นิสิตสาขาวิชานาฏศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว ชั้นปีที่ 4 จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ “นาฏศิลป์นิพนธ์” ก่อนการสำเร็จการศึกษา รวม 26 ทั้งชายและหญิง แสดงให้เห็นถึงการเรียนนาฏศิลป์ไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ ถ่ายทอดออกมาสู่สายตาผู้ชมหลายพันคู่ได้อย่างน่าชื่นชม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ระวิวรรณ วรรณวิไชย คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เผยว่า นิสิตนาฏศิลป์รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ 21 ชื่อรุ่น หริทรา มีทั้งหมด 26 คน ทั้งชายและหญิง แสดงให้เห็นว่าการเรียนนาฏศิลป์ไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและการวัดแวว เมื่อนิสิตจะสำเร็จการศึกษาหลังจากเรียนครบตามหลักสูตร 4 ปีแล้ว ในเทอมสุดท้ายนิสิตแต่ละคนจะต้องไปคิดสร้างสรรค์ชุดการแสดงมานำเสนอต่อคณาจารย์คนละ 1 ชุด เรียกว่า“นาฏศิลป์นิพนธ์” หรือการทำวิทยานิพนธ์ทางด้านนาฏศิลป์ โดยชุดการแสดงนั้นจะต้องมีความเหมือนจริง แสดงจริง แต่งตัวจริง ไม่ต่างจากการต้องแสดงจริงในเวทีงานต่างๆ
แต่กว่าที่นิสิตนาฏศิลป์ มศว แต่ละคนจะคิดชุดการแสดงขึ้นได้นั้น พวกเขาจะต้องศึกษาค้นคว้า เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ ออกแบบสร้างสรรค์ให้การแสดงและนิทรรศการมีความโดดเด่น บางชุดการแสดงนั้นนิสิตต้องอ้างอิงจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เชื่อมโยงกับคติความเชื่อหรือทัศนคติสมัยใหม่ เพื่อที่จะสื่อท่าทางการร่ายรำออกมาเป็นความหมายให้คนดูเข้าใจ
รับรู้ได้อย่างที่ต้องการ จึงเกิดการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ไทยและสากลในรูปแบบต่างๆ เพื่อที่จะช่วยให้นิสิตสามารถพัฒนาตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจไปสู่การทำงานในสังคมได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยผ่านกระบวนการเรียนนาฏศิลป์ อาทิ การแสดงในชุดต่างๆ รวม 19 ชุดการแสดง ที่เป็นผลมาจากการเรียนนาฏศิลป์ของนิสิต จนถ่ายทอดออกมาสู่สายตาผู้ชมนับหลายพันคู่ได้อย่างน่าชื่นชม ประกอบด้วย บุปผศารทาบูชา/Trung Treet/หทัยหาญ/ใคร่ (ครวญ)/The Maoris/ติษยรักษิตา/ Charile and The Chocolate Factory/ลายทองสุโขทัย/ทากิณี/Ranga Holi/ The Butterfly Effect/ธรรมราชปุระ/อูซาฮอห์ (ดิ้นรน)/คดีเด็ด/ใต้ฟ้าฝนหลวง/ปู่จาตานตุง/Philosophy of Bamboo/เรณูเลือกคู่/Thai Fair Thai Fun เป็นต้น
รวมถึงการแสดงชุด “ใต้ฟ้าฝนหลวง” เป็นหนึ่งในชุดการแสดงผลงานสร้างสรรค์ของนิสิต นางสาวจุฑาทิพศรีสืบ (จ๊ะจ๋า) ได้สะท้อนแนวคิดว่า “หยาดฝนจากฟ้าสู่ประชาชน จากน้ำพระราชหฤทัยเกิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อบรรเทาทุกข์ของพสกนิกรภาคอีสาน นำเสนอในรูปแบบของนาฏศิลป์พื้นบ้านร่วมสมัย เป็นต้น
หากอาหารขาดความเปรี้ยว เค็ม หวาน มัน เผ็ดร้อน อาหารนั้นก็หารสชาติความเอร็ดอร่อยไม่ได้ เช่นเดียวกับ “นาฏศิลป์นิพนธ์” ที่เรียกได้ว่าเป็นเสมือนกับ “รสชาติ” ของชีวิตนิสิตสาขาวิชานาฏศิลป์ แม้จะเป็นเพียงบทพิสูจน์เล็กๆ ของการศึกษาไทยในศาสตร์สาขาวิชานาฏศิลป์ แต่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของกระบวนการสำคัญของการเรียนและการพัฒนาทางความคิด สติปัญญาและการสอนให้เด็กได้เรียนรู้ลงมือทำด้วยตนเองตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซนี้ เหมือนดังอาวุธแห่งปัญญาที่สร้างสรรค์สิ่งดีงามลงไปในจิตใจของเด็กรุ่นใหม่ ทำให้เกิดการสร้างคนที่ดีที่เก่งเพื่อการรับใช้สังคมอย่างยั่งยืนได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี