White Aphrodisiac Telephone by Salvador Dali
นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Berardo Museum นอกจากจะได้ชื่นชมศิลปะแนว Cubism ที่เป็นต้นกำเนิดของแนวทางศิลปะยุคใหม่แล้ว ที่นี่ยังมีงานแนว Surrealism อีกเป็นจำนวนมาก แนวทางศิลปะแบบ Surrealism ก็คือการเคลื่อนไหวของศิลปะที่เริ่มต้นขึ้นต้นทศวรรษที่ 1920 โดยเน้นในเรื่องทัศนศิลป์และงานเขียน ศิลปะแนว Surrealism นี้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับศิลปะแนว Dadaist ที่ถือกำเนิดขึ้นก่อนหน้า แต่มีความสุดโต่งมากกว่า และต้องมีการตีความทางด้านจิตวิทยา
Figure the bourgie by Joan Miro
ศิลปินแนวนี้เชื่อว่าการสร้างสรรค์งานในช่วงที่ไม่รู้ตัว (Unconscious) จะเป็นไปอย่างอิสระไร้ขีดจำกัดปราศจากข้อกำหนดตามระเบียบแบบแผนศิลปะ เพศและเหตุผล ผลงานศิลปะ
แนว Surrealism มีเป้าหมายที่จะแก้ไขปัญหาที่เคยถูกห้ามไว้จากการที่ต้องสร้างงานอย่างมีแบบแผนที่แน่นอน และขาดจินตนาการตามฝัน งานแนว Surrealism จึงเสมือนหนึ่งการปฏิวัติศิลปกรรม เพราะมักมาจากวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่น่าจะนำมาประดิษฐ์อะไรเช่นนี้ได้ ดูไร้เหตุผล และแปลกประหลาด
Flower Shell by Marx Ernst
ศิลปินแนว Surrealism ที่โดดเด่นที่สุดแห่งยุคคงไม่มีใครเกิน Salvador Dali ศิลปินชาวสเปน ที่เกิด ณ เมือง Figures แคว้น Catalonia เขาเกิดวันที่ 11 พฤษภาคม 1904 ในครอบครัวคนชั้นกลาง พ่อของเขาเป็นคนค่อนข้างเข้มงวด แต่แม่ของเขาก็สนับสนุนให้เป็นศิลปิน แม้บิดาเขาจะไม่ชื่นชอบที่จะให้เขาเป็นศิลปิน แต่ก็ยอมให้เขาเข้าเรียนทางด้านศิลปะในปี 1916 และปล่อยให้เขาไปเรียนรู้ศิลปะกับ Ramon Pichot ที่ Cadaques เมืองชายฝั่งทะเลสเปน และในปารีส หลังจากนั้นเพียงปีเดียว เขาก็สามารถที่จะจัดนิทรรศการที่บ้านตัวเองโดยนำเสนอผลงานในรูปแบบภาพร่างด้วยดินสอ และในอีก 3 ปีต่อมาเขาก็จัดนิทรรศการแสดงผลงานของตัวเองที่ศาลาว่าการเมือง Figueres
The Silver Chasm by Rene Magritte
หลังจากมารดาเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมเมื่อเขาอายุเพียง 16 ปี และบิดาแต่งงานใหม่กับน้าสาว เขาก็ย้ายไปอยู่มาดริด และเข้าเรียนศิลปะที่ Real Academia de Bellas Artes de San Fernando เขาเริ่มให้ความสนใจกับการวาดภาพแนว Cubism และได้มีโอกาสทำหนังสือเกี่ยวกับศิลปะเล่มแรกในชีวิตในปี 1924 หลังจากนั้นเขาสามารถจัดนิทรรศการผลงานของตัวเองอยู่เนืองๆ แต่ในปี 1926 เขากลับถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยก่อนสอบปลายภาค เพราะผลงานศิลปะของเขาปฏิวัติวงการมากเกินไป เขาจึงเดินทางไปปารีสและพบกับ Picasso ซึ่งทำให้งานของเขาได้รับอิทธิพลจาก Picasso อย่างมาก หลังจากได้พบกับ Elena Ivanovna Diakonova หรือ Gala หญิงชาวรัสเซียซึ่งต่อมาเป็นภรรยาของเขาในปี 1929 ผลงานของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นแนว Surrealism และเริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนสงครามโลกจะปะทุขึ้น เขาและภรรยาก็ย้ายไปอยู่สหรัฐ และย้ายกลับมาอยู่ที่ Cadaques หลังสงครามสงบลงในปี 1948 นับจากนั้นมาเขาก็สร้างสรรค์งานออกมามากมาย ทั้งในด้านทัศนศิลป์ และประติมากรรมจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและได้รับการสถาปนาเป็น Marquess of Dalí de Púbol จากพระเจ้า Juan Carlos แห่งสเปน
And the Breast were dying by Joan Miro
แม้ใน Berardo Museum จะมีผลงานของ Dali เพียงชิ้นเดียว แต่ WhiteAphrodisiac Telephone ชิ้นนี้ก็มีอัตลักษณ์ชนิดที่นักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับของเขาเห็นปุ๊บก็บอกได้อย่างมั่นใจเลยว่าเป็นผลงานของเขาแน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีงานแนว Surrealismที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ คาดไม่ถึง และไร้รูปแบบส่งผลให้ผู้ชมรู้สึกกระหายใคร่รู้และสนุกสนานไปกับการชมงานอีกหลายชิ้น เช่นFigure the bourgie และ And the Breast were dying ของ Joan Miro ศิลปินผู้โด่งดังอีกคนชาวสเปน Woman attack by bird ของ Andre Masson, Flower Shell ของ Marx Ernst และ The Silver Chasm ของ Rene Magritte
Woman attack by bird by Andre Masson
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี