ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน อากาศยามดึกจนถึงใกล้รุ่งสางบนยอดดอยอินทนนท์ลดลงเหลือต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส ฝนที่เคยตกหนักมาก่อน เริ่มจางหายไป แม้บางวันอาจจะยังมีฝนเทลงมาอย่างหนักบ้างก็ตาม แต่ก็ถูกมองว่าเป็นช่วงสุดท้ายปลายฤดูฝนในเขตภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยแล้ว
นั่นหมายถึงหน้าหนาวของประเทศไทยในเขตภาคเหนือตอนบนเริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อลมหนาวเริ่มโชยมาก็ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบความหนาวเย็นต่างเตรียมตัวจะขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนยอดดอย เนื่องจากไม่สามารถหาไอเย็นจัดๆ ได้จากธรรมชาติในพื้นที่ราบลุ่มทั่วไป แม้จนกระทั่งในตัวเมืองเชียงใหม่เองก็ตามที
ถ้าเช่นนั้น หน้าหนาวนี้ เราไปเที่ยวโครงการหลวงอินทนนท์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยกันดีกว่า
หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี ทรงกล่าวถึงโครงการหลวงอินทนนท์ ในบทพระนิพนธ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับโครงการหลวงว่า “ศุภนิมิตอันดีของโครงการหลวงอินทนนท์ก็เพราะถือกำเนิดหนึ่งวันหลังวันเฉลิมพระชนมพรรษาวันเฉลิมฯ ปี พ.ศ.2522 ทรงเชิญคณะรัฐมนตรีไปรับพระราชทานเลี้ยงร่วมกับข้าราชบริพารที่พระราชวังบางปะอิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งถามผู้เขียนว่า เรื่องดอยอินทนนท์เป็นอย่างไร และเมื่อทราบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็มีรับสั่งกับนายกรัฐมนตรี พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ หลังจากงานพระราชทานเลี้ยงผู้เขียนขับรถกลับกรุงเทพฯ เข้านอนยังไม่หลับดีก็ได้รับโทรศัพท์ว่ารุ่งขึ้นเช้า วันที่ 6 ธันวาคม 2522 ท่านนายกฯขอให้ร่วมคณะบินไปดอยอินทนนท์ คณะของนายกรัฐมนตรีประกอบด้วย รมต.สำนักนายก รองเลขาฯนายกฯ ผู้เขียน อธิบดี 4 กรม เลขาธิการปฏิรูปที่ดิน และผู้ว่าราชการเชียงใหม่ ข้าราชการท้องที่ เช่นนายอำเภอ ตำรวจ และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติขึ้นไปสมทบที่บังกะโลป่าไม้ขุนกลาง”
จากป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์แล้วกลับกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม เพราะการบุกรุกตัดไม้ ทำไร่เลื่อนลอย จนกระทั่งในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชประสงค์ให้ป่ากลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม และเพื่อช่วยเหลือให้ชาวบ้านซึ่งอยู่บนเขตภูเขาสูงมีที่ทำกินเป็นหลักแหล่งถาวร เพื่อจะได้มีชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยการทำการเกษตรแบบถาวร ดังนั้น การจัดตั้งสถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 ที่บริเวณบ้านขุนกลาง สถานีวิจัยแห่งนี้ดำเนินงานด้านไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผัก และผลไม้ เมื่อวิจัยจนสำเร็จแล้วจึงถ่ายทอดความรู้ไปยังชาวบ้าน จนสามารถทำให้ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อชาวบ้านมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือกับสถานีวิจัยฯ เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ต้นน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ จนกระทั่งปี 2550 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสถานีเกษตรหลวง อินทนนท์
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ในวันนี้คือสถานที่ดำเนินงานวิจัยด้านไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผัก ผลไม้เมืองหนาว พืชผักอินทรีย์ ไม้ผลเมืองร้อน กาแฟ รวมถึงงานประมงบนพื้นที่สูงด้วย ภารกิจอีกประการหนึ่งของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์คือการพัฒนา และส่งเสริมให้ชาวบ้าน
เพาะปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ด้วยระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพภาคการเกษตร และเพิ่มความเข้มแข็ง รวมถึงเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชน ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง รัชกาลที่ 9
Mr. Flower เพิ่งไปเที่ยวชมโครงการหลวงอินทนนท์มาเมื่อต้นเดือนตุลาคม แม้ในวันที่ไปนั้น จะเจอกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานานพอสมควร แต่การได้นั่งมองสายฝนอยู่ในร้านอาหารของโครงการหลวงฯ พร้อมกับได้รับประทานอาหารรสชาติดีเยี่ยมของที่นี่ แล้วได้พูดคุยกับพนักงานของร้านอาหารในโครงการหลวงฯ ซึ่งส่วนมากเป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ ซึ่งก็คือคนไทยบนที่สูง คุยกันได้สักระยะหนึ่ง ผู้เขียนก็ถามพวกเขาว่า “สูคิดถึงพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 มากไหม” คำตอบที่ได้รับคือ “หมู่เฮาคิดถึงพ่อหลวงของเฮามากที่สุด และคิดถึงเปิ้นทุกวัน หมู่เฮามีชีวิตที่สุขสบายได้ทุกวันนี้ก็เพราะเปิ้น หมู่เฮารักเปิ้นขนาด”
แม้ภาพประกอบในคอลัมน์นี้จะไม่มีภาพรอยยิ้มแห่งความคิดถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 จากคนไทยบนที่สูง แต่ภาพป่าไม้ที่เขียวขจีท่ามกลางสายฝน และภาพพืชผักริมทางก่อนถึงร้านอาหาร รวมถึงภาพอาหารรสชาติอร่อยที่นำมาฝากคุณๆ ในสัปดาห์นี้ คงทำให้คุณผู้อ่านคิดถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 และคุณๆ คงอยากจะไปเที่ยวโครงการหลวงอินทนนท์ เพื่อจะได้ไปร่วมสัมผัสอากาศหนาว และเพื่อไปเที่ยวชมโครงการจากน้ำพระทัยของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9
ผู้ที่สนใจร่วมทริปเที่ยวชมโครงการหลวงอินทนนท์กับ Mr. Flower และเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ด้วยกัน โปรดติดต่อ091-7233615 ทริปนี้จะเดินทางช่วงกลางเดือนธันวาคมรับสมาชิก 15 ท่านเท่านั้นครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี