คลินิกแพทย์ผิวหนังเสริมความงาม ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดพอๆ กับร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดัง แต่ก็ใช่ว่าทุกคลินิกจะเกิด“ตัวจริง” เท่านั้นถึงจะอยู่รอด ซึ่งเรื่องนี้คงไม่มีใครรู้ซึ้งเท่ากับ พญ.เสาวภาคย์ พงศ์ศศิธร หรือ หมอเกรซ แห่ง Doctor Grace Clinic ต้องผ่านอุปสรรคมามากมายกว่าจะมาเป็นตัวจริงเรื่องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ผู้อยู่เบื้องหลังรูปหน้าสวยๆ ของคนดังระดับ A-List บ้านเรา
“ตอนทำงานเป็นลูกจ้าง ก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเปิดคลินิกเองจนกระทั่งแต่งงาน หมอกับสามีก็คุยกันว่าถ้ามีลูกเราอยากเลี้ยงลูกเอง ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ก็วางแผนกันเลยว่าใครจะทำอะไร พอตั้งท้องจริงๆ ก็คิดว่าถ้ายังทำงานเป็นลูกจ้างเขาต่อไปเราไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้อย่างที่ตั้งใจ จึงตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจของตัวเองดีกว่า”
อย่างที่บอกว่าคลินิกแพทย์ผิวหนังเสริมความงามเกิดขึ้นมากมาย การเปิด Doctor Grace Clinic จึงเป็นบททดสอบ
ชิ้นแรกในฐานะ คุณแม่ และนักธุรกิจมือใหม่ ไปพร้อมๆ กัน
“โชคดีว่าหมอมีตึกอยู่ตรงรามคำแหง 65 ต้นทุนเรื่องสถานที่ไม่มี ไม่ต้องเช่าใคร แต่อุปสรรคใหญ่ตอนนั้นจำได้ว่าวันเปิดคลินิกวันแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองพอดี ทุกอย่างมันเงียบไปหมด เดือนแรกไม่มีรายได้เข้า แต่รายจ่ายมีไง พนักงานในร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ลงทุนไปกับการตกแต่ง เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ ถึงขั้นกุมขมับ ลูกก็
ยังเล็กมาก คิดทุกทางจะทำอย่างไรดีให้เราอยู่รอด ก็เลยทำโปรโมชั่นคิดราคาแบบเท่าทุนจริงๆ กำไรไม่ต้องพูดถึง ขอแค่มีรายได้มาหมุนเวียนก่อน ตอนนั้นคิดแค่นั้นจริงๆ เพราะหมอก็เข้าใจว่าคนก็ไม่อยากใช้จ่ายมากในสถานการณ์ที่อะไรก็ไม่แน่นอน ด้วยโปรโมชั่นหั่นราคานี่แหละก็ค่อยๆ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ แต่ปีแรกก็ยังไม่มีกำไร แค่พออยู่ได้ หมอก็คิดว่าอย่างน้อยก็มีคนรู้จักแล้ว เราน่าจะอยู่รอด”
สิ่งสำคัญ หมอเกรซ บอกว่า ต้องรู้จุดยืนของตัวเองก่อนว่าจะโดดเด่นด้านไหน แล้วมุ่งไปด้านนั้นอย่างจริงจัง และหมอเกรซก็เลือกที่จะให้ Doctor Grace Clinic เป็นผู้นำด้านการปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม โดยหมอเกรซทุ่มทุนไปเรียนเพิ่มเติมจนได้รับ Diploma in Dermatology, Cardiff University, UK. รวมถึง Fellowship in Cosmetic Dermatology, Mount Sinai Hospital, USA.
“การปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม ก็คือการใช้สารเติมเต็มต่างๆ อย่างที่เรารู้จักกันดี เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟีลเลอร์ซึ่งการฉีดสารพวกนี้ไม่ใช่ว่าเป็นหมอแล้วจะฉีดได้หมดทุกคน หมอต้องรู้ว่าโครงหน้าของคนไข้ ใช้เข็มอย่างไร ความลึกในการแทงเข็มลงไปแค่ไหน ปริมาณของสารเติมเต็มที่ใช้ และจะฉีดจุดไหนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งหมอจะไม่ตามใจคนไข้นะคะ บางคนถือรูปมาเลยว่าอยากได้รูปหน้าแบบไอดอลคนนี้ แต่ในความเป็นจริงโครงหน้าเขาทำไม่ได้ คือถ้ามาหาหมอหมออยากให้ทุกคนสวยอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดมากกว่า
จรรยาบรรณ ความซื่อสัตย์สำคัญมากค่ะ ทุกอย่างที่หมอนำมาใช้ในคลินิกให้บริการคนไข้ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ยา สารเติมเต็มต่างๆ จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใด ทุกอย่างต้องผ่าน อย. ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่ อย.ไทย ต้องดูไปถึงระดับนานาชาติด้วย ถามว่าจะทำกำไรง่ายๆ ได้ไหม ไม่ใช่ไม่ได้ แต่ถ้าทำแล้วเสี่ยงต่อความปลอดภัยของคนไข้ เสี่ยงต่อชื่อเสียงของเราหมอไม่ทำอย่างที่บอก หมอก็ไม่ตามใจคนไข้ไปซะหมดเพื่อจะให้ได้เงินเยอะๆ แต่หมออยากให้คนไข้สวยอย่างไม่สิ้นเปลืองจ่ายแบบเหมาะสม และตั้งใจทำให้คนไข้สวยอย่างสุดฝีมือดีกว่า ตรงนี้ก็เป็นจุดที่ทำให้คนไข้กลับมาหาหมออีก และยังแนะนำต่อด้วย เรียกว่าเป็นความไว้วางใจกัน ทำให้ Doctor Grace Clinic มาได้ถึงจุดนี้”
ปัจจุบัน Doctor Grace Clinic มีแพทย์ประจำ 3 ท่านซึ่ง คุณหมอเกรซ ออกตรวจคนไข้อาทิตย์ละ 3 วัน คือ พฤหัสบดี-ศุกร์-เสาร์ ส่วนวันจันทร์-พุธ ก็เป็นงานบริหารงานเอกสาร และแน่นอนว่าเวลาที่เหลือคือ การดูแลครอบครัวดังที่ตั้งใจไว้
“ตอนนี้ลูกสาวอายุ 4 ขวบเท่ากับ Doctor Grace Clinic เขาจะเห็นคุณแม่ทำงานมาตลอด โชคดีว่าลูกสาวเลี้ยงง่ายโดยปกติวันจันทร์-ศุกร์หมอจะไปรับส่งลูกที่โรงเรียนเอง ใช้เวลาในช่วงเช้ากับเขาอย่างเต็มที่ ตอนเย็นก็จะสอนการบ้านเขา ไม่ได้ให้เขาเรียนพิเศษ เพราะมีความรู้สึกว่าไม่มีใครใจเย็นหรือสอนลูกเราได้ดีเท่ากับคนเป็นแม่หรอก ดังนั้น อยากสอนอะไร หรืออยากเสริม เพิ่มเติมเรื่องอะไร ก็ทำได้เต็มที่ และด้วยวัยของเขา มันยังไม่จำเป็น อยากให้เขาได้เล่น ได้ใช้ชีวิตแบบเด็กๆ อย่างที่ควรจะเป็น วันอาทิตย์จะเป็นวันครอบครัวค่ะ เป็นวันที่เราจะไม่คุยกันเรื่องงานแต่จะไปทำกิจกรรมร่วมกันพ่อแม่ลูก”
จากที่เคยคิดเพียงว่าเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อที่จะได้มีเวลาเลี้ยงลูก หมอเกรซ ยอมรับว่า Doctor Grace Clinic
เป็นเหมือนอีกหนึ่งลมหายใจที่สร้างความสุขให้เธอได้ไม่ต่างจากลูกสาวตัวน้อย เพราะการได้เห็นคนไข้ที่มารับบริการ
มีความพึงพอใจ มีความสุขกับผลลัพธ์ที่ได้ ในฐานะแพทย์ เธอก็มีความสุขเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี