ภาพวาด” ของเยาวชนจากทั่วสารทิศที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรมประกวดภาพวาด “น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” จัดโดย “สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึง “พระมหากรุณาธิคุณ” ที่แผ่ไพศาล
นั่นเพราะ “ภาพวาด” ที่กลั่นจากจินตนาการของ “เด็กรุ่นใหม่” ก่อนถ่ายทอดผ่าน “ปลายพู่กัน”สามารถสื่อสารแทน “ล้านคำพูด” ของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อ “พ่อหลวง” ได้เป็นอย่างดี
“นายรักษเกชา แฉ่ฉาย” เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการจัดงานประกวดครั้งนี้ ว่า เราเล็งเห็นว่าจะทำอย่างไรที่จะน้อมรำลึกถึง “พระมหากรุณาธิคุณ” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้ทำโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนที่ต้องการจะศึกษา หรือน้อมนำพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมานำเสนอด้วยภาพวาด และคิดว่าเป็นการคิดและใช้สติปัญญาเข้ามามีส่วนร่วม เพราะการที่จะนำเรื่องที่พระองค์ท่านทำมาตลอด 70 ปี มาวาดใส่ “กระดาษแผ่นเดียว” เป็นเรื่องสุดคลาสสิก
“สิ่งที่ดี คือ เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งโครงการนี้จะแตกต่างจากโครงการอื่นๆ คือ นำพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดระยะเวลา 70 ปี มานำเสนอเป็นภาพวาด และเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากเพราะคณะกรรมการพิจารณาเห็นตรงกันในการคัดเลือกภาพวาดที่ส่งเข้ามาประกวด คือ เดินผ่านรูปไหนแล้วเราขนลุกเราเลือกรูปนั้น คล้ายๆ กับน้องๆ ได้ใช้ปลายพู่กันใส่จิตวิญญาณลงไปด้วย สื่อสารออกมาว่าพระองค์ท่านทรงทำอะไรบ้าง เราคัดเลือกกันหลายรอบกว่าจะได้รางวัลชนะเลิศ” เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัล กล่าว
ด้าน “ด.ช.อัฐพล เหล่าประชา” นักเรียนโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เล่าให้ฟังว่า“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้พสกนิกรอยู่อย่างมีความสุข จึงได้เขียนภาพที่แสดงถึง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” โดย “แรงบันดาลใจ” คือ การทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9ทรงยอมเหน็ดเหนื่อย ทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรของพระองค์ท่าน “กินดี อยู่ดี มีความสุข” ทรงคิดค้นโครงการต่างๆ
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 เปรียบเหมือนผู้ที่ทำให้แผ่นดินไทยเป็นประเทศที่รุ่งเรือง การที่วาดภาพพระองค์ท่านทรงเกี่ยวข้าว รดน้ำ พรวนดิน ตั้งแต่ยังเป็นต้นกล้า ก็เหมือนในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพัฒนาประเทศไทยมาจนถึงทุกวันนี้” ด.ช.อัฐพล กล่าว
ขณะที่ “นายธนภูมิ บัวกลิ่น” นักเรียนโรงเรียนราษฎร์บำรุง ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เผยถึง “แนวคิด”ของภาพที่ได้รับรางวัล ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเปรียบเสมือน “ครู” ผู้วางแนวทางและให้ความรู้ เพื่อที่จะปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง สุจริต พระองค์ท่านมีพระราชกรณียกิจ และอัจฉริยะในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านศิลปะ ทรงดูแลทุกข์สุขพสกนิกรตลอดเวลา 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ พระองค์ท่าน “ไม่เคยทิ้งประชาชน” ภาพที่วาดออกมาจึงเป็นช่วงเวลาที่พระองค์ท่านดูแลพสกนิกร ทรงยื่นพระหัตถ์เข้ามาช่วยเหลือโทนสีทั้งหมดจะเป็นการเล่นน้ำหนัก หนัก เบา เพื่อให้เห็นถึงระยะเวลาที่ผ่านมาว่าทรงงานหนักมามากเพียงใด
“แม้ผมจะเกิดช้า แต่ผมก็เห็นพระองค์ท่านมาตั้งแต่จำความได้ ท่านทรงงานตลอดเรื่อยมา ไม่เคยเห็นพระองค์ท่านใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนพระราชา จะยากลำบากเพียงใดพระองค์ไม่เคยทิ้งประชาชน ผมจะเป็นพสกนิกรที่ดีและจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด” ธนภูมิ กล่าวอย่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
ส่วน “นายณธารา รุ่งวงษ์” นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร เจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับอุดมศึกษา ถ่ายทอดความรู้สึกว่า ภาพที่ตนวาดได้แรงบันดาลใจมาจาก “โครงการพระราชดำริ” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ผ่านมาพระองค์ท่านมีแต่ “ให้”
ซึ่งการให้นั้นทำให้พสกนิกรอยู่ดี มีสุข อุดมสมบูรณ์ จึงวาดภาพพระองค์ทอดพระเนตรขึ้นไปมองฝนที่กำลังตกลงมาเป็น “สายฝน” ด้วยความหวัง อาจจะหวังให้พสกนิกรของพระองค์ท่านมีความสงบสุข และอุดมสมบูรณ์จากสายฝนที่ตกลงมา
“ตั้งแต่ผมเด็กๆทุกครั้งที่เห็นพ่อหลวง ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เพียงแค่เห็นท่านในโทรทัศน์ หรือภาพของพระองค์ท่าน ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนพระองค์ท่านไม่เคยละทิ้งเราไปไหน ผมตั้งใจว่าจะเป็นพลเมืองที่ดี รู้จักการให้และเสียสละในสิ่งที่ทำได้ เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ”ณธารา กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อ “พ่อหลวง”
สำหรับภาพวาดทั้งหมดที่ส่งเข้ามาประกวดนั้น“สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน” ได้จัดพิมพ์เป็น “ปฏิทิน”แจกจ่ายให้ประชาชนแล้ว พร้อมทั้งเตรียมนำไปจัดนิทรรศการต่อไป เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ผ่านความงามของภาพวาดที่ทุกภาพแสดงให้เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อยที่ทรงงานหนักตลอด 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ เพื่อทำให้พสกนิกรชาวไทยมีความร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภารอย่างต่อเนื่องยาวนาน ดังพระปฐมบรมราชโองการว่า...
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
สุชาดา วันทอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี