ต้นฉบับวรรณกรรมจีนที่แปลสมัยแรก
วันพิราลัยของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) ผู้สำเร็จราชการในแผ่นดินรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ที่ผ่านมานั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้นำวรรณกรรมจีนเรื่องซ้องกั๋ง มาจัดพิมพ์ขึ้นใหม่ ด้วยเป็นผลงานของสมเด็จเจ้าพระยาฯให้แปลและพิมพ์เผยแพร่สอนผู้คนเช่นเดียวกับอดีตที่ใช้วรรณกรรมจีนสอนผู้คนในสังคม กล่าวคือตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ นั้นทรงโปรดฯให้แปลเรื่องไซฮั่น และเรื่องสามก๊ก รัชกาลที่ ๒ ทรงโปรดฯ ให้แปลเรื่องเลียดก๊ก ห้องสินและตั้งฮั่น ในรัชกาลที่ ๓ มีนั้นได้มีชาวจีนเข้ามาทำมาค้าขายและอยู่ร่วมกันตามชายทะเลจำนวนมาก ต่อมามีเหตุการณ์อั้งยี่เพื่อดูแลชาวจีนและทำร้ายกัน ทำให้เจ้าพระยาพระคลัง คือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์(ดิศ) ต้องนำกำลังปราบหลายครั้ง ที่ชายทะเลแสมดำเมื่อพ.ศ.๒๓๘๗ ที่ตำบลลัดกรุด สมุทรสาคร เมื่อพ.ศ.๒๓๙๐ และที่เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อพ.ศ.๒๓๙๑ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) เป็นสมุหกลาโหมในรัชกาลที่ ๔ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลหัวเมืองชายทะเล ที่มีชาวจีนโพ้นทะเลมาอยู่จำนวนมากนั้น จึงสนับสนุนการแปลวรรณกรรมจีนเพื่อผสมผสานความคิดผ่านตัวละครและเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จีนมาสู่การปรับตัว อันส่งผลให้อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและมีความสุขร่วมกัน วรรณกรรมจีนที่คัดเลือกมาแปลครั้งนั้นมีถึง ๑๙ เรื่อง โดยดำเนินการแปลมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๔ จำนวน ๑๐ เรื่อง ได้แก่ เรื่อง ไซ้จิ้น, ตั้งจิ้น,น่ำซ้อง, หงอโต้, บ้วนฮวยเหลา,โหงวโฮ้วเพงไซ, โหงวโฮ้วเพงหนำ, ซวยงัก, ซ้องกั๋ง, เม่งเฉียว และอีก ๙ เรื่องในช่วงจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์(ช่วง)เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ได้แก่เรื่อง เสาปัก, ซิยินกุ้ยเจงตัง, ซิเตงซันเจงไซ, เลียดต้วน, อิวกังหนำ,ไต้อั้งเผ่า, เซียวอั้งเผ่า, หนำอิดซือ, เม่งฮวดเชงฌ้อ แต่ละเรื่องนั้นได้มีการแสดงงิ้วถ่ายทอดเนื้อหาสาระและสร้างความสนุกสนาน เป็นการสอนคุณธรรมและเรียนรู้เล่ห์กลให้รู้จักผิดชอบชั่วดีผ่านตัวละคร ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียนสอนประชาชน ซึ่งมีการจัดพิมพ์ครั้งแรกใน ปี พ.ศ.๒๔๑๙ โดยโรงพิมพ์หมอบรัดเลย์ ที่นำวรรณคดีและเรื่องแปลในรัชกาลที่ ๑-๔ มาพิมพ์เผยแพร่ โดยเฉพาะวรรณกรรมจีน ๑๙ เรื่อง ดังกล่าวนั้นเรียกว่าฉบับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง) สำหรับเรื่อง ซ้องกั๋ง นั้นเป็นวรรณกรรมสุดยอดใน ๔ เรื่องของจีนได้แก่ ซ้องกั๋ง-สามก๊ก ไซอิ๋ว และ ความฝันในหอแดง “ซ้องกั๋ง” นั้นเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ้อง แผ่นดินพระเจ้าซ่งเฟยหง เมื่อพ.ศ.๑๖๖๔ เป็นเรื่องความผูกพันระหว่างบุคคล ที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง สะเทือนใจ ผ่านตัวละครที่มีความสำคัญถึง ๑๐๘ คน แต่ละคนนั้นต่างมีบทบาทเป็นผู้กล้าหาญ-ดาวฟ้า-สหายดินอยู่ที่เขาเหลียงซานหรือเนียซัวเปาะ โดยมีหัวหน้าชื่อ ซ่งเจียง เป็นผู้มีความซื่อสัตย์ กตัญญู รู้หนังสือ และงานฝ่ายบุ๋น ฝีมือเข้มแข็ง โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ขัดสนจนมีคนมาสวามิภักดิ์จำนวนมาก แต่ละคนล้วนมีที่มาที่ไปแตกต่างกัน แต่ทุกคนมารวมกันเพื่อต่อสู้กับอำนาจ ซึ่งสอนให้รู้จักการต่อสู้เพื่อทวงสิทธิประโยชน์ของตน และค้นหาคำตอบถึงการที่จะให้ผู้อื่นรังแกอย่างไม่มีเหตุผลต่อไปอีกหรือไม่ เป็นเรื่องที่สร้างให้คนทุกคนเป็นคนกล้าที่จะแสดงออก กล้าต่อสู้ กล้าที่จะยืนอยู่ในจุดยืนที่ถูกต้อง และเป็นกำลังสำคัญของชุมชน-อันเป็นพื้นฐานเบื้องต้นให้ประชาชนได้เรียนรู้และตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของตนเองจากตัวละครดังกล่าวอย่างไม่รู้ตัว เป็นเรื่องราวของผู้ที่ทนต่อความเหลวแหลกของสังคมไม่ได้แล้วพากันหลบหนีเข้าป่าไปซ่องสุมต่อต้านความอยุติธรรม สะท้อนภาพการปกครองที่เลวร้ายจนนำไปสู่ความแตกแยกความสามัคคี เมื่อฝ่ายปกครองรู้จักโอนอ่อนผ่อนปรน จึงออกจากป่ามาช่วยพัฒนาบ้านเมืองในที่สุด ใช้สอนสังคมว่า “ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการขัดขืน” ภายหลังนั้นซ่งเจียง ได้เข้าทำราชการเป็นขุนนางผู้สำเร็จราชการเมืองฌ้อจิว วรรณกรรมจีนซ้องกั๋งจึงเป็นเรื่องอ่านสนุก เข้าใจง่าย คนจึงนิยมกันอย่างกว้างขวางและสะท้อนสังคมไทยมาทุกยุคสมัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี