ลวดลายศิลปกรรมที่พบ
เมื่อสังคมให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้มากขึ้นการนำเสนอที่เคยนำโบราณวัตถุและศิลปวัตถุจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นั้นก็มีความจำเป็นต้องหาวิธีการจัดแสดงให้คนเข้าใจได้เอง อาทิตย์นี้ได้ตามคุณอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากรไปที่ศูนย์ข้อมูลเวียงกุมกาม ซึ่งมีการปรับปรุงและสร้างสรรค์การนำเสนอข้อมูลโดยมีการนำสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาสร้างมิติความรู้ที่น่าสนใจ เพราะเป็นศูนย์ที่เปิดโลกทัศน์ของเมืองโบราณที่รู้จักกันในชื่อเวียงกุมกาม ในอดีตนั้นเป็นเมืองโบราณที่สาบสูญจมอยู่ใต้ดิน และเป็นเมืองที่พบว่าถูกสร้างขึ้นก่อนมีการสร้างเมืองเชียงใหม่
ดังนั้น การสร้างแหล่งความรู้ใหม่จึงควบคู่ไปกับการสำรวจขุดแต่งโบราณสถานที่จมอยู่ใต้ดินนั้นให้ปรากฏชัดเจนมากขึ้นพร้อมกับมีการเปิดพื้นที่โบราณสถานที่จมอยู่ใต้ดินนั้นให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปพร้อมกัน เวียงกุมกามแห่งนี้อยู่ในเขตตำบลท่าวังตาลหมู่ที่ 11 อำเภอสารภี ห่างจากเมืองเชียงใหม่ 5 กิโลเมตร ตัวเมืองล้อมด้วยคูนํ้าและคันดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างประมาณ 600 เมตร ยาวประมาณ 850 เมตร พื้นที่เป็นที่ราบจากตะกอนดินใหม่ของแม่นํ้าปิงมีระดับความสูง 300-320 เมตร เหนือระดับนํ้าทะเลปานกลาง เดิมตั้งอยู่ริมแม่น้ำมีลักษณะเป็นที่ลุ่มตํ่าหน้าฝนจึงมีนํ้าท่วมทุกปี และในฤดูนํ้าเหนือบ่าก็จะท่วมพื้นที่นี้ด้วยระดับนํ้าสูงมาก
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้นํ้าท่วมเมืองนี้จนร้างลงเมื่อศึกษาจากหลักฐานก็ทำให้ทราบว่าเวียงกุมกาม แห่งนี้เป็นเมืองที่พญามังราย กษัตริย์ราชวงศ์เม็งราย ทรงสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.1829 หลังจากที่ยกทัพจากเมืองฝาง เข้ามารุกรานและยึดครองเมืองหริภุญชัยจากพญายี่บา หลังจากที่พระองค์ประทับอยู่ที่เมืองหริภุญชัย ได้ 2 ปีแล้ว ทรงมอบให้พระโอรส“เจ้าอ้ายฟ้า” ครองเมืองหริภุญชัยแทน แล้วพระองค์ทรงย้ายมาสร้างเมืองใหม่ที่แห่งนี้ การเรียกชื่อ“เวียงกุมกาม” นั้นมีการแปลความหลายความหมาย แต่การเรียกตามสำเนียงเหนือว่า “เวียงกุมกวม” นั้นทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นเมืองที่ตั้งคร่อมแม่ปิงหรือมีความหมายมาจากคุ้มคาม คือเป็นที่พัก (คุ้ม) เจ้านายดูแลบ้านเรือน (คามะ)
เดิมนั้นใช้แม่นํ้าปิงเป็นเส้นทางในการคมนาคมติดต่อกับเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือและทางตอนใต้อันเป็นเหตุให้เวียงกุมกามนั้นเป็นศูนย์กลางทางการค้าขายขนาดใหญ่ในยุคนั้น แต่ด้วยเหตุเป็นพื้นที่ตํ่าและติดกับแนวโค้งของแม่นํ้าปิง จึงทำให้นํ้าท่วมบ่อยครั้ง จนทำให้พญามังรายหาทำเลสร้างเมืองใหม่บริเวณพื้นที่ราบเชิงดอยสุเทพสร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์ คือเมืองเชียงใหม่ เมื่อพ.ศ.1839โดยเวียงกุมกามยังเป็นกาดหรือศูนย์การค้าอยู่จนเมื่อพุทธศตวรรษที่ 22 ระหว่างปี พ.ศ.2101-2317ในสมัยพม่าปกครองล้านนานั้นแม่น้ำปิงเกิดเปลี่ยนทิศทางและนำตะกอนดินเข้าท่วมเวียงกุมกามจมอยู่ใต้ดินประมาณ 3 เมตร จนเมื่อพ.ศ.2527 จึงมีการค้นพบและกรมศิลปากรโดยสำนักศิลปากรที่ 8 ได้ขุดแต่งให้เห็นโบราณสถานสำคัญของเวียงกุมกามที่มีมากกว่า 40 แห่งขึ้นจากใต้ดิน ดังนั้นการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์และโบราณคดีนอกจากเรื่องของพญามังราย ผู้สร้างเมืองเวียงกุมกามเป็นราชธานีแห่งแรกของล้านนาแล้ว ได้มีการนำเสนอในมิติของศูนย์ข้อมูลที่ย้อนอดีตให้เห็นจินตภาพของวิถีชีวิตของผู้คนเวียงกุมกาม ในระบบ 360 องศา พร้อมกับการสัมผัสโครงสร้างสถาปัตยกรรมของเจดีย์รูปแบบต่างๆ ผ่านสื่อวีดิทัศน์
Augmented Reality ก่อนที่จะได้พบเห็นชิ้นงานที่แสดงลวดลายศิลปกรรมและหลักฐานสำคัญที่พบในเวียงกุมกาม โดยการทำงานของนักโบราณคดีที่ดำเนินการขุดแต่งกว่าจะได้มาถึงเรื่องราวทั้งหมดจากเอกสาร ข้อมูลการศึกษา หากจัดส่วนจดหมายเหตุและห้องสมุดเสริมขึ้นก็จะเป็นต้นแบบของศูนย์ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ที่น่าจะเกิดขึ้นในโบราณสถานสำคัญทุกแห่งและท้องถิ่นต่างๆ ที่กำลังเถิดเทิงกับกิจกรรมไร้สาระกับมิติการเรียนรู้มากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี