ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มอบช่อดอกไม้แก่ รศ.ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เปิดเวทีสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Creating the Right Ecosystem: Collaborating to Innovate” เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างองค์กร ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ไปสู่การพัฒนาต่อยอดผลงานที่มีคุณภาพ พร้อมมอบรางวัลพระราชทาน “นักเทคโนโลยีดีเด่น” บนเวทีสัมมนา STI Forum And Outstanding Technologist Awards 2016
นางสาววรรณวีรา รัชฎาวงศ์ กรรมการบริหาร สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย หรือ TMA เปิดเผยว่า ปัจจุบันการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศที่ทุกองค์กรและผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญและนำเรื่องเหล่านี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งในเวทีนี้เน้นหนักในเรื่องของนวัตกรรมแบบเปิด ที่ได้ถูกนำเข้ามาเพื่อสร้างความร่วมมือด้านพันธมิตรกับองค์กรต่างๆ เพื่อเติมเต็มและสร้างสรรค์เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิตใหม่ๆ ที่สามารถลดระยะเวลาในการคิดค้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จถึงโอกาสความได้เปรียบในการแข่งขัน และยังสามารถตอบสนองความต้องการของตลาด หรือกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย
ทางด้านรศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน ประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า โครงการรางวัลพระราชทาน“นักเทคโนโลยีดีเด่น” เพื่อเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจให้กับนักเทคโนโลยีไทยที่มีผลงานโดดเด่นด้านการวิจัยและพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งนี้ ในปีนี้มีโครงการที่ส่งเข้าประกวด 54 โครงการ แบ่งเป็นผลงานนักเทคโนโลยีดีเด่น 36 โครงการ และผลงานนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ 18 โครงการโดยทางมูลนิธิฯ มีเกณฑ์ในการพิจารณาบุคคลที่สมควรได้รับรางวัลทั้งมิติด้านการพัฒนาทางเทคโนโลยีและมิติด้านบุคคล มีคณะกรรมการคัดเลือกที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา
ผศ.ดร.เขมฤทัย ถามะพัฒน์
สำหรับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี 2559 คือ รศ.ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ ภาควิชาชีวโมเลกุลและพันธุศาสตร์โรคเขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าของผลงานการพัฒนาการตรวจเชื้อมาลาเรียที่มีความไวสูง เพื่อค้นหาผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการของโรค โดยได้พัฒนาการตรวจเชื้อมาลาเรียมีความไวสูง เพื่อค้นหาผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการของโรค ซึ่งสามารถตรวจเชื้อได้ต่ำถึง 20 parasites/mL ซึ่งต่ำกว่าการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ตามวิถีมาตรฐานในปัจจุบันถึงกว่า 2,000 เท่า และต่ำกว่าการตรวจด้วยเทคโนโลยีพีซีอาร์ประมาณ 500 เท่า และได้ทำการตรวจตัวอย่างเพื่อค้นหาการติดเชื้อที่ซ่อนอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการ นอกจากนี้ยังได้นำเทคนิคนี้ไปใช้ในกระบวนการพัฒนายามาลาเรียชนิดใหม่ๆ ด้วย โดยใช้วัดปริมาณเชื้อในผู้ป่วยภายหลังได้รับยาต้านมาลาเรียชนิดใหม่นั้นๆ เพื่อค้นหาปริมาณยาที่เหมาะสมที่สุดที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อมาลาเรีย
ผศ.ดร.เขมฤทัย ถามะพัฒน์ สังกัดภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้เข้ารอบสุดท้าย (Runner-up) นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี พ.ศ.2559 และทีมวิจัยได้คิดค้นเรื่องนวัตกรรมเครื่องตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝงสำหรับการพิสูจน์หลักฐานอาชญากรรม ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยคนไทย สำหรับตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝงบนวัตถุพยานที่สามารถนำไฟฟ้าได้เช่น ปืน ปลอกกระสุน มีด กุญแจ และอาวุธพกพาต่างๆ โดยนำเอาหลักการของเซลล์ไฟฟ้าเคมีซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์พื้นฐานมาประยุกต์ใช้โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีขั้นสูงหรือเครื่องมือชั้นสูงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยการนำขั้วไฟฟ้าที่เฉื่อยต่อการเกิดปฏิกิริยามาต่อเข้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้าและนำเอาวัตถุพยานที่ต้องการหารอยลายนิ้วมือแฝงมาต่อเข้ากับอีกขั้ว ซึ่งขั้วไฟฟ้าทั้งสองจะจุ่มอยู่ในสารละลายนำไฟฟ้า และเนื่องจากบริเวณที่เป็นการตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝง มีไขมันเกาะอยู่จงมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า ทำให้เกิดภาพคอนทราสต์ระหว่างพื้นผิวโลหะกับรอยนิ้วมือ และส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์นิ้วมือปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ภายในเวลาเพียงแค่ 1 นาที ราคาไม่สูง แต่มีคุณภาพสะดวกรวดเร็วนำมาซึ่งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี