลมาก อุจจาระไหลแบบไม่รู้ตัว หรือมีการปัสสาวะราดร่วมด้วย โดยจะแสดงอาการชักนาน 1 ถึงหลายนาที และมักจะมีอาการแสดงในระยะเวลาก่อนและหลังการชักด้วย

อาการที่สุนัขแสดงก่อนและหลังเกิดอาการชักนั้น อาจมีการแตกต่างกันในแต่ละตัว ได้แก่ กระวนกระวาย น้ำลายไหล เดินวนหรือวิ่ง อาจหลบในที่มืด ร้องครางหรือเห่าเรียกเจ้าของ เป็นต้น

ระยะเวลา “ก่อน” การชักอาจนานเพียงไม่กี่วินาทีหรือนานเป็นวันเลยก็ได้ ซึ่งเจ้าของอาจไม่ทันสังเกตเห็น

ส่วนอาการ”หลัง”การชักนั้น สุนัขมักแสดงอาการมึนงง เดินเซไร้จุดหมาย หรือนอนหลับนานกว่าปกติ อาจมีตาบอดชั่วคราวได้ ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการชัก อาจนานเพียงไม่กี่นาทีหรือนานเป็นสัปดาห์ก็ได้เช่นกัน

ทีนี้ เมื่อเราได้คำตอบแล้วว่า สุนัขของเรามีปัญหาเรื่อง “การชัก” จริงๆ ก็จะมีคำถามต่อว่า แล้วการชักนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร?


ในปัจจุบันนั้น เรายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของสุนัขที่เป็นโรคลมชัก แต่เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และช่วงอายุที่พบได้บ่อยคือสุนัขอายุ 1-4 ปี (แต่ก็อาจเกิดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนถึง5 ปี) และพบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล พุดเดิ้ล โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ลาบาดอร์รีทรีฟเวอร์ เยอรมันเชฟเฟิร์ด และเซนต์เบอร์นาร์ด เป็นต้น

ทั้งนี้ควรนำสุนัขที่มีอาการชัก ไปให้สัตวแพทย์ตรวจวินิจฉัยว่า สุนัขเป็นโรคลมชักจริงๆ หรือชักจากสาเหตุอื่น เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โรคตับ โรคไต สารพิษ เนื้องอกในสมอง การอักเสบและการติดเชื้อ เช่น พยาธิเม็ดเลือดและโรคไข้หัดสุนัข เป็นต้น

นอกจากนี้ เจ้าของควรจดบันทึกการชัก ทั้งเรื่องความถี่ และระยะห่างของการชักในแต่ละรอบด้วย และถ้าทำได้ ควรถ่ายวีดีโอ
ขณะชัก เพื่อให้สัตวแพทย์ใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคด้วย เพราะการชักในโรคลมชักมักเกิดขึ้นต่อเนื่องและมีระยะห่างระหว่างช่วงการชักแต่ละครั้งที่นานใกล้เคียงกัน

การชักมักเกิดในช่วงที่ไม่ทำกิจกรรม หรือนอนหลับมากกว่า จึงมักพบสุนัขชักช่วงเช้ามืดหรือกลางดึก ดังนั้นการตรวจระบบประสาทสุนัขที่เป็นโรคลมชักใน “ช่วงพักของการชัก” มักจะตรวจไม่พบความผิดปกติใด รวมถึงการถ่ายภาพรังสี CT scan หรือ MRI มักไม่พบรอยโรคหรือความผิดปกติภายในสมองด้วย ซึ่งแตกต่างจากการชักชนิดอื่น

การรักษาสุนัขที่เป็นโรคลมชัก เป็นการรักษาเพื่อควบคุมอาการชักให้ได้ เพราะการชักแต่ละครั้งมีผลต่อเนื้อเยื่อสมอง การชักเป็น
เวลานานทำให้สมองขาดเลือดและเกิดสมองตายได้ ดังนั้นการกินยาคุมอาการชักจึงสำคัญมาก เพื่อช่วยลดระยะเวลาการชักในแต่ละครั้งให้สั้นลงหรือเพิ่มระยะห่างของการเกิดการชักในรอบถัดไปให้นานขึ้นทำให้จำนวนครั้งในการชักลดลง ซึ่งเป็นการลดความรุนแรงของการชัก เพราะถ้าคุมอาการชักไม่ได้ สุนัขจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติและอาจถึงแก่ชีวิตได้  “การชักติดต่อกันมากกว่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน” หรือ “การชักครั้งนึงนานกว่า 15 นาที” ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องนำสุนัขส่งโรงพยาบาลสัตว์เพื่อพบสัตวแพทย์

ข้อสำคัญที่ต้องเข้าใจในการรักษาโรคลมชักคือ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นต้องกินยาตลอดและกินให้ตรงเวลา การได้รับยาไม่สม่ำเสมอหรือหยุดยาอาจทำให้สุนัขชักรุนแรงขึ้นจนถึงตายได้ และควรมีการตรวจเลือดและตรวจสุขภาพเป็นระยะ เนื่องจากต้องมีการปรับขนาดยาหรือชนิดยาให้เหมาะสมกับการชักและผลข้างเคียงจากยาซึ่งควรอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดของสัตวแพทย์

ในระหว่างการชักควรระวังไม่ให้ศีรษะสุนัขกระแทกกับพื้นหรือสิ่งของในบริเวณนั้น อาจใช้เบาะหรือผ้าหนาๆ รองหัวและตัวของสุนัข และนำสิ่งกีดขวางที่เป็นอันตรายออกห่างจากสุนัข อย่าเอามือเข้าไปใกล้ปากสุนัข เพราะสุนัขที่กำลังชักจะไม่รู้สึกตัว เจ้าของอาจโดนกัดได้ และอย่าลืมจดบันทึกวันและเวลาการชักด้วยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คลินิกโรคระบบประสาท โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร.02-2189418

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘กองทัพภาคที่ 2’แจ้งปชช.ให้กำลังใจทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้ 5 จุด

‘ธนกร’ฝาก‘ดีอี-ตำรวจไซเบอร์’สกัดข่าวเท็จปมร้อนการเมือง-ชายแดน

แจง 4 ข้อเหตุ‘เปิด-ปิดด่าน’ พบ‘กัมพูชา’เพิ่มกำลัง-สร้างที่มั่น เสี่ยงเหตุไม่พึงประสงค์

ตรรกะวิบัติ!? ทัวร์ลงถล่มยับ‘สส.จิรัฏฐ์’โพสต์แซะ‘กองทัพ’ ถามแรงเคยช่วยอะไรบ้าง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved