นพ.นิธิวัฒน์ กิจศรีอุไร ผอ.รพ.สมิติเวช สุขุมวิท นำทีมแพทย์เปิดตัว “การแพทย์สมัยใหม่ Precision Medicine”
สมิติเวชก้าวไปอีกขั้นของการรักษา เปิดตัว “การแพทย์สมัยใหม่ Precision Medicine” เฉพาะเจาะจงแต่ละบุคคลลึกถึงระดับยีน รักษามะเร็งได้ผลดีกว่า พร้อมหยุดยั้งการส่งต่อโรคทางพันธุกรรม โดยกำลังเข้าไปแทนการดูแลรักษาแบบเดิม ซึ่งโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ได้เริ่มนำการแพทย์ยุคใหม่นี้มาดูแลคนไข้ในด้านต่างๆ ได้แก่ สูตินรีเวช การวางแผนตั้งครรภ์และการป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์, มะเร็งวิทยา การรักษามะเร็ง และการป้องกันดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งบุคคลและครอบครัวและจะมีเพิ่มในส่วนสาขาการแพทย์อื่นๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
นายแพทย์นิธิวัฒน์ กิจศรีอุไร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวว่า การแพทย์ปัจจุบันเปลี่ยนไปในทิศทางการรักษาเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพราะทุกคนมีความเสี่ยงไม่เหมือนกัน แม้จะเชื้อชาติเดียวกัน แต่ถ้าอยู่คนละประเทศ โรคก็ต่างกันไป การดูแลรักษาจึงต้องคำนึงถึงพันธุกรรม การใช้ชีวิตและสิ่งแวดล้อมมาประมวลเพื่อวินิจฉัย วางแผนการรักษารวมถึงการป้องกันโรคในอนาคตที่เราเรียกว่า “การแพทย์สมัยใหม่ Precision Medicine” ซึ่งสมิติเวชได้ริเริ่มมาดูแลคนไข้ในด้านต่างๆ เช่น สูตินรีเวช เพื่อวางแผนการตั้งครรภ์และป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ด้านมะเร็ง และการป้องกันดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และจะเพิ่มในส่วนสาขาอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้
“จากเดิมที่ใช้แบบองค์รวมรักษาคล้ายๆ กัน บางคนได้ผลดี แต่บางคนไม่ตอบสนอง เช่นมะเร็ง และการใช้ยาปฏิชีวนะจนเกิดอาการแพ้ยา การแพทย์พยายามเข้าถึงมาตลอด จนปี พ.ศ.2553 สถาบันวิจัยจีโนมมนุษย์ในสังกัดของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องพันธุกรรม จับมือกับประเทศชั้นนำในการเข้าถึงรหัสพันธุกรรม โดยใช้เวลาถึง 10 ปี ถือเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญของการแพทย์ สำหรับประเทศไทยเริ่มมีการพูดถึงมากขึ้น ซึ่งนอกจากคณะนักวิจัยจะได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลแล้ว กระทรวงสาธารณสุขเองก็ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม และกระทรวงศึกษาธิการเริ่มประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ โรงพยาบาลสมิติเวชก็ให้ความสนใจช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เริ่มโครงการโดยใช้รหัสพันธุกรรมในการกำหนดการรักษา ใช้วินิจฉัยและรักษามะเร็งบางประเภท รวมทั้งการตรวจสอบว่ายีนสมบูรณ์หรือไม่สำหรับพ่อแม่ที่กำลังจะมีลูก เพื่อป้องกันไม่ให้โรคทางพันธุกรรมสืบทอดไปสู่ลูก”
รศ.ดร.นพ.บุญศรี จันทร์รัชชกูล หัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ กล่าวว่า ในปัจจุบันการตรวจสุขภาพแบบ “Precision Medicine” คือตัวช่วยสำคัญที่สามารถเจาะจงลงไปตามความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ทั้งทางด้านครอบครัว พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม รูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อการดูแลที่ตรงจุดด้วยเทคโนโลยี “การตรวจยีนก่อนตั้งครรภ์” ที่สามารถตรวจคัดกรองและวินิจฉัยลึกระดับยีนหาความผิดปกติของยีนด้อยได้กว่า 600 ยีน ตรวจหาโรคทางพันธุกรรมได้กว่า 200 โรค และให้ความแม่นยำสูงถึง 95% โดยเฉพาะ 5 โรคพันธุกรรมจากยีนร้ายที่ซ่อนในพ่อและแม่ที่เป็นพาหะ ซึ่งพบได้บ่อยทั้งในคนไทยและต่างชาติ คือ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบเป็นอันดับ 1 ในคนไทย, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง พบได้ในทุกเชื้อชาติ, Cystic Fibrosis เกิดจากความผิดปกติของยีน มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร, Fragile X โรคที่ทำให้เกิดความบกพร่องในการพัฒนาของสมอง ผู้ป่วยมักเป็นเด็กผู้ชาย บางรายมีอาการออทิสติก เช่น สมาธิสั้น ซน อยู่ไม่นิ่ง และหูหนวก หูตึง
นายแพทย์บุญแสง วุฒิพันธุ์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสามารถตรวจเช็คได้ก่อนว่าพ่อแม่อยู่ในภาวะไหนสำหรับโรคธาลัสซีเมีย คือ เป็นพาหะ เป็นโรคและไม่เป็นเลยซึ่งหากมีคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนเป็นพาหะหรือเป็นโรคก็สามารถเลือกทางเลือกแรกคือ สร้างตัวอ่อนและวินิจฉัยก่อนเพื่อคัดเลือกตัวอ่อนที่เป็นปกติเข้ารับการั้งครรภ์ต่อไปอีกทางหากมีการตั้งครรภ์ไปแล้ว เมื่อครรภ์มีอายุ 11 สัปดาห์ก็มาตรวจก่อนว่าอยู่ในภาวะไหน ซึ่งหากเป็นโรคหรือเป็นพาหะ สามารถมใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยสานต่อเพื่อตัดตอนโรคที่เกิดทางพันธุกรรมนี้ได้
นายแพทย์ภูชัย พิทักษ์กิจนุกูร แพทย์อายุรศาสตร์ เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมามีความก้าวหน้าเรื่องการตรวจและรักษมากขึ้น ทั้งการผ่าตัด ฉายแสง ใช้ยา จากแต่ก่อนที่มีเฉพาะเคมีบำบัดซึ่งใช้วิธีการนี้รักษาทุกคนเหมือนกันหมด แต่พบว่าได้ผลเฉพาะบางคน ดังนั้นการรักษาวันนี้จึงมุ่งเน้นไปเฉพาะเจาะจงถึงระดับพันธุกรรม ซึ่งพบว่าการรักษาเฉพาะคนนี้ได้ผลดีขึ้นมากถึง 70-80% คนไข้มีอายุยาวขึ้นและเมื่อใช้ยาเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย พบว่าสามารถตอบสนองได้ยาวกว่าจากเดิมโรคมะเร็งปอดสามารถคุมการแพร่กระจายได้ 6 เดือน แต่เมื่อใช้วิธีนี้สามารถควบคุมได้ 2-3 ปี ซึ่งเป็นการฉีดเพื่อให้เม็ดเลือดขาวไปฆ่ามะเร็งได้ดีขึ้น
ดร.นพ.โอบจุฬ ตราชู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาโมเลกุลการแพทย์ เสริมว่า โรคพันธุกรรมเด่นที่มีการถ่ายทอดไปยังลูกหลานถึง 50% จากรุ่นสู่รุ่น หนึ่งในนั้นคือ มะเร็ง ที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมโดยกำเนิด 5% อย่างกรณีของ แองเจลิน่า โจลี ที่มีแม่ ป้า ยาย เป็นมะเร็งเต้านมความเสี่ยงก็จะสูงขึ้น วิเคราะห์แล้วพบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 25% มีโอกาสเป็นมะเร็งถึง 80% เธอจึงตัดสินใจตัดนมและรังไข่ออกเพื่อตัดปัญหา นอกจากนี้มะเร็งลำไส้ใหญ่และโพรงมดลูก ยังมีโอกาสที่จะเกิดในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ถ้าอยู่ในภาวะเสี่ยงก็จะแนะนำให้ตรวจยีนส์เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งในครอบครัวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี