เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆ กำลังสาละวนกับการทำกิจกรรมในชั่วโมง “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ซึ่งโรงเรียนบ้านวังใหญ่ อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี จัดฐานเรียนรู้ 11 ฐาน ตามกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนเลือกตามความถนัดและความสนใจ ประกอบด้วย แปลงปลูกผักสวนครัว,ปลูกดีปลี, สวนมะนาว, ปุ๋ยหมักชีวภาพ, โรงเพาะชำ, สวนกล้วย,โรงเพาะเห็ด, โรงเลี้ยงไก่ไข่, บ่อเลี้ยงปลาดุก, ปลูกผลไม้ และ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ กิจกรรมเหล่านี้ ปลูกฝังให้เด็กๆรู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและสอนให้รู้จักผลิตอาหารเองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาสู่ความสำเร็จ ที่ทำให้ “โรงเรียนบ้านวังใหญ่” ได้รับเลือกโดยสำนักงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็น “โรงเรียนต้นแบบด้านอาหารกลางวันระดับประเทศ” ระดับดีเด่น
“โรงเรียนต้นแบบด้านอาหารกลางวันระดับประเทศ” เป็นโครงการที่สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพนักเรียนและพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นต้นแบบการจัดกิจกรรมอาหารกลางวันที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอตามหลักโภชนาการ ซึ่งปี 2561 นี้มีโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนต้นแบบอาหารกลางวันระดับประเทศ ในระดับดีเด่น (คะแนนประเมิน 80 คะแนนขึ้นไป) จำนวน 81 โรงเรียน ระดับดี (คะแนนประเมิน 70-79 คะแนน) จำนวน 16 โรงเรียน และระดับพอใช้ (คะแนนประเมิน 60-69 คะแนน) จำนวน4 โรงเรียน
วิชัย ปลาบู่ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังใหญ่ กล่าวว่า “ภูมิใจที่โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โรงเรียนก้าวมาถึงจุดนี้มาจากกระบวนการจัดการด้านอาหารกลางวันของโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพ นำมาสู่ภาวะโภชนาการที่ดีของนักเรียน และการมีส่วนร่วมของเครือข่าย อาทิ โรงเรียนเข้าร่วมโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ทำให้โรงเรียนมีแหล่งผลิตอาหารที่สะอาด ปลอดภัย นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนเหมาะสมกับวัย ช่วยลดปัญหาภาวะทุพโภชนาการของนักเรียน”
เด็กหญิงวาสิตา ปลื้มโต๊ะสะอาด หรือน้องวิว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รร.บ้านวังใหญ่เล่าว่า นักเรียนในโรงเรียนได้เรียนรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียงจากฐานการเรียนรู้ทั้ง 11 ฐาน ที่โรงเรียนจัดกิจกรรมต่างๆ และ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่นเดียวกับตัวน้องวิวเองที่ได้เรียนรู้เรื่องการเพาะเห็ด ซึ่งเธอได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รดน้ำเห็ดทุกเช้าและเย็น รวมทั้งเก็บผลผลิตเห็ดนำไปส่งขายให้กับสหกรณ์ของโรงเรียน เพื่อส่งต่อให้โรงครัวทำเป็นอาหารกลางวันให้นักเรียน
เมื่อถูกถามว่า เด็กๆ อย่างน้องวิว นำสิ่งที่เรียนรู้ไปปฏิบัติอย่างไร เธอตอบอย่างฉะฉานว่า หลังจากที่ได้เรียนรู้ขั้นตอนการเพาะเห็ด ก็ได้กลับมาบอกให้ผู้ปกครองซื้อก้อนเชื้อเห็ดจากโรงเรียนไป 100 ก้อน เพื่อนำมาเพาะเองที่บ้าน ตอนนี้สามารถเก็บผลผลิตเห็ดมาทำเป็นอาหาร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และหากผลผลิตออกมามากก็จะแบ่งขายให้เพื่อนบ้านในราคากิโลกรัมละ 40 บาท หรือบางครั้งก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้านนำไปทำอาหาร
เด็กหญิงวรกานต์ สุขนิยม หรือน้องผักกาด อายุ 11 ปี เพื่อนร่วมชั้นเรียนของน้องวิว บอกว่า ดีใจมากที่โรงเรียนได้รับเลือกเป็นโรงเรียนต้นแบบอาหารกลางวันระดับประเทศ และภูมิใจที่เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมกับรางวัลที่โรงเรียนได้รับ เพราะนักเรียนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในการผลิตอาหารเพื่อนำมาทำเป็นมื้อกลางวันของโรงเรียนเช่น เลี้ยงไก่ไข่ เพาะเห็ด เลี้ยงปลา ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ฯลฯ
ผักกาด เล่าต่อว่า ได้กลับไปชวนผู้ปกครองทำแปลงปลูกผักสวนครัวในพื้นที่บ้าน ปลูกต้นผักชี พริก กะเพรา มะเขือ ไว้รับประทานเอง
โรงเรียนบ้านวังใหญ่ เป็นโรงเรียนขนาดกลางมีจำนวนนักเรียน 145 คน เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเมื่อปี2558 โรงเรียนเข้าร่วมโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุขปลูกอนาคต โครงการที่ส่งเสริม เด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงอาหาร ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีภาวะโภชนาการที่ดี ซึ่งเป็นความร่วมมือของ สพฐ. ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และโรงเรียนยังได้นำระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันแบบอัตโนมัติ (Thai School Lunch) มาใช้
“โรงเรียนต้นแบบอาหารกลางวันระดับประเทศ” โมเดลความสำเร็จของการจัดการด้านอาหารกลางวันอย่างมีประสิทธิภาพ โครงการดีๆ ที่เน้นส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงโภชนาการที่ดีอย่างยั่งยืน ในยุคที่สังคมไทยยังต้องตามแก้ปัญหาทุจริตงบประมาณอาหารกลางวันเด็กประถมศึกษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี