วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
10 อันดับอาหารเพื่อสุขภาพ...ที่ต้องกินให้ได้

10 อันดับอาหารเพื่อสุขภาพ...ที่ต้องกินให้ได้

วันศุกร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : อาหารเพื่อสุขภาพ
  •  

หากคุณอยากจะหันมาดูแลเรื่องอาหารการกินให้ดีขึ้น แต่ชีวิตนี้รู้จักเพียงอาหาร 5 หมู่ ตามที่เคยเรียนมาในชั้นประถมเมื่อนานแสนนานมาแล้ว และไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะมี 3 ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งโภชนากร แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนจีนของไต้หวัน มาเปิดคัมภีร์อาหารเพื่อสุขภาพ รวบรวมและจัดอันดับสุดยอดอาหารไว้ในหนังสือ“กินเปลี่ยนชีวิต ด้วยอาหาร 100 ชนิดจากธรรมชาติ” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ แจงรายละเอียดสารอาหารแต่ละชนิดที่ช่วยให้ผู้อ่านเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพให้เหมาะสมกับตัวเอง โดยอาศัยมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ศาสตร์ ด้วยวิธีที่ไม่ซับซ้อนเลย

คัมภีร์อาหารเพื่อสุขภาพเล่มนี้ กำลังได้รับความนิยมจากคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะเนื้อหาที่เจาะลึกถึงอาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยม 10 อันดับ ที่ต้องกินให้ได้ แนะนำโดยแพทย์และโภชนากร ที่อ้างอิงจากวิถีชีวิตของคนปัจจุบันและความต้องการของร่างกาย เป็นเรื่องที่ชวนรู้ทีเดียว


เริ่มจาก อันดับ 10 ปลาทูน่า มีโปรตีนที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ไขมันต่ำเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีกรดไขมัน EPA และ DHA ที่ช่วยในการทำงานของเซลล์สมอง หากกินคู่กับผักผลไม้สีเขียวและสีเหลืองที่มีแคโรทีนจะช่วยบำรุงสมองและป้องกันมะเร็ง ไม่ควรกินปลาทูน่าคู่กับธัญพืชหรืออาหารจำพวกถั่วที่มีกรดไฟติก เพราะสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะจับตัวกันกลายเป็นสารที่ละลายยาก ขัดขวางการดูดซึมโปรตีนของร่างกาย

อันดับ 9 ไข่ไก่ มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการเกือบทุกชนิด โปรตีนในไข่ให้กรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ ยังมีดีเอ็นเอเลซิทิน วิตามินเอและบี การกินไข่ไก่ที่มีวิตามินอีคู่กับผักผลไม้สดที่มีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างการทำงานของแอนติออกซิแดนท์ป้องกันโรคมะเร็ง ชะลอความแก่และบำรุงผิวพรรณ ไม่ควรกินไข่ไก่คู่กับชาหรือผลไม้บางชนิดที่มีกรดแทนนิก จะทำให้การบีบตัวของลำไส้ช้าลงจนเกิดอาการท้องผูก

อันดับ 8 ถั่วเหลือง (รวมถึงเต้าหู้และน้ำเต้าหู้) อาหารที่ทำจากถั่วเหลืองอุดมไปด้วยกรดอะมิโน แคลเซียมเลซิทิน และสารฟลาโวนอยด์ที่ร่างกายต้องการ ช่วยให้เซลล์สมองเจริญเติบโต ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ เมื่อกินถั่วเหลืองที่มีวิตามินกลุ่มบีคู่กับอาหารจำพวกแป้ง เช่น มันเทศที่เปลี่ยนแป้งเป็นกลูโคสจะช่วยให้กลูโคสถูกเผาผลาญกลายเป็นพลังงานจนหมด ไม่ควรกินถั่วเหลืองที่มีกรดไฟติกคู่กับตับหรือเนื้อสัตว์ที่มีธาตุเหล็ก กรดไฟติกจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

อันดับ 7 ปวยเล้ง อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงเลือด ช่วยให้สมองของเด็กเล็กเจริญเติบโต ชะลอความแก่ของเซลล์ บำรุงรักษาสายตา การกินปวยเล้งที่มีวิตามินเอคู่กับธัญพืช เมล็ดของผลไม้เปลือกแข็งและผักสีเขียวที่มีวิตามินอี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอได้ดีขึ้น ช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง และชะลอความแก่ แต่หากกินปวยเล้งที่มีกรดออกซาลิกคู่กับปลาที่มีก้างหรือปลาแห้งที่มีแคลเซียม สารทั้ง 2 ชนิดนี้ จะจับตัวกันกลายเป็นสารแคลเซียมออกซาเลต ส่งผลต่อการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เป็นโรคนิ่วได้

อันดับ 6 ฮ่วยซัว มีสารโดพามีน (dopamine) สารซาโปนิน (saponin) มิวโคโปรตีน (mucoprotein) และเยอร์มาเนียม (germanium) ในฮ่วยซัวช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายหรือเพิ่มจำนวน ปกป้องผนังกระเพาะอาหารและป้องกันโรคมะเร็ง การกินฮ่วยซัวที่มีเส้นใยอาหารคู่กับไข่และนมที่มีกรดทอรีน หรือปลา กุ้งและหอย ช่วยบำรุงตับและหัวใจ ช่วยลดคอเลสเตอรอล แต่หากกินฮ่วยซัวที่อุดมไปด้วยแป้งคู่กับชาเข้มหรือผลไม้ที่มีสารแทนนิน สารทั้ง 2 ชนิดจะรวมตัวกันกลายเป็นลิ่มที่ย่อยยาก ผู้มีแก๊สในกระเพาะอาหารไม่ควรกิน เพราะจะทำให้กระเพาะและลำไส้ปั่นป่วน

อันดับ 5 แอปเปิ้ล สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ เพราะเส้นใยอาหารและโพแทสเซียมในแอปเปิ้ลช่วยให้กระเพาะและลำไส้บีบตัว กระตุ้นให้ของเสียถูกขับออกจากร่างกาย ควบคุมคอเลสเตอรอลชนิดเลว บำรุงเส้นเลือด ลดอัตราการเกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ป้องกันท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ กินคู่กับผักสีเขียว เมล็ดของผลไม้เปลือกแข็งและธัญพืชที่มีวิตามินอี ธาตุซีลีเนียมในแอปเปิ้ลจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของแอนติออกซิแดนท์และระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็ง และในแอปเปิ้ลมีกรดแทนนิก จึงไม่ควรกินคู่กับปลาที่มีก้างหรือปลาแห้งที่มีแคลเซียม จะกลายเป็นสารชนิดหนึ่งที่ย่อยยาก ทำให้กระเพาะและลำไส้ปั่นป่วน

อันดับ 4 สาหร่ายทะเล อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แคลอรีต่ำ มีประโยชน์ในการขจัดสารพิษกระตุ้นเมแทบอลิซึม ลดความเครียดและวิตกกังวล ในสาหร่ายทะเลมีแคลเซียมสูง เมื่อกินคู่กับผักใบเขียว อาหารจำพวกไข่และนมที่มีวิตามินเคจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเคได้ดีขึ้น บำรุงกระดูก กระตุ้นการแข็งตัวของเลือดในขณะเดียวกันสาหร่ายมีไอโอดีน หากกินคู่ผักบางชนิดมีสารไทโอไซยาเนตที่ควบคุมการดูดซึมไอโอดีนของร่างกายติดต่อเป็นเวลานานๆ จะทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์เสียสมดุล

อันดับ 3 มันเทศ อาการท้องผูกเป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับความเคยชินในชีวิตประจำวัน มันเทศมีเส้นใยที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่มย่อยง่าย จึงทำให้ขับถ่ายคล่อง มีส่วนช่วยในการขจัดสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายรวมถึงป้องกันโรคต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็ง มันเทศจึงได้ชื่อว่าเป็นพืชแห่งการต้านมะเร็ง หากกินคู่กับผลไม้เปลือกแข็งและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมัน จะช่วยให้วิตามินเอในมันเทศดูดซึมได้ดีขึ้น ไม่ควรกินมันเทศที่อุดมไปด้วยแป้ง ซึ่งจะทำปฏิกิริยาในทางลบกับกรดแทนนิกที่อยู่ในใบชาและผลไม้บางชนิด เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ที่ท้องอืดท้องเฟ้อง่าย

อันดับ 2 หอมหัวใหญ่ ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผัก เพราะมีคุณสมบัติควบคุมสารก่อมะเร็ง อุดมไปด้วยสารเควอซิติน (quercetin) และสารประกอบซัลเฟอร์หลายชนิด ทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายด้าน หากกินคู่กับเนื้อสัตว์หรือเครื่องในสัตว์ที่มีวิตามินบี 1 ช่วยเสริมประโยชน์ของวิตามินบี 1 คลายความเมื่อยล้า กระตุ้นการเจริญเติบโต ไม่ควรกินหอมหัวใหญ่คู่กับผลไม้ที่ไม่ปอกเปลือก ซึ่งมีไฟโทโครม เมื่อผ่านการย่อยจะทำให้เกิดสารที่ทำให้ต่อมไทรอยด์บวม

อันดับ 1 ข้าวกล้อง ข้าวมหัศจรรย์เพื่อสุขภาพ แหล่งพลังงานชั้นยอด อุดมไปด้วยวิตามินกลุ่มบีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเส้นใยอาหารที่ช่วยขจัดสารพิษ ทั้งยังมีแร่ธาตุมากมาย รวมทั้งเอนไซม์ที่ช่วยบำรุงสุภาพกายใจ เรียกได้ว่ามีสารอาหารที่ร่างกายต้องการหลายชนิด หากนำมากินคู่กับต้นหอม กระเทียม หอมหัวใหญ่ กุยช่ายที่มีสารอัลลิซิน จะช่วยเสริมประโยชน์ของวิตามินบี 1 คลายความเมื่อยล้า บำรุงผิวพรรณ ไม่ควรกินข้าวกล้องคู่กับอาหารทะเลที่มีเอนไซม์ย่อยวิตามินบี 1 เพราะวิตามินบี 1 ในข้าวกล้องจะถูกทำลาย หากกินในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายเมื่อยล้าและอารมณ์ฉุนเฉียว

หนังสือ “กินเปลี่ยนชีวิตด้วยอาหาร 100 ชนิดจากธรรมชาติ” จำนวน 584 หน้า พิมพ์ 4 สีตลอดทั้งเล่ม ราคาเล่มละ 395 บาท มีวางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านทาง www.nanmeebooks.com www.facebook.com/nanmeebooksfan หรือโทร.02-6623000 กด 0

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ประชาชาติ จัดทัพใหญ่! วันนอร์–ทวี เปิดตัวผู้สมัครครบจังหวัดชายแดนใต้ ลุยเลือกตั้ง 69

ในหลวง พระราชินี เสด็จพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ

เปิดตัวเลขสื่อแรกของโลก กัมพูชาสูญเสียทหารแล้ว13นาย-เจ็บพุ่ง424 เฉพาะในจังหวัดพระวิหาร

นายพลเขมร ย้ำ ไทย-กัมพูชา คือพี่น้อง ต้องพึ่งพาแยกกันไม่ได้ ไม่ตอบทิศทางถก GBC

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved