การใช้ยาไม่สมเหตุผลเป็นปัญหาระดับชาติมายาวนานส่งผลเสียทั้งทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการบริโภคยาเกินจำเป็น และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยในทางที่แย่ลง นำไปสู่การรักษาการป่วยครั้งต่อไปที่ยุ่งยากและสิ้นเปลืองมากขึ้น และอาจทำให้เกิดโรคใหม่จากการใช้ยา ทำให้ต้องรักษาเพิ่มขึ้น เช่น ผู้ป่วยที่รับประทานยาชุดแก้ปวด แก้อักเสบบ่อยๆ เกินความจำเป็น ก็จะเกิดกระเพาะทะลุ หรือการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินความจำเป็น จนสร้างปัญหาเชื้อดื้อยา ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากติดเชื้อดื้อยา ต้องให้การรักษาด้วยยาที่แพงขึ้น ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยามากขึ้นทุกปี ปัญหาความ ไม่ปลอดภัยจากการใช้ยาของผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจเกิดจากระบบสาธารณสุขและการให้บริการทางเภสัชกรรมที่ทำได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะโรงพยาบาลในต่างจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังมีปัญหาขาดแคลนอัตรากำลังของเภสัชกรประจำโรงพยาบาลอยู่มาก
ข้อมูลจาก ดร.ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี นายกสภาเภสัชกรรม เปิดเผยว่า มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าการบริโภคยาของคนไทยมีมูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ใช้ยาเกินจำเป็นถึงกว่า 2,000 ล้านบาท และการใช้ยาที่สงสัยต่อประสิทธิภาพถึง 4,000 ล้านบาท และกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ การใช้ยาสมเหตุผลเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ
คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พัฒนาโรงพยาบาลทุกแห่งให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาสมเหตุผลมาตั้งแต่ 2559
การใช้ยาสมเหตุผล หมายถึง การใช้ยาที่เหมาะสมกับโรค ในขนาดและระยะเวลาการใช้ที่ถูกต้อง และเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด แต่ปัจจุบันยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ใช้ยาไม่สมเหตุผล ซึ่งเป็นความเข้าใจของประชาชนในทางที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ยา อาจมีที่มาจากการสำคัญผิดเอง จากการบอกเล่า หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสารและให้ข้อมูลกันผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้น หรือการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เนต หากไม่พิจารณาแหล่งที่มาให้ดี ก็อาจจะได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บิดเบือนไปจากความเป็นจริง หรือเป็นจริงแต่เพียงบางส่วน รวมทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งยาแผนโบราณและยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง เพื่อผลการรักษาสุขภาพลดน้ำหนักลดความอ้วน อันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งเจตนาการเสพยาสมุนไพร ยาแผนโบราณที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมปรุงแต่งในปริมาณมากเกินควร จนเกิดอาการมึนเมา ส่งผลให้มีจำนวนตัวยาสะสมสูงจนเกิดเป็นพิษต่อร่างกายได้ เป็นต้น
เพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนไทยมีการใช้ยาและสมุนไพรอย่างสมเหตุผล สภาเภสัชกรรม ได้ร่วมกับ องค์กรเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม จัดกิจกรรม “สัปดาห์เภสัชกรรม ประจำปี 2561” ภายใต้
คำขวัญ “ฉลาดใช้ยาและสมุนไพรสมเหตุผล ยุค 4.0...ปรึกษาเภสัชกร” เพื่อร่วมกันแสดงบทบาทของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต่อประชาชน มีการให้ความรู้ คำแนะนำในการใช้ยาและสมุนไพร เป็นที่ปรึกษา ด้านสุขภาพให้คำแนะนำ ตัดสินใจ คัดกรอง ส่งต่อ และรักษา ป้องกันโรคพื้นฐานด้วยการใช้ยาและไม่ใช้ยาให้แก่ประชาชน กรณีที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้ยาและสมุนไพร ต้องทำให้ประชาชนได้รับยาและสมุนไพรได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย และสมเหตุผล เหมาะสมกับโรค ในขนาดและระยะเวลาการใช้ที่ถูกต้อง และเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โดยจะจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องยาและสมุนไพรในโรงพยาบาล ร้านยาและหน่วยงานบริการสาธารณสุขพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 23-29 มิถุนายน 2561 ให้ประชาชนผู้ใช้ยา ขอรับคำปรึกษากับเภสัชกร พร้อมทั้งขอรับเอกสารให้ความรู้เรื่อง “ฉลาดใช้ยาและสมุนไพรสมเหตุผล ยุค 4.0...ปรึกษาเภสัชกร” ในสถานพยาบาลหรือร้านยาใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ปัจจุบันมีการนำสมุนไพรมาผลิตเป็นยาเตรียมที่มีประสิทธิภาพดี ไม่แพ้ยาที่สังเคราะห์ขึ้น สามารถนำยาเหล่านี้มาใช้รักษาโรค ลดการใช้ยาจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยอีก ผลิตภัณฑ์ยาจากสมุนไพรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้รักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
l ยาฟ้าทะลายโจร ช่วยรักษาอาการหวัด เจ็บคอ
l ยาขมิ้นชัน ช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
l ยาเหลืองปิดสมุทร ช่วยรักษาอาการท้องเสีย
l ยาเพชรสังฆาต ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร
l ยาน้ำแก้ไอมะขามป้อม ช่วยบรรเทาอาการไอ
l ยาเถาวัลย์เปรียง ช่วยรักษาอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อลดอาการอักเสบกล้ามเนื้อ
l ครีมไพล/ยาหม่องไพล ช่วยนวดบรรเทาอาการปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอก
l เจลพริก ใช้นวดบรรเทาอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ
l ยาจันทน์ลีลา ใช้บรรเทาอาการไข้ ตัวร้อน
l ยาหญ้าดอกขาว ใช้ลดอาการอยากบุหรี่
l ยามะขามแขก ใช้บรรเทาอาการท้องผูก เป็นต้น
จะเห็นว่าสมุนไพรไทย มีสรรพคุณมากมาย รักษาได้หลายโรค ปัจจุบันยาเหล่านี้ถูกบรรจุเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ สามารถหาซื้อได้โดยง่าย ไม่สบายครั้งใด คิดถึงยาสมุนไพร ลดมูลค่าการใช้ยาจากต่างประเทศ
หลักการใช้ยาให้สมเหตุผล ควรยึดหลัก 5 ถูกของการใช้ยา คือ ถูกคน ถูกโรค ถูกขนาด ถูกวิธี และถูกเวลา และเพื่อให้ใช้ยาถูกต้อง 5 ถูก การซื้อยามารับประทานเอง ควรเลือกร้านที่มีเภสัชกร ไม่ควรซื้อยาจากผู้ที่ไม่มีความรู้ ไม่นำยาผู้อื่นมาใช้ อ่านฉลากก่อนใช้ยา และใช้ยาตามที่ระบุไว้ในฉลาก ทั้งขนาด วิธีใช้ และเวลาที่ใช้
นอกจากนี้ ในกรณีได้รับข้อมูลทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อโซเชียลต่างๆ ควรพิจารณาถึงชื่อ แหล่งที่มาของข้อมูลอ้างอิงอย่างถูกต้องชัดเจนจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรเป็นข้อมูลที่ทันสมัยด้วย และหากต้องการสืบค้นข้อมูลจากทางอินเตอร์เนต ควรเลือกเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย หรือของราชการ นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีแอพพลิเคชั่นที่ให้ความรู้เรื่องยาต่างๆ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนยุค 4.0 สามารถเข้าถึงข้อมูลเรื่องยาได้ง่ายขึ้นและเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับผู้ป่วยในการใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและสมเหตุผล สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการใช้ยา สามารถขอรับคำปรึกษาได้จากเภสัชกรโรงพยาบาล หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน
ผศ. (พิเศษ) ดร. ภก. อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
เลขาธิการ สภาเภสัชกรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี