ปลาคืออาหารหลักชนิดหนึ่งของคนไทยมาตั้งแต่โบราณกาล จนมีคำว่า “กินข้าว กินปลา” หรือ “กับข้าว กับปลา” ในสังคมไทย ขณะเดียวกันก็มีคำว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ซึ่งแสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทย
เนื้อปลามีสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อปลาที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย โปรตีนในเนื้อปลาประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะไลซีนและทรีโอนีน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก รวมถึงไขมันจากเนื้อปลายังช่วยบำรุงเซลล์สมองของมนุษย์ และที่สำคัญเนื้อปลาย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น วัว กระบือ หมู แพะ และแกะ ดังนั้นอาหารที่ให้โปรตีนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยจึงทำจากเนื้อปลาเป็นจำนวนมาก
แนวหน้าวาไรตี้ สัปดาห์นี้ โดย ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย จะพาคุณไปคุยกับ คุณประโยชน์ โสรัจจกิจ ประธานกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ผู้เลี้ยงปลากะพงยักษ์ และประธานกรรมการ
ผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอนด์เจ อควา โปรดักส์ จำกัด ผู้บุกเบิกธุรกิจการเลี้ยงปลากะพงยักษ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันนี้ถือได้ว่าแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยเฉพาะที่ ตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อถามว่าทำไมจึงเรียกว่าปลากะพงยักษ์ แล้วกะพงยักษ์ต่างจากกะพงธรรมดาอย่างไร ? คำตอบคือกะพงยักษ์ก็คือกะพงที่ใช้เวลาเลี้ยงนานกว่ากะพงทั่วไป เช่น กะพงขนาดน้ำหนัก 15 กรัมจะใช้เวลาเลี้ยง 4 เดือน แต่กะพงยักษ์จากฟาร์มปลาของเรามีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งต้องใช้เวลาเลี้ยงนานถึงเกือบสองปี แต่หากฟาร์มอื่นที่เลี้ยงให้ได้น้ำหนัก 3 กิโลกรัม ก็เรียกกะพงยักษ์ได้เช่นกัน ดังนั้นความแตกต่างของขนาดและน้ำหนักปลาจึงอยู่ที่ระยะเวลาในการเลี้ยงเป็นสำคัญ
หลายคนอาจจะไม่ชอบทานเนื้อปลาน้ำจืด เพราะอ้างว่ามีกลิ่นคาวและมีกลิ่นโคลนด้วย แต่ขอยืนยันว่าปลากะพงยักษ์จากฟาร์มของผมไม่มีกลิ่นคาวอย่างแน่นอน เพราะเรากำจัดกลิ่นคาวได้วิธีกำจัดกลิ่นคาวในเนื้อปลาคือ เราต้องเอาเลือดออกจากตัวปลาให้หมด เพราะกลิ่นคาวมาจากเลือดของปลา เมื่อนำเลือดออกจากตัวปลาจนหมดแล้วจะได้เนื้อปลาที่มีสีขาวใส และมีรสชาติดี
แต่ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือผู้เลี้ยงปลากะพงยักษ์ต้องจัดการฟาร์มให้ดีด้วย อย่าลืมว่าเราต้องเลี้ยงปลากะพงยักษ์ด้วยเวลาที่ยาวนานเกือบสองปี ดังนั้นเรื่องการระบายถ่ายเทและเปลี่ยนน้ำจากบ่อปลาก็เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นมาก ผู้เลี้ยงต้องเตรียมบ่อให้ดี ต้องลอกบ่อเอาเลนและโคลนออกจากบ่อเป็นระยะๆเพราะหากมีเลนในบ่อมากๆ ก็จะส่งผลให้มีกลิ่นโคลนติดเนื้อปลาได้ ดังนั้นจึงต้องถ่ายเทน้ำ เตรียมบ่อให้ดี และในช่วงระหว่างเลี้ยงก็ต้องใช้จุลินทรีย์เพื่อบำบัดน้ำไม่ให้น้ำเน่าเสีย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นโคลนได้ด้วย
คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยนิยมบริโภคเนื้อปลากะพงยักษ์มากนัก แต่ในต่างประเทศนิยมบริโภคกันมาก ดังนั้นผลผลิตของเราจึงส่งขายต่างประเทศค่อนข้างมาก แต่หลังจากประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนในสังคมไทยได้รู้จักคุณประโยชน์ของปลากะพงยักษ์มากขึ้น ก็ทำให้คนไทยหันมาบริโภคปลากะพงยักษ์มากกว่าเดิม
ปัจจุบันกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ของเรามีเนื้อที่ฟาร์มปลากว่า 2,000 ไร่ปริมาณผลผลิตรวมทั้งจังหวัดตกประมาณ 6,000 ตันต่อปี และทุกวันนี้เรามีเครือข่ายผู้เลี้ยงปลากะพงยักษ์มากขึ้น ประกอบกับมีความต้องการบริโภคเนื้อปลากะพงยักษ์มากกว่าเดิม ดังนั้นจึงเกิดการรวมกลุ่มสมาชิกผู้เลี้ยงปลามากขึ้น โดยสมาชิกได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และช่วยกันปรับปรุงการผลิตและมีการจัดการด้านการตลาดที่ดีกว่าเดิม จึงส่งผลให้ปลากะพงยักษ์ของกลุ่มได้รับคำสั่งซื้อจากบริษัทคู่ค้ารายใหญ่ๆ ในประเทศมากขึ้น รวมถึงห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ด้วย
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นระยะเวลาแห่งการทดสอบตลาด และเป็นช่วงเวลาเตรียมความพร้อมของเรา ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากกลุ่มคู่ค้าและพันธมิตรต่าง รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารหลักในประเทศ อาทิ ฟู้ดแลนด์, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, ร้านอาหารถูกและดี, ร้านอาหารเอสแอนด์พี, บาร์บีคิวพลาซา, @19ฟู้ดส์แอนด์ฟาร์ม รามอินทรา, ครัวมีสุข, ครัวอิ่มสุข, ทีเฮ้าส์, โรงเบียร์เยอรมันรามอินทราและอ่างศิลา เป็นต้น
เมื่อถามว่ามีแผนการตลาดใหม่ๆ อย่างไรบ้างที่จะช่วยให้สินค้าของไทยตัวนี้เป็นที่รับรู้กว้างขวางขึ้นทั้งในและต่างประเทศ คำตอบคือ กำลังสร้างแบรนด์สินค้าตัวใหม่ขึ้นในกลุ่ม food service โดยจะใช้ชื่อแบรนด์ใหม่ว่าSiam X Seabass เพื่อช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ และขยายการรับรู้ในหมู่ผู้บริโภคให้มากขึ้น แต่ที่สำคัญคือผมและกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงยักษ์ภูมิใจมากที่ผลิตภัณฑ์คุณภาพของเรามาจากฉะเชิงเทรา ผลผลิตของเราได้รับการรับรองคุณภาพและได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยสำหรับบริโภค โดยได้รับมาตรฐานอาหาร GAP จากกรมประมง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา และได้รับตราสัญลักษณ์ฮาลาล เรียบร้อยแล้ว
พบเรื่องราวดีๆ มีสาระได้ในรายการ แนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทาง TNN2 (ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี) และ True Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ผู้หญิงแนวหน้าby คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี