สวัสดีครับ เคยได้ยินหลายท่านที่เลี้ยงสัตว์สอบถามมาว่า เมื่อกระรอกป่วย จะให้กินยาอะไรดี? กระต่ายท้องเสีย ให้ยาอะไรกินดี? หนูแฮมสเตอร์เป็นหวัด กินยาอะไรได้? เอายาคนให้กินได้ไหม? เป็นต้น วันนี้ผมมีข้อมูลจากโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มาเล่าสู่กันฟังครับ
ก่อนอื่น คงต้องเล่าให้ฟังก่อนนะครับว่า สัตวแพทย์นั้น อาจมีความจำเป็นบางประการ ที่จะต้องใช้ยาของคนบ้าง ในบางกรณีที่รักษาสัตว์ เนื่องจากยาสัตว์บางประเภท ไม่ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย แต่ตัวยาที่ออกฤทธิ์ เป็นตัวยาที่มีในยาคน ดังนั้นจังจำเป็นที่จะต้องใช้ยาคนโดยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่ที่สำคัญ การจ่ายยาอะไรก็ตามให้สัตว์นั้น ต้องได้รับการวินิจฉัยก่อนจ่ายเสมอ ตัวอย่างเช่น “โรคหวัด” ไม่ใช่โรคที่ใช้ยาตัวเดียวแล้วรักษาหายทุกตัวเสมอ โรคนี้ยังเกิดได้ทั้งจากการแพ้ จากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราหรือหลายอย่างร่วมกันก็ได้ “ท้องเสีย” ก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นอาหารที่ให้ไม่เหมาะสม อาหารที่เป็นพิษ การเตรียมไม่สะอาด จานหรือหลอดที่ใช้ป้อนไม่สะอาด มีการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส รวมถึงเชื้อโปรโตซัว หรือสาเหตุอื่นก็ได้
ซึ่งอาการของโรคต่างๆ นั้น อาจมีการแสดงออกที่คล้ายกัน แต่ตัวการที่ก่อโรคอาจจะแตกต่างกัน ดังนั้นการรักษา หรือการให้ยาที่จำเป็น รวมถึงการดูแล ก็ไม่เหมือนกัน ในบางครั้งการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู และการให้อาหารก็จะหายเองได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ยาก็ได้
นอกจากนี้ ปริมาณการให้ยาก็มีผล ตัวอย่างเช่นการเอายาคนที่ใช้ในเด็กหนัก 10 กิโลกรัม โดยกิน 1 ช้อนชา แต่ต้องมาให้ลูกกระรอกที่มีน้ำหนัก 50 กรัม เราจะต้องให้กินในปริมาณเท่าไหร่ การคำนวณปริมาณของยา อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่แค่เอาน้ำหนักมาเทียบบัญญัติไตรยางค์แล้วให้เลย แต่จริงๆ แล้ว ชนิดของสัตว์ก็มีผล ยาคนบางชนิดอาจใช้ได้ในสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่กลับเป็นพิษในสัตว์อีกชนิดหนึ่งด้วย
ในมุมมองที่ให้คำปรึกษาโดยที่ไม่ได้มีการตรวจหรือเห็นตัวสัตว์เลี้ยง จะเกิดความลำบากใจที่จะให้คำแนะนำเรื่องการให้ยา เพราะหมอจะไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วสัตว์ตัวนั้นป่วยด้วยสาเหตุอะไรกันแน่ การวินิจฉัยที่ดีนั้นต้องอาศัยการตรวจร่างกายที่ตัวสัตว์โดยตรง ร่วมกับการซักประวัติการเจ็บป่วยจากเจ้าของ รวมถึงต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกด้วย ดังนั้นการพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อจะได้ทำการตรวจรักษา จะได้ผลการวินิจฉัยและการรักษาที่แม่นยำแทนการคาดคะเนจากคำบอกเล่าเจ้าของเท่านั้นครับ
ยาที่ใช้กับสัตว์นั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม หากเลือกใช้ไม่ถูกต้องก็จะมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก รวมถึงตัวคุณเองด้วยครับ เช่นการใช้ยาปฏิชีวนะ หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ใช้ในระยะเวลาที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงวิธีการให้ที่ไม่ถูกวิธี ก็อาจจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยา และรักษาไม่หาย รวมถึง บางครั้งเชื้อดื้อยานี้ก็จะส่งผลไปถึงคนด้วย ทำให้ต้องใช้ยาตัวใหม่ๆ แรงขึ้น และแพงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นครับ ด้วยความเป็นห่วงนะครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี