ธานินทร์ บูรณมานิต ท่ามกลางเยาวชนรักษ์ลันตา
เกาะลันตา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่เกาะแรกที่มีเป้าหมายส่งเสริมให้เป็น กรีนไอส์แลนด์ หรือเกาะสีเขียว ตามยุทธศาสตร์กระบี่ Go Green จึงเกิดการรวมตัวหลายภาคส่วนเพื่อร่วมกันสร้างแนวทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดย ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งเซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทยได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มูลนิธิโลกสีเขียว และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ลงพื้นที่รณรงค์ปลูกฝังเยาวชนไทยลด ละ เลิกใช้ถุงพลาสติก พัฒนาองค์ความรู้ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรม “รักษ์ลันตา ชูถุงผ้า ร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก” สอดรับแคมเปญ คิดถุ๊ง คิดถุง ซีซั่น 6 หนึ่งในโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
เฉลิมพันธ์ ยินเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ผู้แทนกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมฯ กล่าวว่า สถิติปัจจุบันในจังหวัดกระบี่มีปริมาณขยะถุงพลาสติกประมาณ 20% ของปริมาณขยะทั้งหมด และในท้องทะเลยังมีการพบถุงพลาสติกจำนวนมาก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมรณรงค์ให้คนไทยลดใช้ถุงพลาสติก การสร้างจิตสำนึกรัก หวงแหน ดูแลธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำให้คนในชุมชนรับรู้ตระหนักเพื่อร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี
เฉลิมพันธ์ ยินเจริญ
“อยากให้คนไทยพยายามเลิกใช้ถุงพลาสติก มองเห็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และร่วมกันดูแล ร่วมกันติดอาวุธทางปัญญาให้ความรู้ สร้างวินัยปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก โดยต้องเริ่มสร้างที่ตัวเรา ที่ครอบครัว ที่โรงเรียน โดยเฉพาะให้เยาวชนได้มีวินัยรักษ์โลก เลิกใช้ถุงพลาสติก”
ธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า เซเว่น อีเลฟเว่น ให้ความสำคัญกับการดูแลแบ่งปันร่วมกับชุมชนและสังคม ล่าสุดพนักงานจิตสาธารณะซีพี ออลล์ ซึ่งได้เข้าไปมีส่วนร่วมทำกิจกรรม “รักษ์ลันตา ชูถุงผ้า ร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก” ร่วมกับโรงเรียนบ้านคลองหิน และโรงเรียนบ้านคลองนิน เพื่อส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชน ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ 7 Go Green โดยในครั้งนี้ได้มีการลงพื้นที่เกาะลันตาเพื่อรณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติกตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติทั้งในสถานที่ชุมชน และโรงเรียนปลูกฝังการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม “คิดถุ๊ง คิดถุง ชวนคนไทยลดใช้ถุงพลาสติก” รวมถึงการคัดแยกขยะเพื่อกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทาง
คัดแยกก่อนทิ้งลดขยะช่วยสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ พนักงานจากชมรมจิตสาธารณะซีพี ออลล์ ยังได้ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมรณรงค์การเก็บขยะในพื้นที่ชายหาดมาอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยมีความเชื่อว่าพลังของเยาวชนรวมถึงบุคลากรจากโรงเรียนและภาคีทุกฝ่าย จะสามารถช่วยกันลดปริมาณขยะพลาสติกและสร้างรูปแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นให้ดีขึ้นได้
รัชฎาภรณ์ ฐานเหล็ก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองนิน กล่าวว่า โรงเรียนพยายามเต็มที่เรื่องการให้นักเรียนลดปริมาณขยะโดยเฉพาะเรื่องถุงพลาสติก นักเรียนเกือบทั้งโรงเรียน มีพื้นฐานของสุขอนามัยที่ดี รักษาความสะอาด อันเป็นจรรยามารยาทในการใช้ชีวิตในสังคม จึงอยากส่งเสริมให้เยาวชนลดใช้ถุงพลาสติก และรู้จักคัดแยกขยะสร้างรายได้เป็นมูลค่าให้เยาวชน นับเป็นโอกาสดีที่มีผู้ใหญ่ใจดีมาส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้คู่กับการปฏิบัติทำให้นักเรียนได้ขยายผลไปสู่ครอบครัว ชุมชน เพราะการทำสิ่งแวดล้อมให้ดี ทำที่จุดใดเพียงจุดหนึ่งไม่ได้ ทุกหน่วยงานของสังคม ต้องมีส่วนร่วมกันดูแล เหมือนที่ได้มีการร่วมกันรักษ์ลันตาชูถุงผ้า ร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติกในครั้งนี้
น้องๆ ร่วมใจใช้ถุงผ้าช็อปที่ 7-11
ทั้งนี้การดำเนินนโยบายด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง หลากหลายรูปแบบ อาทิ การจัดตั้งโครงการลดการใช้ถุงพลาสติกในสถานศึกษา มหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐ-เอกชน กว่า 20 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อลดใช้ถุงพลาสติกตามสถานศึกษาต่างๆ สามารถลดใช้ถุงพลาสติกได้กว่า 12,698,840 ใบ ในปี 2560
สำหรับประชาชนผู้สนใจรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสามารถติดตามข่าวสารของกิจกรรมหรือร่วมแชร์ความคิดเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าวได้ที่ Facebook : คิดถุ๊ง คิดถุง และ www.cpall.co.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี