วิบูลย์ นิมิตรวานิช พร้อมด้วยผู้บริหาร UTU (ยูทู)และครอบครัวเซเลบฯ
ปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต้องทำงานหนัก จนแทบไม่มีเวลาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด บางครอบครัวต้องฝากลูกไว้กับคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย หรือพี่เลี้ยง จึงทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวลดน้อยลงไป การที่พ่อแม่ไม่มีเวลา ทำให้เด็กยุคใหม่ส่วนใหญ่จะติดอยู่ในโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอแพดและคอมพิวเตอร์ทำให้หลายๆ ครอบครัวต้องประสบปัญหาลูกมีพัฒนาการช้า เป็นโรคซึมเศร้า และเป็นโลกสมาธิสั้น โดยสถิติเด็กกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ บริษัท รีวอร์ดส พาร์ตเนอร์ จำกัด ผู้ให้บริการ Loyalty Platform เจ้าของแอพพลิเคชั่น “UTU (ยูทู)”แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ครอบครัวคนรุ่นใหม่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาทักษะของลูก (Millennial Family)” เพื่อกระตุ้นให้ครอบครัวคนรุ่นใหม่ออกมาท่องเที่ยวอย่างคุ้มค่า ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมได้คะแนนสะสม เปลี่ยนเป็นแคชแบค ผ่านแอพพลิเคชั่นยูทูใน 9 จังหวัดภาคตะวันออก
ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ โดยจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะ Edu-tourism ท่องเที่ยว เพื่อให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ได้เรียนรู้จากสถานที่จริงเพราะการท่องเที่ยวถือว่าเป็นการเรียนรู้ไม่รู้จบ โดยเฉพาะปัจจุบันครอบครัวคนรุ่นใหม่ ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการทักษะการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวไม่ว่าจะเป็นความเป็นธรรมชาติ พืช สัตว์ ล้วนเป็นสิ่งแวดล้อมที่สร้างประโยชน์และพัฒนาการให้กับเด็กๆ
ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก วิบูลย์ นิมิตรวานิชผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย สุรังคนา สุรไพฑูรย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทรีวอร์ดส พาร์ตเนอร์ จำกัด มาร่วมพูดคุยถึงที่มาของโครงการ รวมถึงสิทธิพิเศษที่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจะได้รับเมื่อเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนคุณแม่ยุคใหม่ อาทิ ชัชชฎา ก้องธรนินทร์, วิภาวี คอมันตร์, หนิง-ศรัยฉัตร (กุญชร ณ อยุธยา) จีระแพทย์ และ ร.อ.วันทิตาลิ่วเฉลิมวงศ์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยอีกด้วย
ครอบครัวเปิ้ล-ชัชชฎา ก้องธรนินทร์
เปิ้ล-ชัชชฎา ก้องธรนินทร์ เล่าว่า ปกติตนและสามี อนุรัตน์ ก้องธรนินทร์ เป็นคนชอบเที่ยวกันอยู่แล้ว ถ้ามีวันหยุดเมื่อไหร่ก็จะหาเวลาไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันทันที พอมีลูกเราต้องพาเขาไปกับเราทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือในประเทศ ครอบครัวเราให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมร่วมกันมากๆ ยิ่งลูกเราเกิดในยุคดิจิตอลและเทคโนโลยี ซึ่งสังคมในอนาคตจะเป็นสังคมตัวคนเดียว เราควรเสริมทักษะหลายๆอย่างให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นทักษะสังคม ทักษะชีวิต การสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้การท่องเที่ยวสามารถช่วยได้ ทุกครั้งที่เดินทางเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูก ลูกก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติ วิถีชีวิต และได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ซึ่งทำให้ลูกก็มีความสุข สำหรับการท่องเที่ยวหนึ่งทริป เราต้องหาข้อมูล หากิจกรรมในสถานที่นั้นๆ ให้เหมาะสมกับวัยของลูก อย่างลูกชาย น้องริว-ด.ช.คุณาพันธุ์ก้องธรนินทร์ ตอนนี้อายุ 12 ปีแล้ว เขาก็ชอบไปเที่ยวทะเล โดยครอบครัวเราจะไปเที่ยวพัทยากันบ่อยมาก เพราะเรามีบ้านอยู่ที่นั่น ลูกก็จะได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ที่สำคัญเป็นการพักผ่อนและใช้เวลาว่างร่วมกันอย่างมีความสุข
ครอบครัว โมนา-วิภาวี คอมันตร์
ด้านโมนา-วิภาวี คอมันตร์ บอกว่า ลูกสาวและลูกชาย น้องธิ-ด.ช.เอกวิทย์ และน้องดา-ด.ญ.วรดา คอมันตร์ชอบเที่ยวมากๆ โดย 1 ปี จะเที่ยวประมาณ 4 ครั้ง คือช่วงเวลาที่เด็กๆ ปิดเทอม เพื่อให้เขาได้เปิดจินตนาการ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รวมถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่น และเรียนรู้สังคมต่างๆ ที่อยู่รอบตัว โดยส่วนใหญ่เราจะเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดระยอง เพราะมีบ้านพักอยู่ที่นั่น เด็กๆ ก็จะดีใจทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยว เพราะเขาชอบทะเล ซึ่งโมนามีความคิดว่า การสอนลูกที่ดีที่สุด คือ การให้ลูกได้เรียนรู้ ได้เห็น และได้สัมผัสกับสถานที่จริง เพราะลูกจะได้เห็นว่า ธรรมชาติเป็นอย่างไร และสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในธรรมชาติมีอะไรบ้าง เขาจะได้ซึมซับสิ่งดีๆ ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และที่สำคัญครอบครัวจะได้มี เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์และเติมเต็มความอบอุ่นให้กับครอบครัวค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี