คนไทยบางกลุ่มแสดงความรังเกียจนักท่องเที่ยวจีน โดยอ้างเหตุผลว่า ไม่มีมารยาท เสียงดัง เอะอะโวยวาย ไม่รักษาความสะอาดกินมูมมาม (แต่ขออนุญาตพูดตรงๆ เวลาคนไทยกลุ่มใหญ่ๆ ไปเที่ยวในที่ต่างๆ ก็เสียงดังไม่น้อยไปกว่าทัวร์จีน บางครั้งอาจจะเสียงดังมากกว่าด้วยซ้ำไป)
คนไทยบางราย โดยเฉพาะตำรวจ และรัฐมนตรีบางรายก็อ้างว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นพวกทัวร์ศูนย์เหรียญ หรือเป็นธุรกิจตัวแทน (nominee)ดังนั้นคนไทยจึงไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากมาย ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งหมด และไม่ควรเหมารวมเช่นนั้น เพราะทำให้เห็นว่าผู้ที่เหมารวมไม่มีความรู้จริงในเรื่องที่พูด แต่ขอบอกว่าความคิดดังกล่าวอาจจะมีความจริงผสมกับความไม่จริง
แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งคือ ในแต่ละเดือนมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 9 แสนถึง 1 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่ง (มากกว่า
ชาวยุโรป เพราะชาวยุโรปจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยมากเกือบๆ8-9 แสนคนในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ส่วนเดือนอื่นๆ อาจจะเหลือตัวเลขเพียง 3-4 แสนคน)
สำหรับค่าใช้จ่ายที่นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายในประเทศไทยก็ถือได้ว่ามีจำนวนมากอย่างน่าสนใจ ยกตัวอย่างสถิติที่จัดเก็บโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า กรุ๊ปทัวร์จีนที่เข้ามาประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2560 สร้างรายได้ให้ประเทศประมาณ 89,000 ล้านบาท จำแนกเป็นรายได้โดยประมาณจากการจับจ่ายซื้อของ 3 หมื่นล้านบาท การท่องเที่ยวใน
สถานที่ต่างๆ 8 พันล้านบาท ด้านความบันเทิงเริงรมย์ 7 พันล้านบาทด้านที่พักโรงแรม 17,000 ล้านบาท ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 16,000ล้านบาท ค่าเดินทางและค่าพาหนะ 7 พันล้านบาท ค่าดูแลด้านสุขภาพ 200 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 2 พันล้านบาท
ทีนี้ลองเทียบค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนที่มาแบบส่วนตัวโดยไม่ได้มาเป็นกลุ่ม พบว่าใช้จ่ายในระยะเวลาเดียวกันคิดเป็นเงินรวม 161,000 ล้านบาท ใช้จ่ายเพื่อการซื้อของ 46,000 ล้านบาทด้านโรงแรมที่พัก 45,000 ล้านบาท ด้านอาหารและเครื่องดื่ม31,000 ล้านบาท ด้านการเดินทาง 16,000 ล้านบาท เป็นต้น เหตุผลที่ต้องยกตัวเลขขึ้นมาประกอบ เพื่อต้องการให้เห็นชัดว่าประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนในแต่ละปีเป็นจำนวนมหาศาล ดังนั้น ถ้าหากรายได้จากส่วนนี้หายไป ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนถ้าหากไม่สามารถหาตัวเลขรายได้จากนักท่องเที่ยวอื่นๆ มาทดแทนได้
ขอเข้าประเด็นอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวทางทะเลล่มในจังหวัดภูเก็ตเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมปีนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 ราย จากอุบัติเหตุครั้งแรกที่ร้ายแรงมากมายเช่นนี้หลังเกิดเหตุร้าย มีคนบางกลุ่มพยายามจงใจให้ข่าวด้านลบ เพื่อหวังให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแลพังงา รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทย เช่น ปล่อยข่าวว่านักท่องเที่ยวจีนยกเลิกการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทย รัฐบาลจีนสั่งห้ามคนจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทย นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกทัวร์ทุกอย่างในจังหวัดภูเก็ต และยกเลิกการจองห้องพักในภูเก็ต เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่มีความจริง
จากการที่ Mr. Flower ไปสังเกตการณ์โดยตรง ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวจีน (และนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ) รวมถึงได้สนทนากับผู้ประกอบการด้านการเดินเรือท่องเที่ยวทางทะเล ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 3-5 ดาว เจ้าของสถานบันเทิง และผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าปลอดภาษี ได้รับคำตอบว่า นักท่องเที่ยวจีนยังคงเดินทางเข้าไปที่จังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะมีนักท่องเที่ยวจีนบางรายที่ไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์เรือล่ม อาจจะลังเล บางรายอาจชะลอการเดินทางไปเที่ยวภูเก็ตและกระบี่ โดยขอเปลี่ยนไปเที่ยวในภาคเหนือของไทยแทน บางคนยังยืนยันไปเที่ยวภูเก็ตและกระบี่ แต่ขอดูสภาพคลื่นลมทะเลก่อนตัดสินใจว่าจะลงเรือเที่ยวทะเลหรือไม่ แต่หลายรายก็ยังคงยืนยันว่าเมื่อมาภูเก็ตและกระบี่ ก็ต้องเที่ยวทะเลที่งดงาม หากคลื่นลมแรงก็จะไม่ลงเรือ และบอกว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกที ไม่จำเป็นต้องกลัวจนไม่กล้าเที่ยว แต่ก็ไม่ประมาท
ผู้ประกอบการเดินเรือหลายรายบอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนภูเก็ตมีฝนตกบ่อย แต่ตกแล้วหยุด หยุดแล้วตก สลับไปมาทั้งวันการจะให้เรือนำนักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวทะเลก็ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ หากคลื่นลมแรงก็ไม่ออกเรือ และต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้าว่าจะออกเรือหรือไม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนก็เข้าใจ หากลูกค้าเลื่อนการลงเรือได้ ก็รอเรือออกวันใหม่ แต่หากรายใดไม่สะดวก และต้องการขอรับเงินคืน ก็คืนเงินให้ครบจำนวน โดยไม่หักค่ามัดจำแต่อย่างใดเจ้าของเรือบอกว่าตามปกติในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวมามาก วันหนึ่งๆ จะมีลูกค้าลงเรือประมาณ 1 พันถึง 1,200 ราย คิดค่าบริการรายละ 1,300-1,600 บาท ขึ้นอยู่กับระดับของการให้บริการ (ลองคิดดูนะครับ ว่าในภูเก็ตและพังงา รวมถึงกระบี่ มีผู้ประกอบการที่ให้บริการเรือท่องเที่ยวทางทะเลกี่ร้อยราย เพราะนี่จะชี้ให้เห็นว่าในแต่ละวันจะมีรายได้จากการให้บริการด้านนี้จำนวนมหาศาลเพียงใด) แต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยจะเหลือเพียงประมาณ 200-300 ราย โดยนักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวบนบกแทน และบอกด้วยว่า ไม่มีเจ้าของเรือรายใด ต้องการให้เรือของตนเองออกไปอับปางกลางทะเล ดังนั้นหากมั่นใจว่าออกเรือแล้วเกิดปัญหาก็จะสั่งห้ามออกโดยทันที
ด้านผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 5 ดาวในภูเก็ตยืนยันว่านักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ยกเลิกการจองห้องพัก ทุกอย่างยังเป็นปกติ ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าปลอดภาษีในภูเก็ตยืนยันว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม ยังไม่พบว่านักท่องเที่ยวจีนหายไป แต่อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะสรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนได้ เพราะต้องรอดูอีกประมาณ 1 เดือนหลังจากนี้
ส่วนคนขับเรือ กัปตันเรือ และลูกเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวก็บอกว่า พวกเขาก็กลัวตาย เพราะฉะนั้นถ้าหากดูสถานการณ์แล้วเห็นว่าไม่สมควรออกเรือ เขาก็จะไม่ออกเรือ ไม่มีใครอยากออกไปแล้วพบกับความตาย
ทางด้านหน่วยราชการในจังหวัดภูเก็ตที่มีส่วนดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวก็แสดงความมั่นใจว่าจะป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายแรงเช่นนี้ในอนาคต และบอกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะเกิดพายุหนักในจุดที่เรือล่ม แต่ก็ต้องหาทางป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นอีกในอนาคต โดยออกมาตรการเพิ่มความปลอดภัยทุกด้าน เช่นการให้นักท่องเที่ยวติดแถบรัดข้อมือที่สามารถบ่งบอกตำแหน่งแท้จริงในขณะอยู่ในทะเล และส่งเรือลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับเรือทุกลำ รวมถึงตรวจสภาพเรือให้พร้อมใช้งานเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
นักท่องเที่ยวจีน บอกกับ Mr. Flower ว่า ยังรักเมืองไทย และยังจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกเรื่อยๆ เพราะเมืองไทยมีที่เที่ยวมากมาย คนไทยน่ารัก อาหารไทยอร่อย ผลไม้ไทยมีให้กินตลอดปี
และเมืองไทยไม่ไกลจากจีนมากนัก เดินทางไปมาง่าย แล้วก็บอกด้วยว่าคนจีนมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับคนไทย เพราะฉะนั้นก็จะมาเที่ยวเมืองไทยอีก ถ้าคนไทยยังให้การต้อนรับที่ดีเหมือนเดิม แล้วเขาก็บอกด้วยว่านักท่องเที่ยวจีนมีหลายประเภท พวกเสียงดังก็มี แต่พวกที่เสียงไม่ดังก็มี เพราะฉะนั้นอย่าเหมารวมว่าทัวร์จีนเสียงดังทุกคน
เห็นไหมครับว่า คนจีนยังคงรักเมืองไทย และรักคนไทย แล้วเขาก็ยังพร้อมจะกลับมาเที่ยวไทยอีกเรื่อยๆ ดังนั้นจะมีประโยชน์อะไรที่คนไทยจะไปตั้งข้อรังเกียจคนจีน ส่วนเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญและเรื่องnominee เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต่อปัญหาดังกล่าวต้องแก้ไขและปราบปรามให้หมดไป ไม่ใช่แค่เพียงออกมาพูดเพื่อทำลายธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยให้ย่อยยับ
ลองคิดดูอีกครั้งนะ ถ้าหากไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวบ้านของเรา เราจะประสบปัญหาอะไรบ้าง เพราะฉะนั้น เราควรจะต้อนรับเขาด้วยความเป็นมิตร อะไรที่เขาทำไม่เหมาะไม่ควร เราก็ต้องบอกเขา เพราะเขาก็เป็นคนเหมือนกับเรา เขาสามารถรับรู้ถึงความเป็นมิตรและความหวังดีของเราที่มีต่อเขาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี