ซึมซับจีนวิทยา ผ่านพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
‘เมื่อข้าพเจ้าเขียนยํ่าแดนมังกร’และ‘ไป๋อิ๋นน่า หมู่บ้านลับลี้ริมฝั่งนํ้า’
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรักใคร่และผูกพันกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จนได้รับพระสมัญญานามให้ทรงเป็น “ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน” พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยและศึกษาภาษาจีนจีนวิทยา ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมจีนหลากหลายแขนงอย่างลึกซึ้งถึงแก่น ผ่านการจดบันทึกจนกลายเป็นบันทึกอันทรงคุณค่า อีกทั้ง พระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์ที่พระองค์ทรงหยิบนวนิยายเรื่องดังของจีนมาแปลเป็นภาษาไทย เผยแพร่ให้ชาวไทยได้ศึกษาและชื่นชมอย่างไม่ขาดสาย
ในครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษอีกครั้งที่นักอ่านชาวไทยจะได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์และการแปล ถึง 2 เล่ม คือ “เมื่อข้าพเจ้าเขียนย่ำแดนมังกร” และ“ไป๋อิ๋นน่า หมู่บ้านลับลี้ริมฝั่งน้ำ”
“เมื่อข้าพเจ้าเขียนย่ำแดนมังกร” เป็นคำบรรยายพระราชนิพนธ์ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงบรรยายเรื่อง ย่ำแดนมังกร แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ฟังเมื่อปี พ.ศ.2533 ว่าเหตุใดจึงทรงเขียน “ย่ำแดนมังกร” (พระราชนิพนธ์เล่มแรกที่ทรงนิพนธ์) ซึ่งพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองจีนเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2524 เนื้อหาภายในเปี่ยมด้วยข้อพินิจทรงคุณค่า แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1.ผู้อ่านจะได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์จีนที่พระองค์ทรงบรรยายให้ฟังคร่าวๆ ได้รู้ว่าในสมัยนั้นพระองค์มีความคิดเห็นและกลวิธีอย่างไรในการเขียนบันทึก
2.บทวิเคราะห์ของอาจารย์สุวรรณา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้วิเคราะห์งานเขียนเล่มนี้ของพระองค์ท่าน ซึ่งทำให้ทราบว่าพระองค์ทรงมีกลวิธีในการเขียนหนังสืออย่างไร
3.เป็นคำถามที่นิสิตชั้นปีที่ 1 จำนวน 5 คน ได้กราบทูลถามคำถามกับพระองค์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระปรีชาสามารถด้านจีนวิทยาอย่างถ่องแท้ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีนแต่ละครั้ง ได้เสด็จทอดพระเนตรศิลปวัตถุที่จัดแสดงตามสถานที่สำคัญ รวมถึงวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของประเทศจีนในแง่มุมต่างๆคำบรรยายที่ทรงแสดงในครั้งนั้น จึงไม่ได้มาจากการศึกษาเนื้อหาความรู้จากตำรับตำราทั่วไป หรือจากการได้เห็นได้ชมมามากอย่างหนึ่งอย่างใด หากแต่เป็นคำบรรยายของผู้ที่ทั้งได้ศึกษา ได้เห็น และมีประสบการณ์ความเข้าใจประเทศจีนอย่างแจ้งชัด
ซึ่งนอกจากผู้อ่านจะได้รู้จักสถานที่สำคัญ วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของประเทศจีนในแง่มุมต่างๆ แล้ว ยังได้รู้เทคนิคการเขียนบันทึกของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย
“...ไปต่างประเทศ สภาพแวดล้อมต่างๆ แปลกจากเดิมที่เคยพบเคยเห็น ก็จดบันทึกไว้ แล้วได้มาอ่านมาคิดจะดีกว่าพอเห็นอะไรแล้วปล่อยทิ้ง ไม่บันทึก พอผ่านไปแล้วก็ลืม ไม่มีประโยชน์อะไรเลย...”
ในขณะที่ “ไป๋อิ๋นน่า หมู่บ้านลับลี้ริมฝั่งน้ำ” เป็นพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถยิ่งด้านอักษรศาสตร์ มีเนื้อหาสะท้อนความรู้ด้านวัฒนธรรมประเพณีของสังคมจีนจากอดีตถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยวรรณกรรมจีน4 เรื่องของ 3 นักเขียนชื่อก้องในวงวรรณกรรมจีนร่วมสมัย ประกอบด้วย “ไป๋อิ๋นน่า หมู่บ้านลับลี้ริมฝั่งน้ำ” โดยฉือจื่อเจี้ยน “คำไว้อาลัยหมา” โดย มั่วเหยียน “ซุปที่อร่อยชั่งน่ากลัวยิ่ง” และ “กินหม้อไฟในหน้าร้อน” โดย ซูเฉี้ยว
ผู้อ่านจะได้ซึมซับทั้งอรรถรสความงามด้านภาษาและความงดงามของความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มุนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสัตว์เลี้ยง และมนุษย์กับอาหาร รวมทั้งความรู้ด้านวัฒนธรรมประเพณีของสังคมจีนจากอดีตถึงปัจจุบันผ่านเรื่องราวของตัวละครหลักในเรื่อง
เรื่อง “ไป๋อิ๋นน่า ของ ฉือจื่อเจี้ยน” เป็นนวนิยายสมัยใหม่อันใช้สัญลักษณ์งดงามยิ่งจากฉากธรรมชาติที่พิเศษเข้มข้น ทั้งงดงามและโหดร้ายในเวลาเดียวกันมาอธิบายสัจธรรมในหัวใจมนุษย์ ชื่อของ “ไป๋อิ๋นน่า” เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ต้นแม่น้ำเฮย์หลงเจียง หมู่บ้านนี้เล็กเสียจนไม่ปรากฏบนแผนที่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำประมง ยามถึงฤดูจับปลาคนทั้งหมู่บ้านจะไม่สนใจอย่างอื่น แม้โรงเรียนก็ยังปิด เพื่อไปจับปลากันตั้งแต่เช้ายันดึก ไว้กินและขาย ปีนี้มีปลามากมาย เมื่อพ้นฤดูจับปลา มีปลากองเต็มบ้าน พ่อค้าขายของชำจึงตั้งราคาเกลือไว้สูงลิบลิ่ว ทำให้จากที่ชาวบ้านเคยดีใจที่จับปลาได้มากมาย กลายเป็นความโกรธเกรี้ยว จนนำไปสู่โศกนาฏกรรม จากหมู่บ้านที่เรียบง่ายสงบสุข กลับแฝงไว้ด้วยปัญหาจากกิเลสมนุษย์
“...ลับลี้ใจคนใครหยั่งได้...โลกอันประณีตซับซ้อนในหัวใจคนจะทำให้ซาบซึ้งในความขัดแย้ง ความกลมกลืนของชีวิตมนุษย์ อันเป็นสัจธรรมสากลดำรงอยู่เหนือกาลเวลา...”
ส่วนเรื่องสั้นร่วมสมัยอีก 3 เรื่อง คือ คำไว้อาลัยหมาของ มั่วเหยียน ซุปที่อร่อยช่างน่ากลัวยิ่ง และ กินหม้อไฟหน้าร้อน ของ ซูเฉี้ยว ก็เป็นเรื่องสั้นที่สร้างอารมณ์สะเทือนใจแก่ผู้อ่านได้อย่างละเมียดละไม เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง หรือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอาหารล้วนเป็น “แผนที่” ให้ผู้อ่านเดินทางเข้าสู่โลกอันประณีต ซับซ้อนในหัวใจของแต่ละคน ทำให้ผู้อ่านซาบซึ้งในความขัดแย้ง ความกลมกลืนของชีวิตมนุษย์อันเป็นสัจธรรมสากลดำรงอยู่เหนือกาลเวลา
ร่วมสัมผัสวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต และศิลปะอันงดงามของจีน ผ่านพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงคุณค่าแก่การศึกษา วางจำหน่ายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านทาง 02-6623000 กด 0 www.nanmeebooks.com และ www.facebook.com/nanmeebooksfan ติดตามข่าวสารและหนังสือที่น่าสนใจอีกมากมายเพียง AD LINE @nanmeebooksfan และ @nmbadult
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี