พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธาน รวมทั้งเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณในหัวข้อเรื่อง “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กับการศึกษา” หนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นคืองานเสวนาเรื่อง “สิ่งที่แม่สอน :เรื่องเล่าจากโต๊ะทรงงาน” โดยมี ท่านผู้หญิงภรณีมหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, คุณหญิงรัตนาภรณ์ แชจอหอเจ้าหน้าที่กองงานศิลปาชีพ, พลเอกณรงค์แสงชนะศึก รองสมุหราชองครักษ์ และมีลอย อุ่นเฟย เจ้าหน้าที่กองศิลปาชีพ ร่วมงานเสวนา ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง
แนวหน้าขอนำเนื้อหาจากงานเสวนาดังกล่าวมาเผยแพร่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 12 สิงหาคม 2561
ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผู้ถวายงานเรื่องการต่างประเทศ และนั่งประจำโต๊ะทรงงานเวลาตามเสด็จฯ เล่าว่า “สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ออกไปทรงงาน ซึ่งไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าพระองค์ท่านจะเสด็จฯ ไปที่ใด และจะทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง และพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เสด็จฯ ก็ไม่เคยปรากฏอยู่ในแผนที่ด้วยซ้ำ เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านบนดอยต่างๆ เพื่อทอดพระเนตรถึงปัญหาของราษฎร สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ก็จะประทับกับพื้นเพื่อมีพระปฏิสันถารกับราษฎร จะทรงถามถึงที่ทำมาหากิน ว่ามีความแห้งแล้งเกินไปไหม มีน้ำพอใช้แค่ไหน รวมไปถึงการปลูกพืชแล้วไม่ได้ผล พระองค์ยังทรงหาวิธีที่จะช่วยราษฎรด้วยความห่วงใย
สำหรับโต๊ะทรงงานของพระองค์ จะเป็นโต๊ะพับเล็กๆ ที่กางออกแล้วใช้ผ้าปูเท่านั้น พร้อมมีตัวอย่างผ้า และผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพฯ แผนกต่างๆ วางบนโต๊ะทรงงาน เพื่อให้เป็นตัวอย่างให้ราษฎร
ที่มาเข้าเฝ้าฯ ได้เห็น ทรงนำตัวอย่างเหล่านี้มาชักชวนให้เขาเรียนรู้งานศิลปาชีพ เพื่อเขาจะได้มีอาชีพ และอนุรักษ์การทอผ้าไทยไว้ให้ลูกหลานเขาเองด้วย“
คุณหญิงรัตนาภรณ์ แชจอหอ เจ้าหน้าที่กองงานศิลปาชีพ เล่าว่า “เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ประทับอยู่ที่โต๊ะทรงงานจะมีราษฎรทยอยเข้ามาที่ประทับ และพระองค์ท่านก็ไม่ได้ทรงก้มหน้าก้มตาที่จะนั่งทรงงานอย่างเดียว พระองค์ท่านจะทอดพระเนตรราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯทุกคน ทรงมองจนกระทั่งเขามานั่งข้างหน้า ซึ่งทุกคนก็จะก้มกราบพระองค์ท่าน โดยพระองค์จะรับสั่งว่า “สวัสดีจ๊ะ” กับผู้ที่มาเข้าเฝ้าฯ ทุกครั้ง ถ้าคนแก่ๆ จะรับสั่งว่า “สวัสดีจ๊ะแม่” ทรงเรียกชาวบ้านว่า “แม่จ๊ะแม่จ๋า” ทุกครั้ง ทรงถามความเป็นอยู่ของราษฎรว่า “กินข้าวกับอะไร” เมื่อราษฎรตอบว่า “กินข้าวกับปลาในภูเขา” พระองค์ท่านก็รับสั่งให้เจ้าหน้าที่กรมประมงที่ตามเสด็จฯ ให้นำปลาไปปล่อย หรือแม้แต่ กบ กับ เขียด ก็ทรงให้หามาปล่อย เพราะทรงกลัวว่าแหล่งอาหารถ้ากินกันประจำจะหมดไป นอกจากนี้ ทรงมีรับสั่งถามว่าในหมู่บ้านมีการทอผ้าไหม เพราะทรงเป็นห่วงว่าการทอผ้าไหมจะหมดไป พระองค์ท่านก็จะส่งครูเข้าไปช่วยสอน ทรงคิดว่าแม้จะไม่ทำเพื่อขาย แต่ต่อไปทำเพื่อใช้ เพราะฉะนั้นก็ต้องเร่งฟื้นฟูการทอผ้าไหมให้เกิดขึ้น ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงซักถาม ก็ด้วยความห่วงใยที่ทรงมีต่อราษฎรของพระองค์นั่นเอง
มีครั้งหนึ่งที่พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทรงทำงานจนประชวร แต่ต้องเสด็จฯ เพราะสัญญากับราษฎรไว้แล้ว ในระหว่างทรงงานตามปกติ คณะผู้ติดตามไม่มีใครรู้เลยว่าพระองค์ท่านประชวร แต่หลังจากทรงงานได้สักพัก ก็พระดำเนินออกไปทางด้านหลังเต็นท์ที่ประทับ ทรงอาเจียน พวกเราทุกคนร้องไห้ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเห็นประชาชนมาก่อนพระองค์เสมอ”
ด้าน พล.อ.ณรงค์ แสงชนะศึก รองสมุหราชองครักษ์ เล่าว่า “สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระอัจฉริยะ ทรงมองการณ์ไกล รับสั่งว่าการที่จะให้ทหารองครักษ์มาถือปืนถวายความปลอดภัยอย่างเดียวไม่พอต้องทำได้หลายอย่าง ต้องช่วยกันดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนว่าเขามีความเดือดร้อนอะไรบ้าง เมื่อไปประจำการยังพื้นที่ต่างๆ จะได้รู้แนวทางในการแก้ปัญหา บางครั้งในการถวายความปลอดภัย ต้องคอยกราบทูลเชิญให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ กลับที่ประทับ เนื่องจากพระองค์ทรงงานดึกมาก และเส้นทางไม่ค่อยดี กลัวพระองค์จะไม่ปลอดภัย แต่พระองค์จะรับสั่งเสมอว่า “ไม่เป็นไร ฉันมาดี มาช่วยพวกเขา รับรองว่าปลอดภัย เขาไม่ทำอะไรเราแน่” เพราะฉะนั้นไปที่ไหนก็ตาม พระองค์ท่านจะไม่ทรงกลัว ทรงมั่นในพระทัยว่าทรงมาดี มาช่วยเหลือเขา เพราะฉะนั้นทุกคนคงจะไม่มาปองร้าย ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี