ภาพบรรยากาศของการแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุด “ศึกกุมภกรรณ” ตอน ปริศนาอสุรี-ขุนกระบี่หลงกล จากเยาวชน ที่จัดแสดงขึ้นใน วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2561 ณ โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ ที่ผ่านมานั้น สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ฯ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และนั่นหมายถึงความภาคภูมิใจในการส่งต่อโขนไทยให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไปในอนาคต
ถึงแม้การประกาศอย่างเป็นทางการของ ยูเนสโก (UNESO) ที่จะขึ้นทะเบียนโขนไทยเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของมวลมนุษยชาติ ในปี 2561 ยังมาไม่ถึง แต่สิ่งสำคัญคือคนไทย ต่างรู้ว่า โขนไทยเป็น “มรดกเรา” ที่สืบทอดกันมาช้านาน ผ่านลมหายใจของเยาวชนและคนโขนรุ่นต่อรุ่นจนมาถึงปัจจุบัน
มูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ฯ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกหนึ่งหน่วยงานที่ผู้ทำงานเป็นครูอาจารย์ทางศิลปะไทยที่มีความเชื่อตรงกับที่ศาสตราจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ว่า “เยาวชนไทยในยุคปัจจุบันนี้ ในธาตุแท้ก็ยังเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ ถ้าหากว่ามีการชักจูงให้ความเป็นไทยในตัวนั้น ปรากฏออกมาด้วยศิลปะของไทยอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ความเป็นไทยในตัวของเยาวชนก็จะปรากฏออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดโดยรวดเร็วฉับพลัน อย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น”เหตุนี้ทำให้ทุกปีมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ฯ จะจัดงานแสดงโขนเพื่อให้เยาวชนที่เข้ามาเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมของไทย ได้มีโอกาสได้แสดงระดับโรงละครใหญ่ของประเทศทุกปี
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ฯ กล่าวหลังจากการแสดงโขนจบลงว่า “ทางด้านการสืบต่อมรดกของเราที่เป็นศิลปะของชาติไทยให้ลูกหลานเราทำได้สำเร็จและต่อเนื่อง จาก 8 ปีก่อนที่เคยเริ่มเปิดสอนนาฏศิลป์ไทยปีแรกมีมาเรียน 70 คน ตอนนี้ 700 คนแล้ว ถ้าไปที่สถาบันคึกฤทธิ์ในวันอาทิตย์เวลา 09.00-12.00 น. คุณจะเห็นคน 700 คนที่นั่น ส่วนหนึ่งประมาณ 150 คน เรียนดนตรีไทย อีกส่วนหนึ่งเรียนละครรำ แล้วส่วนใหญ่เรียนโขนมีทั้งโขนยักษ์ โขนลิง กระจายเต็มพื้นที่ของเรา และไปที่ สสส.ด้วย ทาง สสส. นี่กรุณาเรามากให้ทั้งสถานที่สอน และยังให้เงินสนับสนุนเราปีๆ หนึ่งถ้าไม่ได้เงินจาก สสส. เรานี่ไม่มีเงินจ้างครูเพราะครูของเราจะเป็นครูระดับศิลปินแห่งชาติทั้งนั้น ผมเชื่อว่าการสอนเราไม่ต่างจากกรมศิลปากร ครูของเราพยายามสอนแบบแผนโขน ละครรำ ดนตรีไทย ตามแบบแผนเดียวกับกรมศิลปากร พวกครูจะมาสอน ประมาณ 40 คน ในวันอาทิตย์จะแบ่งสอนกัน เราสอนให้กับเด็กทุกคนที่รักศิลปะไทย โดยไม่คิดค่าเล่าเรียน เพราะค่าเรียนคือ มรดกศิลปะของชาติเราถูกส่งต่อไปเก็บไว้ในตัวลูกหลานแล้ว”
ส่วน ครูต้อย-จตุพร รัตนวราหะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์-โขน) ลูกศิษย์เอกของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ที่ยังคงถ่ายทอดวิชาการรำโขนให้กับเยาวชนไทยที่สถาบันคึกฤทธิ์ทุกวันอาทิตย์มาตลอด 8 ปี ได้กล่าวว่า
“การขึ้นทะเบียนโขนไทยของยูเนสโก (UNESO) ถ้าขึ้นทะเบียนครูก็ดีใจนะ เพราะทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาชนจะได้เห็นคุณค่ามากขึ้น แต่ถึงไม่ขึ้นทะเบียนก็ไม่เป็นไร เพราะศิลปะไทย อย่าง โขน นาฏศิลป์ ดนตรีไทยเป็นมรดกของเราอยู่แล้ว อยู่ที่รักษาอย่างไรให้ยั่งยืน เพราะเขาเป็นสมบัติคู่บ้านคู่เมือง เป็นรากเหง้าของเรา ครูคิดว่าตัวเองอายุป่านนี้ สอนมาก็มากทั้งที่สถาบันคึกฤทธิ์ วิทยาลัยนาฏศิลป์ และอื่นๆ ที่มาขอวิชาจากครู ครูยินดีให้อย่างมาก เพราะคนเหล่านี้คือ อนาคตที่จะสืบทอดต่องานศิลปวัฒนธรรมต่อไป ทุกวันนี้ถึงนักแสดงโขนจะมีจำนวนลดน้อยลง ครูผู้เป็นพ่อโขน แม่โขนที่สถาบันคึกฤทธิ์ก็ยังภูมิใจเมื่อมีเยาวชนให้ความสนใจมาเรียนรู้ มาฝึกฝน พ่อแม่พาลูกมาเรียนโขนต้องรอลูกทั้งวันพ่อก็ไปเรียนดนตรี แม่ไปเรียนรำหรือบางครอบครัวพี่เรียนโขนลิง น้องเรียนโขนยักษ์ บรรยากาศมันทำให้ศิลปวัฒนธรรมของเรามันมีชีวิตชีวา”
สำหรับเยาวชนโขนของไทย การนำโขนรามเกียรติ์ในชุด “ศึกกุมภกรรณ” ตอน ปริศนาอสุรี-ขุนกระบี่หลงกล ออกแสดงบนเวทีใหญ่ อย่าง โรงละครอักษรา นั้นเป็นวันที่บรรจุความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดลงในใจของเด็กๆ ทุกคนที่อยู่บนเวที ถึงวันนี้ศิลปะของโขนไทยยังไม่ได้ถูกประกาศเป็นมรดกโลก แต่ก็เป็น...มรดกเรา ที่ถูกส่งต่ออย่างภาคภูมิใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี