จากความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้มนุษย์มีอายุยืนยาวนานขึ้น รวมทั้งมีจำนวนของผู้หญิงวัยทองมากขึ้นด้วย การส่งเสริมการดูแลสุขภาพของผู้หญิงวัยทองจึงมีความสำคัญมาก อายุเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วโลกที่จะหมดประจำเดือนอยู่ที่อายุ 50 ปี การเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงในผู้หญิงก่อนที่จะเข้าวัยทองรวมทั้งการดูแลป้องกันการเกิดโรคที่เกิดจากการเสื่อมที่มีผลมาจากการขาดฮอร์โมนเพศและการให้ฮอร์โมนทดแทนที่ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยจึงมีความจำเป็น
ข้อมูลจาก ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ กรรมการบริหาร มูลนิธิคุณแม่คุณภาพเปิดเผยว่า โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงวัยทองที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย สามารถที่จะดูแลสุขภาพของตนเองได้ด้วยหลักการของเวชศาสตร์ชะลอวัย อันได้แก่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิต การควบคุมอาหารและการได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและพอเพียง การออกกำลังกายเป็นประจำ และการปรับสภาพจิตใจ ( Mindfulness) ซึ่งมีหลักการง่ายๆ คือ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีแคลเซียม แมกนีเซียม และสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ลดหรืองดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์สูง เพิ่มอาหารที่มีเส้นใย ดื่มน้ำสะอาด และพักผ่อนให้พอเพียง มีการควบคุมอารมณ์และฝึกการมองโลกในแง่บวก มีอารมณ์ที่แจ่มใสออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งนานครั้งละ 30 นาที ตรวจสุขภาพประจำปีและรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นประจำ พักอาศัยและทำงานในบริเวณที่มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและสุขอนามัยดี
ในกรณีที่ได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตแล้วแต่ยังคงมีอาการของวัยทองที่ทำให้คุณภาพชีวิตเลวลง หรือมีโรคที่เกี่ยวข้องกับวัยทองควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการดูแลรักษา แม้ว่าในปัจจุบันการดูแลรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมนทดแทนจะยังคงเป็น Gold Standardในการรักษาผู้หญิงวัยทองที่มีอาการ แต่วัตถุประสงค์เปลี่ยนไปเป็นการใช้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพตามหลักการของการดูแลวัยทองแบบบูรณาการ
แนวทางการให้ฮอร์โมนทดแทนในผู้หญิงวัยทอง
การให้ฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยทองได้มีการใช้มานานแล้วโดยในปัจจุบันมีชื่อเรียกที่เป็นทางการว่า Menopausal Hormone Therapy (MHT) ผลของการใช้ฮอร์โมนทดแทนที่ถูกต้องและเหมาะสมนั้นได้ผลดีในหลายๆ อาการไม่ว่าจะเป็นการลดอาการร้อนวูบวาบ อาการซึมเศร้า ความจำเสื่อม ปัญหาทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะและระบบเจริญพันธุ์ รวมทั้งมีผลต่อการเพิ่มมวลเนื้อกระดูก และสามารถที่จะป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้ถ้าเริ่มมีการใช้ฮอร์โมนทดแทนแต่เนิ่นๆก่อนที่จะเกิดปัญหา
อย่างไรก็ตามหลังจากการศึกษาของ Women Health Initiative หรือ WHI ได้มีการปรับปรุงแนวทางในการให้ฮฮร์โมนทดแทนที่เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับ และมีความปลอดภัยสูง จากองค์กรทางการแพทย์นานาชาติ ได้แก่ สมาคมวัยหมดระดูนานาชาติ (International Menopause Society) สมาคมวัยหมดระดูแห่งอเมริกาเหนือ (North American
Menopause Society) สหพันธ์วัยหมดระดูแห่งเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Menopause Federation) รวมทั้งสมาคมวัยหมดระดูแห่งประเทศไทย (Thai Menopause society)
การตรวจประเมินก่อนการดูแลรักษาผู้หญิงวัยทอง
ผู้หญิงวัยทองที่จะเข้ารับการดูแลรักษาจะต้องได้รับการตรวจประเมินเบื้องต้นอันได้แก่ การซักประวัติและตรวจร่างกายรวมทั้งการตรวจภายในและการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง ประวัติของการใช้ฮอร์โมนทดแทนมาก่อน ประวัติของการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งทางนรีเวชในครอบครัว รวมทั้งประวัติของการมีโรคที่เกี่ยวข้องกับการอุดตันเส้นเลือดและโรคหัวใจ การตรวจเบื้องต้นที่จำเป็นนั้นจะต้องตรวจหาระดับของฮอร์โมนเพศในเลือด เช่น Estradiol,Progesterone, FSH, LH, Testosteroneการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์ การตรวจหาความหนาแน่นของมวลเนื้อกระดูก รวมทั้งการทำงานของตับ ไต ระดับไขมันในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด
ข้อบ่งชี้และข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนทดแทน
สำหรับข้อห้ามในการใช้ที่สำคัญได้แก่ การมีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมในมารดา หรือ กำลังเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการสงสัยว่าจะเป็นหรือกำลังได้รับการรักษา มีประวัติหลอดเลือดอุดตัน มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาหรือมีประจำเดือนออกผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ
การให้ฮอร์โมนทดแทนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลรักษาผู้หญิงวัยทองและถือเป็น Gold Standard ในการดูแลรักษาผู้หญิงวัยทองที่เกิดอาการ การให้ฮอร์โมนทดแทนนั้นใช้การพิจารณาการให้ในผู้หญิงวัยทองเป็นรายๆ ไปตามความจำเป็นและความเหมาะสม รวมทั้งข้อบ่งชี้และความเสี่ยงในแต่ละราย ดังนั้นก่อนให้การรักษาผู้มารับบริการจะต้องได้รับความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนทั้งประโยชน์ที่จะได้รับและความเสี่ยงรวมทั้งอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการพิจารณาร่วมกันเพื่อที่จะเลือกวิธีการให้และชนิดของฮอร์โมนทดแทน
ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนก่อนอายุ 40 ปีไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองหรือถูกตัดรังไข่ไปทั้งสองข้างจะต้องได้รับฮอร์โมนทดแทนในทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาของหัวใจและหลอดเลือด
ผู้หญิงวัยทองทุกคนที่ได้รับฮอร์โมนทดแทนจำเป็นจะต้องได้รับการตรวจติดตามการรักษาอย่างน้อยปีละครั้ง และการให้ฮอร์โมนทดแทนนั้นไม่ได้มีข้อห้ามในเรื่องของเวลาในการใช้สามารถใช้ได้ต่อเนื่อง ขนาดของฮอร์โมนทดแทนนั้นจะต้องใช้ในปริมาณที่น้อยที่สุดเท่าที่จะออกฤทธิ์ ผู้หญิงวัยทองแต่ละรายจะมีการตอบสนองต่อระดับของฮอร์โมนทดแทนไม่เท่ากันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับระดับของฮอร์โมนทดแทนเพื่อที่จะได้ผลดีที่สุดในปริมาณของฮอร์โมนที่น้อยที่สุด
สตรีวัยทองทุกคนที่ยังคงมีมดลูกอยู่จำเป็นจะต้องได้รับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนร่วมด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้แบบต่อเนื่องหรือเป็นช่วงเวลาของรอบเดือน ในกรณีที่มีอาการของการขาดฮอร์โมนเพศชายจำเป็นจะต้องให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเสริมเข้าไปด้วย
วัยทองของผู้หญิงนั้นเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของชีวิต การปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระเบียบระบบจึงเป็นแนวทางการดูแลรักษาตนเองที่เหมาะสม รวมทั้งการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงในผู้หญิงก่อนที่จะเข้าวัยทองและการดูแลป้องกันการเกิดโรคที่เกิดจากการเสื่อมที่มีผลมาจากการขาดฮอร์โมนเพศและการให้ฮอร์โมนทดแทนที่ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยจึงมีความจำเป็นมากขึ้น
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี