วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สังคมทุกวันนี้ คงหลีกหนีไม่พ้น เรื่องของการใช้โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะว่า สะดวก สบาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ ช็อปปิ้งซื้อสินค้า การค้นคว้าหาข้อมูล เล่นเกมส์ ดูการ์ตูน หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งล้วนให้สาระ ความรู้ และความบันเทิงในสังคมยุคปัจจุบัน
จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า การใช้คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต และโทรศัพท์มือถือของประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป ประมาณ 63.3ล้านคน พบว่า มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์17.9 ล้านคน ผู้ใช้อินเตอร์เนต 36.0 ล้านคน และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 56.7 ล้านคน ส่วนกิจกรรมที่ใช้ส่วนใหญ่ใช้ Social Network ร้อยละ 94.1 รองลงมาคือ ใช้ในการดาวน์โหลด รูปภาพ/หนัง/วีดีโอ/เพลง/เกม เล่นเกม ดูหนังฟังเพลง วิทยุ ร้อยละ 89.3 ใช้ในการอัพโหลดข้อมูล รูปภาพ/ภาพถ่าย วีดีโอเพลง Software ฯลฯ เพื่อการแบ่งปัน (share) บนเว็บไซต์ ร้อยละ 57.0 และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ร้อยละ 45.2 ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนใช้สายตาเพ่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เฉลี่ยวันละ 7.2 ชั่วโมง ส่งผลให้กลายมาเป็นสังคมก้มหน้า
สังคมก้มหน้า ทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญอยู่และหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเข้ามามีบทบาทอย่างมาก หากเราใช้โซเชียลอย่างถูกวิธีย่อมจะก่อให้เกิดผลดี และผิดวิธีย่อมเกิดผลเสีย
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี แพทย์เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์ (occupational medicine) และดูแลสุขภาพของคนทำงานไม่ว่าจะเป็น กายภาพ และสรีระ เปิดเผยว่า จากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมง จะส่งผลให้กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก เมื่อย เกร็งตลอดเวลา กระบังลมขยายไม่เต็มที่ สมองได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำให้เกิดอาการง่วง หากมีอาการเครียดร่วมด้วยจะส่งผลรุนแรงตามมา
สำหรับแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเลต จากการใช้งาน อาทิ การใช้เฟชบุ๊คไลน์ วอทแอพ และวีแซต ฯลฯ อย่างถูกวิธี คือ 1.ควรมีการพักสายตาโดยการเปลี่ยนอิริยาบถต่างๆ พักเบรกยืดเส้นยืดสายระหว่างการใช้โซเชียล 2.ลุกขึ้นเดินไปมา3.ควรนั่งเล่นในสถานที่มีแสงสว่างเพียงพอ และอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป 4.ต้องหาที่นั่งเล่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายตัว
นัยธาดา นันทน์วิธู หรือ เคนจิ กรรมการบริหาร บริษัท ทีมเฟอร์น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตเก้าอี้หนังปรับนอนแบรนด์ เซเดอร์เร่ ( ZEDERE ) เปิดเผยว่าเก้าอี้หนังปรับนอนเซเดอร์เร่เป็นเก้าอี้หนังปรับนอน เพื่อสรีรศาสตร์ ซึ่งได้รับการรับรองจากนักสรีรศาสตร์ว่า เป็นเก้าอี้ที่สามารถช่วยผ่อนคลายสรีระต่างๆ เป็นอย่างดี ในยุคสมัยของสังคมก้มหน้าทุกวันนี้ ตนขอแนะนำเก้าอี้หนังปรับนอนที่เหมาะสมแก่การนำมาติดไว้ที่บ้าน เพื่อผ่อนคลายสรีระของผู้ที่ใช้โซเชียลมาทั้งวัน คือ เก้าอี้หนังปรับนอน “เวอร์ร่า” หรือ (Verra) เพราะจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ ปวดศีรษะ และอาการไมเกรน
เก้าอี้หนังปรับนอน เวอร์ร่า หรือ (Verra ) แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป ในด้านการออกแบบๆ มาในลักษณะรูปทรงของเปลือกกุ้ง มีหมอนรองรับบริเวณต้นคอ และศีรษะตอนล่าง ( lower black )ตลอดเวลานั่ง ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ และไมเกรน ที่สำคัญตัวหมอนสามารถปรับได้ตามความสูงของผู้ใช้งาน และตัวเก้าอี้สามารถปรับเอนนอน 135 องศา ซึ่งทำให้ระบบหายใจดีขึ้น และ พักผ่อนยาวนานมากขึ้น
จากการศึกษาในต่างประเทศในเรื่องของการพักผ่อนพบว่า การนั่งบนเก้าอี้หนังปรับนอนในเวลา 15 นาที จะช่วยลดบรรเทาอาการเมื่อยล้าต่างๆ หากมีอาการไมเกรน ควรใช้เวลานั่งพักผ่อน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง อาการดังกล่าวจะดีขึ้น ทั้งนี้ การเลือกเก้าอี้หนังปรับนอน ที่เหมาะกับการใช้โซเชียลต่างๆ จึงควรตระหนักถึงในเรื่องการใช้งานนั้นๆ และสามารถช่วยดูแลในเรื่องของสุขภาพอย่างไรเป็นสิ่งสำคัญ
การที่เราใช้โซเชียลในการสื่อสารมากขึ้นเท่าใด ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติเราคนไทยทุกคนควรพร้อมใจกันเดินหน้าเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างชาญฉลาด เพื่อไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกายของเราตามมา และหากมีความจำเป็นต้องใช้โซเชียลในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรมองหาตัวช่วยที่ดี ดูแลสุขภาพของเราต่อไป เพื่อให้ทันต่อยุคสมัยไทยแลนด์ 4.0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี