...คุณหมอบอกว่า อาจจะไม่มีน้ำนมนะ พยาบาลลองมาบีบๆ ดูก็เห็นว่ามีน้ำนมซึมออกมา เราก็ให้พาน้องมาเข้าเต้าเลยค่ะ อยากให้นมลูกด้วยตัวเอง ปรากฏว่ามันออกน้อยมากๆ ขนาดที่ว่านวดด้วยมือใช้เครื่องปั๊มก็ยังมีแต่ลม ลำพังแค่ลูกคนเดียวก็ไม่พอ ลูกแฝดไม่ต้องพูดถึง ลูกกินไม่อิ่มแน่ๆ แต่ด้วยวิญญาณความเป็นแม่ เราก็รู้สึกยอมไม่ได้...
แม้จะมีอุปสรรคและต้องผ่านความยากลำบากถึงขั้น “เกือบเอาชีวิตไม่รอด” แต่ด้วยพลังแห่งรักที่ยิ่งใหญ่จึงทำให้ เภสัชกรหญิง วิภาดา มานุวงศ์ ผ่านความยากลำบากจนสามารถทำหน้าที่ “แม่” ได้อย่างที่ตั้งใจ และส่งต่อพลังนั้นไปสู่คุณแม่คนอื่นๆ อีกด้วย
ภกญ.วิภาดา เล่าถึงความตั้งใจในการทำหน้าที่ “แม่” ให้ฟังว่า ด้วยความที่แต่งงานช้า อายุของสามี ดร.ธีรพัทธ์มานุวงศ์ และตัวเธอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีลูกเองด้วยวิธีการธรรมชาตินั้นเป็นไปได้ยาก ทั้งคู่จึงตัดสินใจใช้วิทยาการทางการแพทย์เพื่อที่จะมีลูกมาเติมเต็มครอบครัวเล็กๆ
“ทำกิฟท์ครั้งแรกไม่ติด มาติดครั้งที่สองและผลคือ มีลูกแฝด ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าการมีลูกแฝดด้วยอายุและสรีระของเราที่เป็นคนตัวเล็กจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ พออายุครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ปรากฏว่ามีเลือดออกไม่หยุดมีอาการคล้ายว่าจะคลอด คุณหมอสั่งห้ามเคลื่อนไหวโดยเด็ดขาด ต้องนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงเพียงอย่างเดียวจนครบกำหนดคลอดด้วยวิธีการผ่าตัด
ตอนที่อยู่ในห้องผ่าตัดหลังจากเห็นหน้าลูกแล้ว พยาบาลนำตัวลูกไปไว้ที่ห้องเด็ก ซึ่งคุณพ่อเขาตามไปด้วย ตอนนั้นเองที่ตัวเราหมดสติไป สามีมาเล่าให้ฟังว่า คุณหมอให้เจ้าหน้าที่มาตามเขากลับไปที่ห้องผ่าตัด คุณหมอแจ้งว่าตัวแม่จะไม่ไหวนะ เพราะมีเลือดออกมาก ให้ทำใจ ทีมแพทย์ก็พยายามอย่างเต็มที่ หมดเลือดไปเยอะมาก สาเหตุคือ มดลูกมันขยายตัวเยอะเนื่องจากเป็นลูกแฝดและเด็กตัวใหญ่บวกกับรกลอกตัวไม่สมบูรณ์ ทำให้คุณหมอต้องดึงรกออก จึงทำให้เกิดแผล แต่คิดว่าเรายังมีบุญ ในที่สุดก็กลับมาได้ฟื้นขึ้นมาเห็นสายระโยงระยางไปหมด คำถามแรกคือลูกเป็นอย่างไร พอรู้ว่าเขาสมบูรณ์แข็งแรงดี ก็เบาใจ แต่คุณหมอก็บอกว่า เราจะไม่สามารถตั้งครรภ์มีลูกได้อีกมีอาการตัวบวม ซีด ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงทำให้เรามีภาวะคล้ายๆ วัยทองหลังคลอด”
ผลข้างเคียงที่เกิดจากการเสียเลือดเพราะตั้งครรภ์ลูกแฝด ภกญ.วิภาดา บอกว่า หลายๆ ข้อเธอทำใจยอมรับได้ แต่สิ่งที่คนเป็นแม่อย่างเธอยอมรับไม่ได้คือ การไม่มีน้ำนมแม่ให้ลูกดื่มกิน คุณแม่สาย “สตรอง” คนนี้ จึงตั้ง “สติ” ทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ลูกได้ดูดนมจากเต้า
“คุณหมอบอกว่าอาจจะไม่มีน้ำนมนะ พยาบาลลองมาบีบๆ ดูก็เห็นว่ามีน้ำนมซึมออกมา เราก็ให้พาน้องมาเข้าเต้าเลยค่ะ อยากให้นมลูกด้วยตัวเอง ปรากฏว่ามันออกน้อยมากๆ ขนาดที่ว่านวดด้วยมือ ใช้เครื่องปั๊มก็ยังมีแต่ลม ลำพังแค่ลูกคนเดียวก็ไม่พอ ลูกแฝดไม่ต้องพูดถึง ลูกกินไม่อิ่มแน่ๆ แต่ด้วยวิญญาณความเป็นแม่เราก็รู้สึกยอมไม่ได้ พอกลับมาบ้านทั้งเราและสามีก็รีเสิร์ชตำราโบราณกันใหญ่ว่า อะไรที่กินแล้วจะช่วยบำรุงนมแม่ ตัววิเองก็จะบันทึกไว้ว่าวันนี้เรากินฟักทอง กินขิงกินผักผลไม้ สมุนไพรที่ช่วยบำรุงน้ำนมแบบนี้ วนๆ ไป แล้วปริมาณน้ำนมได้มากน้อยแค่ไหน”
จากประสบการณ์ความยากลำบากในการขาดแคลนนมแม่ และตนเองก็เป็นเภสัชกร จึงเข้าใจถึงหัวอกแม่ทุกคนที่ร่างกายไม่สามารถผลิตน้ำนมได้เพียงพอต่อความต้องการของลูก จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ ภกญ.วิภาดา คิดค้นตัวช่วยให้คุณแม่ลูกอ่อนมีสุดยอดน้ำนม ซุปเปอร์ฟู้ดที่ดีที่สุดสำหรับลูก ภายใต้แบรนด์ All Milk
“ก่อนหน้านั้นมีเพื่อนๆ มาชวนทำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทสวยงามเยอะมาก แต่ใจเราไม่ชอบ ก็เลยไม่ทำพอมามีลูก มาเจอปัญหาของตัวเองและรู้ว่าแม่ๆ อีกหลายท่านที่เจอปัญหาเดียวกัน วิจึงใช้ประสบการณ์จากการบันทึกอาหารที่เราทานแต่ละชนิดว่าอะไรที่จะช่วยได้มากที่สุดจนได้ All Milk ที่มีส่วนประกอบสำคัญคือ โคลีน สารสกัดจากไข่แดงที่ช่วยเรื่องการพัฒนาสมองของลูก โดยเฉพาะส่วนของความจำและการเรียนรู้ สารสกัดจากผักและผลไม้ 5 สีที่ช่วยเพิ่มวิตามินและบำรุงสมอง และสารสกัดจากสมุนไพรต่างๆ เช่น ขิง ขมิ้น ในรูปแบบแคปซูลสะดวกต่อการพกพา กินง่าย ส่วนชื่อก็มีที่มีจากชื่อของลูกแฝดชาย ออกัส กับ อลาสก้า ค่ะ”
แต่กว่าจะวางจำหน่าย เภสัชกร คุณแม่ลูกแฝด ก็ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพด้วยตนเอง รวมถึงส่งผลิตภัณฑ์ไปให้เพื่อนๆ คนรู้จัก ที่กำลังให้นมลูก ได้ทดลองใช้เพื่อเก็บข้อมูลอีกด้วย
“ฟีดแบ๊กที่ได้รับจากเพื่อนๆ คนรู้จักที่มีปัญหาผลิตน้ำนมได้น้อย พอได้กิน All Milk แล้วทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันมีการเปลี่ยนแปลง สามารถปั๊มน้ำนมได้ปริมาณเยอะกว่าเดิม แต่ที่สำคัญคือไม่ใช่ว่ากิน All Milk แล้วคุณแม่ไม่ต้องทำอะไร คุณแม่ก็ยังควรที่จะทานอาหารให้ครบหมู่ ทานสิ่งที่มีประโยชน์ และที่สำคัญอย่าเบื่อหน่ายในการปั๊มนมตามรอบ เพราะโดยธรรมชาติถ้าร่างกายผลิตน้ำนมแล้วไม่ถูกนำไปใช้ มันก็จะลดการผลิตลงโดยอัตโนมัติ”
All Milk นับเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ที่เห็นความสำคัญของนมแม่ ที่ไม่ได้เป็นแค่อาหารทำให้ลูกอิ่มท้อง แต่ยังเป็นสิ่งที่จะสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดให้กับลูกของเราเอง
“นมแม่เป็นสิ่งที่สร้างสายใย เป็นการส่งผ่านความรักระหว่างแม่กับลูก ทุกครั้งที่ได้ให้นมลูก เขารับรู้ได้ถึงความรักความห่วงใยที่แม่มีต่อเขา วิจึงอยากให้กำลังใจและส่งเสริมคุณแม่ทุกๆ ท่านในการให้นมแม่ อาจจะเป็นงานที่เหนื่อยหน่อยแต่การที่ได้เห็นลูกมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็จะทำให้เราหายเหนื่อยได้เองค่ะ ตอนนี้น้องออกัส อลาสก้า อายุ 11 เดือนแล้ว ไม่ได้เข้าเต้าแต่น้องก็ยังดื่มนมแม่อยู่ ซึ่งวิก็ตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปจนกว่าน้ำนมจะหมดฅไปตามธรรมชาติ”
แม้ว่าการจะมีน้องสาวให้ลูกแฝดอีกสักคน จะเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ ภกญ.วิภาดา ก็ไม่เสียใจ ทุกวันนี้เธอทุ่มเทเวลาในการเลี้ยงดู น้องออกัส น้องอลาสก้า อย่างเต็มที่ ให้สมกับที่ฟ้าได้ให้โอกาสเธอได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “แม่” ซึ่งเธอเชื่อว่าเลือดในอกที่กลั่นมาเป็นน้ำนม กับการเลี้ยงดูเอาใจใส่ จะทำให้ลูกทั้งสองคนเติบโตมาเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของสังคมต่อไปในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี