งานแนว British Pop Art
Pop Art คือการเคลื่อนไหวทางศิลปะที่ถือกำเนิดขึ้นในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1950 แนวทางศิลปะนี้ท้าทายแนวทางศิลปะดั้งเดิมเพราะมีการนำเอาภาพในจินตนาการของสิ่งที่เป็นที่นิยม หรือวัฒนธรรมพื้นฐานในชีวิตรวมเข้ามาอยู่ในภาพเขียนหรือผลงานศิลปะต่างๆ ด้วย เช่น ภาพโฆษณา ภาพการ์ตูน วัสดุอุปกรณ์ทั่วไป อาทิ กล่องกระดาษใส่ของ เป็นต้น แนวทางศิลปะ Pop Art ที่เน้นการใช้ความซ้ำสิ่งด้อยค่าหรือน่าเย้ยหยัน มาทำการใหม่ให้ได้งานจิตรกรรม หรือประติมากรรมที่มีเนื้อหาที่แปลกแตกต่างจากเดิม และน่าสนใจมากขึ้นนี้ถือกำเนิดขึ้นจากปฏิกิริยาตอบโต้กับศิลปะที่กำลังโด่งดังในช่วงเวลาเดียวกันนั่นคือ AbstractExpressionism แนวทางศิลปะนี้ใกล้เคียงกับ Dadaism และเป็นต้นกำเนิดของแนวทางศิลปะที่เรียกว่า Postmodern Art
Judy Garland by Andy Warhol
คำว่า Pop Art ถือกำเนิดขึ้นจาก Lawrence Alloway นักวิจารณ์ศิลป์ชาวอังกฤษอธิบายถึงเนื้อหางานที่มีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมที่กำลังเป็นที่นิยม British Pop Art นั้นมีการพัฒนาอย่างเป็นอิสระจากประเทศอื่นในภาคพื้นยุโรป ทั้งนี้เพราะในช่วงเวลานั้นอังกฤษเป็นเพียงชาติเดียวที่ศิลปินมีความใกล้ชิดกับสหรัฐฯ แนวทางศิลปะแบบ Pop Art นี้ฟากยุโรปมองว่าเป็นเหมือนงานขยะ เน้นการค้ามากกว่าความเป็นศิลปะ แม้ศิลปะแนวนี้อาจดูหยาบในความเห็นของศิลปินภาคพื้นยุโรป แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในอังกฤษ Berardo Museum ก็มีงานจากศิลปินอังกฤษอยู่ไม่น้อย เช่น Celia Birtwell and some of her Heroes by Pauline Boty ผู้ก่อตั้ง Pop Art อังกฤษ Picture Emphasizing Stillness by David Hockney อังกฤษ Take Away by Antony Donaldson อังกฤษ และ La Sheer by Allen Jones
Virnaburger by Mel Ramos
ส่วนทางสหรัฐฯ นั้น แนวทางศิลปะ Pop Art American ที่เน้นการเล่นกับสื่อโฆษณาที่มีอยู่เดิมทำให้แนวทางศิลปะนี้เข้าใจง่าย ไม่ต้องการตีความเลยเข้ากันได้ดีกับชาวอเมริกันชนชาติที่ชอบการบริโภคจึงเปลี่ยนมือง่าย และเป็นที่นิยม ศิลปินแนว Pop Art ที่โดดเด่นที่สุดในประเทศและในโลกคงไม่มีใครเกิน Andy Warhol เขาเกิด ณ เมือง Pittsburg รัฐ Pennsylvania ในครอบครัวชนชั้นกรรมาชีพที่อพยพมาจากประเทศสโลวาเกีย เมื่อเขาเรียนอยู่ชั้นประถม 3 เขาป่วยเป็นโรค Sydenham’s chorea โรคทางระบบประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติส่งผลให้เขาต้องใช้เวลาอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่ เขาจึงเริ่มให้ความสนใจกับการฟังวิทยุและสะสมภาพดาราภาพยนตร์ ช่วงเวลานี้เองที่ทำให้เขาได้พัฒนาบุคลิกภาพและความชอบ เมื่อเขาเข้าเรียน Schenley High School เขาสามารถชนะรางวัล Art and Writing Award และเข้าเรียนด้านศิลปะที่มหาวิทยาลัย Pittsburgh ด้วยความหวังจะเป็นครูสอนศิลปะ แต่ภายหลังเขาย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ทางด้าน Commercial art แทน และเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ CampusModern Dance Club and Beaux Arts Societyและ Student Art Magazine หลังจบปริญญาตรีด้านศิลปะศาสตร์เอกการออกแบบ เขาก็ย้ายไปอยู่นิวยอร์กและเริ่มงานกับนิตยสารในตำแหน่งออกแบบและโฆษณา
La Sheer by Allen Jones
ช่วงสิบปีแรกที่ทำงาน Warhol ใช้เวลาส่วนใหญ่กับงานโฆษณา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มวาดรองเท้าให้ Israel Miller รูปร่างของรองเท้าที่เขาวาดแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เป็นที่พอใจของเจ้าของโรงงาน เขายังเป็นศิลปินคนแรกที่ใช้ขบวนการพิมพ์บนผ้าไหม (Silk screen printmaking) จนพัฒนามาเป็นอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา ในช่วงทศวรรษที่ 1960 เขาเริ่มนำภาพศิลปินดังๆ เช่น Marilyn Monroe, Elvis Presley, Marlon Brando, Elizabeth Taylor มาเป็นส่วนหนึ่งของงาน และงานเหล่านี้นี่เองที่สร้างชื่อให้เขาและศิลปะแนว Pop Art จนเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แม้นักวิจารณ์ศิลป์บางคนจะบ่นว่า Warhol เป็นศิลปินที่มีความเป็นพ่อค้ามากเกินไป แต่การที่เขาสามารถสร้างงานที่มีเอกลักษณ์จากภาพของดาราภาพยนตร์ และคนมีชื่อเสียงทำให้ผลงานของเขากลับเป็นที่นิยมอย่างมากส่งผลให้ผลงานของเขาบางชิ้นขายได้เป็นร้อยล้านเหรียญ เช่น Silver Car Cash ซึ่งถูกประมูลไปในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2013 ณ Sotheby’s Contemporary Art เป็นเงินมากถึง 105.4 ล้านดอลลาร์
ประวัติของ Andy Warhol คงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสชื่นชมผลงานของเขาว่าคนเราไม่ว่าเกิดที่ใด ยากจนเพียงใด หากมีความสามารถแรงบันดาลใจและโอกาส ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จอย่างที่แม้แต่จะฝันก็ยังไม่กล้าได้ทั้งนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี