พิธีกรรายการ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย และ โบว์-นาทลดา ธรรมธนาคม
...สำคัญตัวเราเองต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเรามีความสามารถและมีความพยายามจริงๆ…
นับเป็นศิลปินนักร้องคุณภาพและมีน้ำเสียงอันทรงพลังจนได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ สำหรับ นาทลดา ธรรมธนาคม นักร้องเสียงโอเปร่า โซปราโน ซึ่งคนไทยน้อยคนนักที่จะรู้จักตัวตนจริงๆ ของเธอกับการก้าวเข้ามาเป็นนักร้องโอเปร่า จนสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังไกลระดับโลก สร้างความตะลึงแก่ชาวต่างชาติมาแล้วนับไม่ถ้วนล่าสุดทางรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 ดำเนินรายการโดย “ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย” ได้รับโอกาสพาไปรู้จักมุมมองดีๆ ในการทำงานและการใช้ชีวิตในแบบของนักร้องเสียงโอเปร่าคนนี้มาให้รู้จักกัน
นาทลดา ธรรมธนาคม เล่าว่า “ตั้งแต่เกิดมาโบว์ไม่เคยรู้จักคำว่า โอเปร่า มาก่อนเลย คือเราไม่ได้อยู่ในโลกของเสียงเพลงแม้แต่น้อย จนกระทั่งอายุได้ 20 ปี โบว์ได้มารู้จักกับอาจารย์สมเถา สุจริตกุลท่านเป็นคนที่เปิดโลกทัศน์ของการเป็นนักร้องโอเปร่าให้กับเรา เมื่อสมัยเด็กโบว์เรียนที่โรงเรียนประถมศูนย์รวมน้ำใจ โรงเรียนมัธยมที่โรงเรียนสตรีวัดระฆังและจบมหาวิทยาลัยราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับโอเปร่าเลย คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เป็นศิลปินร้องเพลงแต่อย่างใด ในเรื่องของดนตรีอาจารย์สมเถาเป็นคนที่จุดประกายให้โบว์ค่ะ
ต้องบอกก่อนว่าโบว์เป็นคนที่รู้ตัวเองตั้งแต่แรกว่าจะเป็นนักร้อง อันนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ตอนอายุได้ 8 ขวบ โบว์เริ่มประกวดร้องเพลงของสยามกลการ โดย คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช หลังจากนั้นที่บ้านก็พยายามไม่ให้เราร้องเพลงเพราะกลัวว่าเราจะเป็นศิลปินเกินไป ก็เลยได้ไปเรียนสตรีวัดระฆัง เพราะอยากให้เราเรียนเหมือนคนปกติทั่วไป จากนั้นพอเราจะเข้าระดับมหาวิทยาลัย เราก็เริ่มที่จะคิดแล้วว่าเราจะไปสายไหน จะเรียนอะไร กำลังค้นหาตัวเองอยู่ จนกระทั่งมีคนมาบอกว่า “อ้าว...เป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็กๆ ทำไมไม่เข้าเอกขับร้อง” ตอนนั้นเราก็คิดว่าเอกขับร้องมันคืออะไร จะต้องทำอะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อนเราก็บอกว่าจะต้องร้องหลายๆ ภาษาซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าไกลมาก ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ต้องยอมรับเลยว่าเรื่องของภาษาเรานั้นไม่ดีเลยแต่เป็นคนที่ชอบฟังเพลงสากล แล้วมันมีความตลกอยู่อย่างคือ สมัยเรียนที่สตรีวัดระฆัง เราจะชอบไปดักรอฝรั่งเพื่อที่จะคุยกับเขา จริงๆ เราชอบในเรื่องของภาษาอยู่แล้ว
จากนั้นเราก็เตรียมที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็เริ่มเรียนร้องเพลงคลาสสิก แล้วจุดที่เปลี่ยนอีกครั้งคือ ช่วงที่เรียนปี 2 ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินมาบอกเราว่า “วันนี้จะไปออดิชั่น กับอาจารย์สมเถา” ซึ่งโบว์ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่าเราร้องโอเปร่าอยู่ เสร็จแล้วอาจารย์ที่สอนเราก็บอกว่า “เนี่ย!! เอาโบว์ไปออดิชั่นด้วยเลย” จากนั้นเราก็ตามอาจารย์ไปออดิชั่นก็ไปแบบงงๆ แล้วโบว์ก็ไม่รู้จักอาจารย์สมเถา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร เราก็บอกกับอาจารย์สมเถาไปว่าเราจะร้องเพลง ควีนออฟเดอะไนท์ อาจารย์ก็ตกใจอยู่พักหนึ่ง เพราะเพลงนี้ยากมาก พอร้องเสร็จก็เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่มันยังไม่ใช่บทที่เหมาะสมกับอายุและเวลาในตอนนั้น เพราะเรายังเด็กมาก แต่เพลงในตอนนั้นเป็นบทของแม่ จากนั้นอาจารย์ก็ให้ลงชื่อไว้ ให้เป็นคอรัสก่อน ตอนนั้นรู้สึกไม่ได้คิดอะไรมากมายนะคะ ที่ไม่อยากไปร้อง ก็เพราะว่าเขาพูดภาษาอังกฤษกันตลอดระยะเวลาที่มีการซ้อม โบว์ก็เลยตัดสินใจกลับบ้านทันทีเลย ไม่สนล่ะ ไม่เอาล่ะ ภาษาอังกฤษเยอะแยะไปหมด เรากลัวตามเขาไม่ทัน จากนั้น 1 เดือนผ่านไปอาจารย์ก็ติดต่อผ่านอาจารย์โบว์ให้ไปร้องเพลง คือตอนนั้นไม่กลัวเรื่องภาษาแล้ว เพราะอาจารย์สมเถาท่านก็คุยภาษาไทยกับเรา นั่นคือประตูแรกที่ทำให้เราได้รู้จักโลกของโอเปร่า ต้องบอกว่าโบว์โชคดีมากๆ ที่ได้รับโอกาสที่ดีจากท่านมาตลอด
จุดเปลี่ยนในชีวิตอีกครั้ง คือตอนที่โบว์ได้รับทุนจาก คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพราะท่านก็ได้เห็นพัฒนาการของเราตั้งแต่เด็กๆ คุณหญิงก็อยากจะช่วยเหลือเรา คุณหญิงท่านก็เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าโบว์อยากจะทำอะไรให้ไปบอกท่าน” จากนั้นโบว์ก็ได้เรียนต่อที่เบลเยียม ที่เลือกที่นั่นก็เพราะว่าเรามีญาติอยู่ที่นั่น ในระยะเวลา 5 ปีคุณหญิงท่านเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ในขณะโบว์ที่ไปเรียนอยู่ที่นั่น เรียนมาได้สักระยะเรารู้สึกว่าเรามีปัญหากับการสื่อสาร เพราะหลักสูตรเขาใช้ภาษาฝรั่งเศส ก็เลยตัดสินใจกลับไปปรึกษาคุณหญิงอีกรอบว่าเราต้องการที่จะย้ายโรงเรียน เพราะขืนเรียนต่อไปคงไม่รอดแน่ๆ และที่สำคัญโรงเรียนเก่าเขาไม่ได้เน้นเรื่องของการมีคุณสมบัติของการเป็นนักดนตรี พอย้ายมาเรียนที่ใหม่ โบว์รู้สึกมีความสุขกับการเรียนมากและก็ได้เกียรตินิยมจากโรงเรียนนี้ ซึ่งก็ไม่มีใครเชื่อ
ตอนนี้โบว์ก็มีอาชีพเป็นนักร้องโซปราโนที่เบลเยียม เราเป็นคนธรรมดาๆ อาชีพนี้ก็เป็นเพียงอีกอาชีพหนึ่งแล้วเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้ทำในอาชีพที่ตัวเองรัก เรื่องของโอเปร่าหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนมอง แล้วแต่สถานที่ แต่บางทีการลากเสียงของโอเปร่าก็จะมีความหรูหรามาก แต่ปกติแล้วโอเปร่าเป็นวัฒนธรรมของที่โน่น หลายคนก็จะมาชมทุกๆ วันอาทิตย์ เป็นสิ่งที่เขาทำปกติและมาชมเป็นประจำอยู่แล้ว
ท้ายสุดโบว์อยากจะฝากเกี่ยวกับอาชีพศิลปินนักร้องว่า เป็นอาชีพที่ต้องการการสนับสนุนอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนในเรื่องของจิตใจการเงิน ไม่อยากให้มองว่าศิลปินขี้เกียจ ที่สำคัญตัวเราเองต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเรามีความสามารถและมีความพยายามจริงๆ ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช, อาจารย์สมเถา สุจริตกุลและคุณพ่อคุณแม่ของโบว์เอง จริงๆ มีเยอะมากค่ะ กล่าวไปคงไม่หมด ขอบคุณทุกๆ คนที่ให้โอกาสโบว์ได้มายืนที่ตรงจุดนี้”
พบเรื่องราวดีๆ ที่ครบครันแบบนี้ได้ในรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00-16.25 น. ทางTNN2 (และช่อง 784ทางดิจิตัลทีวี) หรือTrue Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่youtubeผู้หญิงแนวหน้าbyคุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี