นักท่องเที่ยวที่ไปย่าน Belem กรุงลิสบอน โปรตุเกส นอกจากจะไปถ่ายรูปกับ Monument of Discoveries, Tower of Belem และเยือน Berardo Museum แล้ว ที่นี่ยังมีมิวเซียมสำคัญอีกแห่งหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมสวยๆ และเทคโนโลยีห้ามพลาดนั่นคือ MAAT มิวเซียมที่มีชื่อเต็มว่า Museum of Art,Architecture and Technology ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 5 ตุลาคม 2016 นี้เป็นมิวเซียมที่ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่สำหรับโครงการวัฒนธรรมของลิสบอนโดยมีมูลค่ากว่า 20 ล้านยูโร อาคารที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Tagus ทางทิศตะวันตกของเมืองนี้มีลักษณะพิเศษหนึ่งตรงที่มีการเชื่อมระหว่างอาคารใหม่กับโรงไฟฟ้า Tejo เดิมส่งผลให้มิวเซียมแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่แห่งคริสต์ศตวรรษ
มิวเซียมที่ถูกออกแบบโดย Amanda Levete สถาปนิกเลื่องชื่อจากอังกฤษผู้ได้รับรางวัล Stirling และเป็นผู้ชนะการออกแบบทางเข้าใหม่ด้านสนามของ Victoria Albert Museumกรุงลอนดอนนี้ถูกออกแบบได้อย่างโดดเด่นและมีความหมายโดยให้ส่วนหน้าสุดคล้ายหัวเรือ และมีหน้าบรรณยาวๆ แบบงูเลื้อยโดยใช้กระจกทำเป็นหลังคาเพื่อสะท้อนแสงให้คล้ายกับเกล็ดงูมิวเซียมที่สถาปนิกออกแบบอย่างล้ำสมัยด้วยคอมพิวเตอร์นี้เน้นใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ทำจากภายในท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหินปูนซึ่งเป็นวัสดุที่มีชื่อเสียงในการทำกระเบื้องของเมืองลิสบอนเพื่อสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมของเมือง โครงการที่ประกอบด้วยพื้นที่ในการจัดนิทรรศการมากถึง 3 พันตารางเมตร และพื้นที่สาธารณะอีก 7 พันตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำนี้ถูกออกแบบเพื่อสะท้อนวัฒนธรรมอันยาวนานของโปรตุเกส ร่วมไปกับความร่วมสมัยของคริสต์ศตวรรษที่ 21 โดยส่วนของหลังคาจัดเป็นทางเดินที่เห็นทิวทัศน์ทั้งตัวเมืองและแม่น้ำได้
ยิ่งกว่านั้นเพื่อให้มิวเซียมเป็นสถานที่สะท้อนความอลังการได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลจึงให้ส่วนภูมิทัศน์ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญพิเศษต่างหาก นั่นคือ Vladimir Djurovic นักภูมิสถาปัตย์ชาวเลบานอน ผู้ออกแบบ King Hussein Memorial Garden สวนที่ระลึกถึงพระเจ้าฮุสเซนแห่งจอร์แดน Aga Khan Museum + Ismaili Center in Toronto การที่รัฐบาลเลือก Djurovicนักภูมิสถาปัตย์มาออกแบบเป็นพิเศษคงเป็นเพราะเขาเป็นคนที่มีตรรกะในการออกแบบสวนโดยใช้ธรรมชาติเป็นศูนย์กลาง นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนมิวเซียมจึงไม่เพียงจะได้ชื่นชมกับศิลปะ แต่ยังมีโอกาสได้สัมผัสดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบๆ อีกต่างหากด้วย
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมิวเซียมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทั้งเก่าและใหม่ ส่วนเก่าที่เป็นอาคารโรงไฟฟ้า Tejo เดิมนั้นมีการจัดแสดงนิทรรศการแบบ Interactive โดยรวมเอาส่วนห้องต้มความดันต่ำ ห้องเครื่องจักรไอน้ำ และห้องทำงานประจำวันสำหรับการบริหารจัดการโรงไฟฟ้า อีกทั้งยังมีการจัดแสดงปฏิบัติการของเครื่องยนต์ที่ใช้ถ่านหิน และคนงานที่กำลังทำงานกับถ่านหินไว้ให้ชมด้วย เครื่องจักรที่จัดแสดงล้วนเป็นของเก่าที่เคยทำงานอยู่ และได้มีการฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพดีใช้งานได้ นอกจากนี้ส่วนโรงไฟฟ้ายังมีการจัดแสดงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตัวอย่างการทดลองเพื่อทดสอบความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับไฟฟ้า การกำเนิดไฟฟ้า และเรื่องราวของ MichaelFaraday ผู้ให้กำเนิดไฟฟ้าเคมีอีกต่างหาก
ส่วนอาคารใหม่ก็จะเป็นงานเกี่ยวกับ Contemporary Art เป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีความล้ำสมัยไม่น้อยไปกว่าตัวอาคารเลย หลังจากชื่นชมสถาปัตยกรรมภายนอกและของจัดแสดงภายในแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินริมน้ำที่มีสะพาน 25 de Abril ที่สวยที่สุดของลิสบอนตั้งตระหง่านอยู่อีกต่างหากด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี