กานต์ ไตรทอง วิทยากรที่มาให้ความรู้เรื่องข้าวแก่เด็กๆ
“นิทรรศการ การเรียนรู้แบบ Project Approach” ของเหล่าชาวนาตัวน้อยๆ จากโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ณ ห้องเรียนของน้องๆ ชั้นอนุบาล 3/2 ภายในห้องถูกจำลองบรรยากาศให้คล้ายทุ่งนา มีกระท่อมหลังเล็กๆ ที่ถูกรอบล้อมไปด้วยต้นข้าวอยู่กลางห้อง ด้านหน้ามีกองข้าวเปลือกและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการทำนา ส่วนด้านข้างรายล้อมไปด้วยผลงานชิ้นต่างๆ ของเด็กๆ ซึ่งแต่ละชิ้นล้วนมีความเกี่ยวข้องกับข้าวทั้งหมด คุณครูนงชนก คุณครูประจำชั้น อ.3/2 เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการเรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ว่า ในแต่ละสัปดาห์เด็กๆ จะได้เรียนรู้กระบวนการศึกษาควบคู่ไปกับศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ เริ่มจากสัปดาห์แรกเด็กๆ ต้องเริ่มต้นด้วยการช่วยกันทำกราฟโหวตเพื่อเลือกหัวข้อที่ต้องการจะศึกษา ซึ่งภายในห้องจะเต็มไปด้วยเสียงของเด็กๆ ที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างสนุกสนานและข้าว คือ หัวข้อที่มีจำนวนเด็กๆเลือกเยอะที่สุด กิจกรรมนี้ช่วยส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้หลักการหนึ่งของประชาธิปไตย คือการยึดข้อตกลงตามเสียงข้างมาก
สัปดาห์ต่อมา เด็กๆ ต้องมาช่วยกันสืบค้นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับข้าว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ ต้นกำเนิด ประโยชน์ ประเภทและชนิดของข้าว หรืออื่นๆ ผ่านการใช้อินเตอร์เนต และการอ่านหนังสือ โดย ด.ช.กฤษณพันธ์ จิตต์วโรดม หรือ น้องบุญ สรุปให้เราฟังถึงข้อมูลที่หามาได้ว่า “ข้าวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นพืชชนิดล้มลุกประเภทหนึ่ง และถือเป็นหญ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข้าวสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ข้าวเจ้า กับ ข้าวเหนียว และแยกได้เป็น 4 ชนิด คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวขาว และ ข้าวเพื่อสุขภาพ”
นอกจากนั้น เด็กๆ ได้เรียนรู้ในเรื่องของขั้นตอนการหุงข้าว รวมไปถึงการลงมือปฏิบัติจริง โดย น้องน้ำหอม อธิบายได้อย่างละเอียดยิบถึงขั้นตอนการหุงข้าวให้ฟังว่า “ขั้นแรกเลย เราต้องตวงข้าวใส่หม้อในปริมาณที่เราต้องการ จากนั้นนำข้าวไปซาวน้ำออกเพื่อล้างสิ่งสกปรกที่ติดมากับข้าว ก่อนจะหุงข้าวเราต้องกะปริมาณน้ำให้พอดี อย่าให้มากเกินไปเพราะจะทำให้ข้าวเละ และอย่าน้อยเกินไป เพราะจะทำให้ข้าวไม่สุก ระดับน้ำหนึ่งข้อนิ้วชัวร์สุดค่ะ” น้องน้ำหอมฝากมาบอกว่า วิธีหุงข้าวนั้น ช่วยให้เด็กๆ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของข้าวเมื่อโดนความร้อนในน้ำ เรียนรู้วิธีการตวง และหาคำตอบสิ่งที่สงสัยจากกิจกรรม ทั้งนี้เด็กๆได้รับเกียรติจาก กานต์ ไตรทอง เจ้าของบริษัท มีความสุข (ไม่) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ข้าวหอมคุณยาย” มาเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง “วิธีการปลูก และ ดูแลข้าว” น้องปุณ-ด.ช.ปุณณพัฒน์ ชัยศรีสุขอำพร เล่าว่า “วิทยากรสอนให้รู้จักรวงข้าว ที่ต้นข้าวมีทั้งเมล็ดที่แก่และอ่อน ในหนึ่งรวงจะมีข้าวประมาณร้อยกว่าเมล็ด และในหนึ่งต้นจะมีข้าวประมาณ 2,000 เมล็ด ต้องใช้เวลาปลูกข้าว 120 วัน ข้าวถึงจะโตเต็มที่”
การเรียนรู้นอกห้องเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญ เด็กๆ จึงได้ออกไปทัศนศึกษาที่ศูนย์การเรียนรู้ (โรงเรียนข้าวและชาวนา) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งการไปในครั้งนี้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงถึง ความเป็นอยู่ของชาวนา สัตว์เลี้ยง รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนำ นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้ทดลองเพาะต้นกล้าในกระถาง และลงไปดำนาในสถานการณ์จริง “วันนั้นสนุกมากเลยค่ะ หนูได้ดำนาด้วย ขี่ควายด้วย และก็ได้ลองเพาะต้นกล้า เพื่อนๆ ก็ชอบและสนุกกันทุกคนเลยค่ะ” ด.ญ.นภัสสรี สุรักขกะ หรือ น้องสายน้ำ กล่าวถึงประสบการณ์ในวันนั้นอย่างตื่นเต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี