พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงรับพวงมาลัยจากพลตรีหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ทรงเปิดงาน“วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2561” พร้อมประทานรางวัลแก่ผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “แม่ดีเด่น” และ “ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่” จัดโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง
สำหรับปีนี้มีแม่ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแม่ดีเด่น ประจำปี 2561 ในประเภทต่างๆ รวมจำนวน 225 คน ประกอบด้วย แม่ของผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ,แม่ผู้ทำประโยชน์ต่อสังคม, แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร, แม่ของผู้เสียสละฝ่ายอาสาสมัครและแม่ผู้เป็นอาสาสมัคร,แม่ผู้เสียสละฝ่ายทหารบก, แม่ผู้เสียสละฝ่ายทหารเรือ, แม่ผู้เสียสละฝ่ายทหารอากาศ,แม่ผู้เสียสละฝ่ายตำรวจ และแม่ผู้เป็นเกษตรกร ส่วนลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่มีจำนวน 108 คน แบ่งเป็นประเภท นักเรียนนักศึกษา, ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ, นักร้อง นักแสดงศิลปิน,สื่อมวลชน, ประชาชนทั่วไป และลูกกตัญญูประจำภาคของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ
ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุทรงมีพระดำรัส ว่า “แม่เป็นผู้ควรแก่การเคารพเทิดทูนของลูก เพราะแม่มีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการอบรมเลี้ยงดูลูก ให้เจริญเติบโตเป็นคนดี มีความรู้ และมีความอยู่ดีมีสุข บทบาทของแม่ที่มีต่อลูกดังกล่าวนี้นับเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ที่ลูกควรตระหนักถึงและตั้งจิตระลึกรู้ถึงบุญคุณที่แม่ได้อบรมเลี้ยงดูมาด้วยการทำความดีตอบแทน โดยปฏิบัติหน้าที่ของลูกที่มีต่อแม่ให้ดีที่สุด ปรนนิบัติดูแล ช่วยเหลือรับใช้และประพฤติตนอยู่ในขนบธรรมเนียมอันดีของวงศ์ตระกูล นอกจากจะเป็นการเคารพเทิดทูนแม่ได้อย่างประเสริฐแล้ว ยังเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีได้อย่างน่าสรรเสริญยิ่งทั้งจะเป็นสิริมงคลสูงสุด อันจะนำพาความเจริญร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ชีวิตอีกด้วย ท่านทั้งหลายผู้เป็นแม่และลูก ย่อมมีความรับผิดชอบในบทบาทและหน้าที่กันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ได้รับคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ เชื่อว่า จะต้องปฏิบัติบทบาทของแม่ และหน้าที่ของลูกได้อย่างเหมาะสมครบถ้วนสมบูรณ์ จึงได้รับเกียรติยกย่องอันน่าภาคภูมิใจในวันนี้ ขอให้ทุกท่านได้รักษาเกียรตินี้ไว้มิให้เสื่อมถอย พร้อมทั้งมีกำลังใจในอันที่จะปฏิบัติบทบาทในฐานะแม่ และหน้าที่ในฐานะลูก ให้ดีงามเป็นที่ประจักษ์ยิ่งๆ ขึ้น เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างและค่านิยมให้อนุชนผู้เป็นแม่และลูกตลอดกระทั่งบุคคลในสังคมได้ยึดถือปฏิบัติตามและสืบสานต่อไป”
หนึ่งในแม่ดีเด่น แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ท่านผู้หญิงสุวรรณี พัฒน์พงศ์พานิช นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เผยว่า “รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งรางวัลนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก สำหรับการเลี้ยงดูลูกนั้นตนจะปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างให้เขาเห็น และจะสอนเขาเสมอว่าให้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สอนให้เขาเป็นคนดี และมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และที่สำคัญสอนให้เขามีความเกรงกลัวต่อบาป ซึ่งลูกๆ ก็ทำให้เราภูมิใจ เขาเป็นคนดีชอบเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ พอโตมาก็ชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการไปช่วยงานทางด้านสังคมสงเคราะห์ ตามสมาคมต่างๆ”
ผศ.มณทิรา ล่ำซำ อดีตข้าราชการครูแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เผยว่า “ภูมิใจและเป็นเกียรติกับครอบครัวที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นประจำปี 2561 สำหรับการเลี้ยงดูลูกๆ นั้น จะให้ความรัก และมอบความสุขให้กับเขา พร้อมทั้งปลูกฝังให้เป็นคนดี มีจิตใจที่อ่อนโยน มีความเมตตา และที่สำคัญที่ตนทำเป็นแบบอย่างให้เขาได้เห็น คือ ความกตัญญูกตเวทีต่อ พ่อ แม่ และผู้ที่มีพระคุณกับเรา ซึ่งขาก็ซึมซับ และทำให้เราเห็น เราก็แอบภูมิใจในตัวลูกๆ และอีกหนึ่งคำสอนที่สำคัญคือ ให้เขาทำตัวเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น เพราะเรารู้สึกว่าลูกๆ อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น และมีความรู้ เมื่อมีโอกาสต้องยื่นมือไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเช่นกัน”
คุณหญิงสุภา วุฒิศิริ แม่ของลูกผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติเผยว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจกับรางวัลนี้มาก สำหรับการอบรมเลี้ยงดูลูกๆ จะทำให้เขาเห็น เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขา โดยจะสอนให้เขาเป็นคนดีของสังคม มีความเมตตาและความเอื้อเฟื้อกับผู้อื่น พร้อมทั้งสอนให้เขาช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส”
สำราญ กุนัน แม่ของ นาวาตรี สมานกุนัน หรือ จ่าแซม อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม แม่ของผู้เสียสละ เป็นกรณีพิเศษ เผยว่า“รู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้เสียสละ เพื่อประเทศชาติ และสังคม ที่ผ่านมาตนเลี้ยงดูลูกแบบปกติทั่วไป โดยสอนให้เป็นคนดี และสอนให้ทำประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติมาตั้งแต่เด็ก หลังจากที่ลูกชายจากไป ก็คิดถึงลูกชายทุกวันเพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ ก็ได้แต่ส่งกำลังใจให้ลูกชายไปสู่สุคติสู่ภพที่ดี และฝากถึงคุณแม่ทุกคนว่าให้สอนลูกเป็นคนดี เพื่อให้ลูกเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม”
ชัยรัตน์ จิตรกล้า กำลังศึกษาชั้นปี 4มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ เผยว่า “ดีใจและภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลนี้ รางวัลนี้ก็จะมอบให้กับคุณแม่ เพราะท่านสอนให้เราเป็นคนดีสอนให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง และที่ปลูกฝังมาโดยตลอดคือการช่วยเหลือคนอื่น เพื่อเป็นการตอบแทนสังคม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี