Spodex จากสวนบนหลังคา
Katowice เมืองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวอร์ซอที่ห่างจากวอร์ซอโดยรถไฟ2 ชั่วโมงกว่านี้ เป็นเมืองที่เดินทางไม่ยาก เพราะใช้รถตรงจากวอร์ซอ เพียงแต่ต้องออกจากสถานี warsaw west เท่านั้น Katowice เมืองที่มีประชากรเพียงแค่สองแสนกว่าคน และเป็นศูนย์กลางของแคว้น Silesian นี้มีประวัติยาวนานย้อนไปถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ดั้งเดิมนั้นที่นี่เป็นเหมืองเก่าแต่เมื่อเกิดสงคราม Silesian ครั้งแรกขึ้น เมืองนี้ถูกยกให้เป็นของปรัสเซีย ครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ช่างฝีมือและพ่อค้าชาวเยอรมัน รวมทั้งชาวยิวต่างย้ายมาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมืองทั้งเมืองจึงกลายสภาพจากท้องนากลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมยิ่งกว่านั้นรัฐบาลกลางยังให้สถานีรถไฟKatowice เป็นหนึ่งในศูนย์กลางเชื่อมกับส่วนอื่นๆ ของประเทศส่งผลให้เมืองเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
การที่ Katowice เป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมเหล็กกล้า เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ปะทุขึ้น และเยอรมนีพ่ายแพ้ในสงครามเมืองนี้จึงถูกแบ่งแยกจากปรัสเซียกลายเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์ อีกทั้งยังเป็นกลายเป็นเมืองหลวงของแคว้น Silesian อย่างไรก็ดี ในปี 1939 เยอรมันกลับมามีอำนาจอีกครั้ง รัฐบาล Wehrmarcht จึงได้ยึดเมืองจากชาวโปลให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมันส่งผลให้เมืองนี้ยังคงเป็นที่อยู่ของชาวเยอรมันอีกเป็นจำนวนมากจวบจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อพันธมิตรมาปลดปล่อยเมืองนี้จากการยึดครองของเยอรมนีในปี 1945 การที่ Katowice เป็นเมืองที่เจริญด้านอุตสาหกรรม ส่งผลให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การค้า และการขนส่งไปด้วยในที่สุด ปัจจุบันเมืองนี้ยังคงเป็นเมืองที่มีอิทธิพลสูงทางด้านเศรษฐกิจโดยเป็นเมืองที่มีอิทธิพลมากอันดับ 16 ในแง่ GDP ของสหภาพยุโรปโดยมีผลผลิตทางด้านเศรษฐกิจมากถึงปีละ 114.5พันล้านสหรัฐ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ PolishNational Radio Symphony andOrchestra และเป็นเจ้าภาพของการแข่งขัน Intel Extreme Masters อีกต่างหากด้วย
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือนเมืองนี้สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่จะพบก็คือ ก่อนไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ก็คือ Silesian Insurgents’ Monument หรืออนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการจลาจล 3 ครั้งของเมืองในปี 1919-21 จนทำให้เกิดการประกาศอิสรภาพของเมือง อนุสาวรีย์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 นี้ออกแบบโดย Gustaw Zemla นักประติมากรรมและ Wojciech Zablocki สถาปนิกโดยปีกเป็นสัญลักษณ์ของการก่อการจลาจล และมีการสลักชื่อของสถานที่ที่เกิดการจลาจลขึ้นไว้ด้วย หลังจากถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์เรียบร้อย สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่ต้องมาให้ได้ก็คือ Spodex สนามกีฬาขนาดใหญ่ประจำเมือง สนามกีฬาที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1955 นี้เดิมชื่อว่า Stalinogrod ดั้งเดิมนั้นเทศบาลเมืองต้องการสร้างสนามกีฬาไว้ชานเมือง แต่ Voivodeship National Council เห็นว่า การสร้างสนามกีฬาไว้กลางเมืองจะให้ความสะดวกกับประชาชนมากกว่าจึงได้เลือกเหมืองเก่ากลางเมืองมาทำสนามกีฬาแทน เนื่องจากสนามกีฬาแห่งนี้ถูกสร้างบนดิน และส่วนของหลังคาใช้เทคโนโลยีใหม่ในการดึงรั้งโดมให้ยึดติดกันเป็นวงกลมทำให้มีข่าวลือเรื่องการโค่นของหลังคาลงมาตลอดการก่อสร้าง เพื่อพิสูจน์ว่าสนามกีฬามีความแข็งแรง Maciej Gintowt and Maciej Krasinski สถาปนิกผู้ออกแบบและวิศวกรผู้คุมการก่อสร้างจึงได้ระดมทหารกว่า 3,500 คนมาทดสอบความแข็งแกร่ง และสามารถผ่านการทดสอบแบบฉลุย
นักท่องเที่ยงที่ได้มีโอกาสมาเยือนเมือง Katowice และได้มาเยือนสนามกีฬาที่เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1971 นี้จะพบว่า ที่นี่ไม่เพียงมีส่วนโดมกลางเท่านั้น ยังมีส่วนของยิม ที่เล่นสเก็ตน้ำแข็ง โรงแรม และที่จอดรถอีก 3 ลานด้วย เนื่องจากสนามกีฬาแห่งนี้จุคนได้มากถึง 11,500 คนที่นี่จึงเป็นที่จัดคอนเสิร์ตด้วย แต่หากนักท่องเที่ยวไม่มีโอกาสเข้าไปใน Spodex เนื่องจากไม่มี event ก็สามารถเดินชมทิวทัศน์รอบๆ ได้ด้วยการเดินบันไดด้านข้างที่รายล้อมด้วยสนามหญ้า และหากมีเวลาอาจแวะปิกนิกได้อีกต่างหากด้วย ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมและบริเวณรอบๆ นี้ จึงทำให้สนามกีฬาแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งที่ชาวโปแลนด์ภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี