อัมพวัน พิชาลัย
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ SACICT ยกย่อง นางบุญมี จันอุไรรัตน์ วัย 81 ปี เป็นครูศิลป์ของแผ่นดินประจำปี 2561 ประเภทงานเครื่องลงยาสีโบราณ แห่งเดียวของจังหวัดนนทบุรี พร้อมร่วมสืบทอดอนุรักษ์เครื่องลงยาสีโบราณไว้ให้คนรุ่นหลัง ผ่านกิจกรรมทางการตลาดหัตถศิลป์ รวมทั้งสนับสนุนทายาทของนางบุญมี จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ “เครื่องลงยาสีแม่บุญมี” ในอนาคตอันใกล้นี้
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ SACICT กล่าวว่า เครื่องลงยาสีโบราณ นับเป็นศิลปะที่นิยมใช้บนเครื่องใช้ เครื่องประดับ ที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ไทย ภูมิปัญญา อันเป็นเสน่ห์ของการลงยาสี ที่มีความละเอียดอ่อน ต้องใช้ความอดทน ความเพียรในขั้นตอนการทำ ที่ไม่อาจทดแทนได้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และในปัจจุบันคงเหลือช่างศิลป์มีประสบการณ์การลงยาสีแบบโบราณ ด้วยการใช้ความร้อนหรือที่เรียกว่าการลงยาสีร้อน เพียงไม่กี่คนในประเทศไทย
“เครื่องลงยาสีโบราณ เป็นงานเชิงช่างที่แสดงถึงศิลปะบนเครื่องใช้เครื่องประดับ มีความวิจิตรของลวดลายที่แต่งแต้มด้วยยาสีหลากสีสัน เป็นงานศิลปะหัตถกรรมที่มีมานับแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา สืบทอดกันมาหลายร้อยปีSACICT จึงส่งเสริมอนุรักษ์และให้ความสำคัญกับงานศิลปะเครื่องลงยาสีโบราณนี้อย่างมาก เพื่อมิให้มรดกศิลปวัฒนธรรมของประเทศสูญหาย ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ทางการตลาดหัตถศิลป์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ตลาดหัตถศิลป์เครื่องลงยาสีโบราณของไทย เป็นที่รู้จัก ชื่นชอบ และนิยมใช้ทั้งคนไทยและนานาประเทศ
ปี 2561 นี้ SACICT จึงยกย่องให้“นางบุญมี จันอุไรรัตน์” เป็นครูศิลป์ของแผ่นดินประจำปี 2561 ประเภทงานเครื่องลงยาสีโบราณ แห่งเดียวของจังหวัดนนทบุรี ครูศิลป์แม่บุญมีมีความสำคัญยิ่งนัก เพราะท่านเป็นผู้อนุรักษ์สืบทอดงานเครื่องลงยาสีตามภูมิปัญญาดั่งเดิมแบบโบราณมากกว่า 50 ปี ด้วยการคงเอกลักษณ์ความละเอียดในการบดยาสีจนได้เนื้อสีที่ใสสะอาด เกลี่ยเนื้อสีบนร่องลายบนเนื้อโลหะทองแดงหรือทองวิทยาศาสตร์ ด้วยความหนาที่พอดี หลอมให้ละลายบดติดลงบนผิวของโลหะนั้นด้วยการใช้ความร้อน ขัดจนขึ้นลายเงางาม
วันนี้ แม้วัยที่ล่วงเลยกว่า 81 ปีแต่คุณแม่บุญมี ยังมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะรักษาภูมิปัญญาการทำงานเครื่องลงยาสีตามภูมิปัญญาดั้งเดิมแบบโบราณเอาไว้ ด้วยการอุทิศตนในการถ่ายทอดภูมิปัญญาให้กับผู้สนใจเยาวชนคนรุ่นใหม่ และสถาบันการศึกษาให้ได้เรียนรู้ถึงกรรมวิธี และเทคนิคการลงยาสีร้อน เพื่อสืบสานศิลปหัตถกรรมเครื่องลงยามรดกอันมีค่าของแผ่นดินให้คงอยู่ ขณะเดียวกันก็พัฒนารูปแบบผลงานเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องใช้ที่มีประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น เฉกเช่นนี้ เราจะสามารถช่วยกันรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศนี้ไว้ได้ และ SACICT จะมุ่งมั่นพัฒนางานอนุรักษ์นี้ไว้อย่างยั่งยืนถาวรสืบต่อไป”
คุณแม่บุญมี จันอุไรรัตน์กล่าวว่า ด้วยสุขภาพและวัยขนาดนี้แล้ว การลงมือทำเองจึงทำได้ไม่เต็มที่นักแต่ก็ไม่ทิ้งความสำคัญกับงานเครื่องลงยาสีที่ได้รับสืบทอดมาจากพี่ชายที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ในช่วง 10 ปีมานี้จึงได้ถ่ายทอดให้กับลูกชาย สานต่อเพื่อคงรักษางานศิลป์โบราณเอาไว้ และมีลูกสาวของเพื่อนสนิท มาช่วยทำการสอนให้กับผู้ที่มีความสนใจงานเครื่องลงยาสีและอนุรักษ์ศิลป์ไทย ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่ทำงานประจำและผู้สูงวัยมาเรียนรู้เพื่อไปทำอาชีพเสริมหรือยามว่าง และกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา งานเพาะช่างที่ร่ำเรียนอยู่ ชื่นชอบงานศิลป์และมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ต้องการเรียนรู้เรื่องเทคนิคขั้นสูงที่ซับซ้อนมากขึ้น
ด้าย นายเอกฉันท์ จันอุไรรัตน์ ลูกชายของแม่บุญมี ผู้สืบทอดอนุรักษ์เครื่องลงยาสี และยังเป็นวิทยากรครูศิลป์ให้กับช่างสิบหมู่ วัย 53 ปี กล่าวว่า มีความตั้งใจจะสร้าง “พิพิธภัณฑ์เครื่องลงยาสีแม่บุญมี” ขึ้นมาให้สำเร็จจงได้เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาและสืบทอดองค์ความรู้ศิลปะการทำเครื่องลงยาสีโบราณ แห่งแรกของประเทศ เพื่อให้ลูกหลานศึกษาต่อไป แต่ยอมรับว่าการสร้างพิพิธภัณฑ์นี้จะต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และคิดว่าสถานที่จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ น่าจะเป็นบ้านโบราณสักแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ กับศาลากลางจังหวัดนนทบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี