เข้าสู่เดือนแห่งความรัก หลายๆ ครอบครัวที่กำลังเริ่มต้นชีวิตคู่ก็อยากที่จะวางแผนมีลูกน้อยมาเติมเต็มครอบครัวให้อบอุ่นและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การวางแผนครอบครัว คือการที่คู่สามีและภรรยาตกลงร่วมกันเพื่อวางแผนเกี่ยวกับการมีบุตรของครอบครัว โดยอาจใช้วิธีทางธรรมชาติ การใช้ยา หรืออุปกรณ์เพื่อช่วยให้การมีบุตรสำเร็จได้ดีมากขึ้น เรามาดูกันว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง
นายแพทย์กฤตยะ กฤตย์ประชา แพทย์สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า การเตรียมตัวในการวางแผนครอบครัวเบื้องต้น ด้วยวิธีง่ายๆ คือ ขั้นแรก ดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพองดการสูบบุหรี่และดื่มเหล้า หลีกเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ครบถ้วน แนะนำให้ฝ่ายหญิงกินยา folic acid วันละ 1 เม็ด ก่อนตั้งครรภ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนเพื่อป้องกันภาวะความพิการทางสมองของเด็ก (neural tube defect) และที่สำคัญแนะนำให้มีลูกก่อนอายุ 35 ปี เพราะการตั้งครรภ์จะยากขึ้นหลังอายุดังกล่าว
ขั้นที่สอง พบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเราเป็นคู่รักที่เสี่ยงต่อการมีลูกง่ายหรือยาก หรือถ้าตั้งครรภ์ไปแล้วมีโอกาสที่ลูกจะผิดปกติหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีโรคประจำตัวเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ดี ก็จะมีความเสี่ยงเด็กพิการได้ หรือมีประวัติปวดประจำเดือนมาก ประจำเดือนมาผิดปกติ ตรวจพบเนื้องอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่ ก็อาจจะมีความเสี่ยงมีลูกยากตามมาได้
ขั้นที่สาม ตรวจเลือดเพื่อเตรียมตัวก่อนมีลูก ที่นิยมตรวจกันคือ ความผิดปกติของเม็ดเลือด(CBC) โรคที่พบบ่อยคือ โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปให้ลูกได้ โดยกรณีถ้าลูกเป็นชนิดรุนแรง ก็จะมีภาวะซีด ตับโต ต้องให้เลือดบ่อยๆ หลังคลอด หรือบางรายอาจจะเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ได้ หมู่เลือดและชนิดหมู่เลือด (Blood group ABO and Rh)บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินการขอบริจาคหมู่เลือดหายาก ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้เลือดโดยเฉพาะช่วงคลอดลูกจะได้มีการเตรียมเลือดได้ทันท่วงที ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น การติดเชื้อ HIV ซิฟิลิส เป็นต้น การตรวจหาโรคและภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ถ้ามารดาติดเชื้อ ก็จะมีความเสี่ยงติดต่อไปยังลูกได้ โดยถ้าเด็กได้รับเชื้อนี้ ก็จะส่งผลต่อการเกิดภาวะตับอักเสบและตับแข็งตามมา ในกรณีที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน หมอแนะนำให้ฉีดวัคซีนรวม 3 เข็มก่อนการตั้งครรภ์ (0,1,6 เดือน) การตรวจหาภูมิต้านทานต่อหัดเยอรมัน (Rubella) ถ้าติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์มีโอกาสที่เด็กจะพิการสูงมาก หมอแนะนำให้ฉีดวัคซีน 1 เข็มก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1เดือน
ขั้นที่สี่ ในกรณีที่ปล่อยมีบุตรมาแล้วเกิน 1 ปี ซึ่งเข้าได้กับภาวะมีบุตรยาก หมอแนะนำให้เพิ่มการตรวจน้ำเชื้ออสุจิฝ่ายชายร่วมด้วย (semen analysis) ซึ่งพบสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยากได้ถึงร้อยละ 40 พอๆ กับฝ่ายหญิง
ดังนั้น หากคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมีการเตรียมตัวเพื่อความพร้อมของชีวิตครอบครัว ก็จะช่วยให้ได้การตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ลูกน้อยมีความสมบูรณ์แข็งแรง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกและครอบครัวในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี