การเริ่มต้นสู่ศักราชใหม่นั้นชาวไทยมีประเพณีนิยมในการรับสิ่งมงคลมาเป็นพลังแห่งชีวิต สิ่งมงคลที่เกิดจากธรรมชาตินั้นคือ “รัตนชาติ”ที่หาได้ยากยิ่ง ด้วยเหตุนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งกรุงรัตนโกสินทร์จึงนับเอาพระแก้วมรกตองค์งามนั้นเป็นพระคู่ประเทศด้วยเป็น “รัตนชาติชิ้นใหญ่” และสร้างด้วยฝีมือช่างชั้นเยี่ยม เช่นเดียวกับคตินิยมการสร้างพระพุทธรูปด้วยรัตนชาติจึงเป็นผลงานที่หาได้ยากยิ่ง ในสมัยโบราณเรียกรัตนชาตินั้นว่า “แก้ว” เปรียบประดุจ “พระรัตนตรัย” คือแก้วประการ เชื่อว่าเป็นอัญมณีสูงค่าดุจแก้วสารพัดนึกที่หาได้ยาก แม้จะเป็นรัตนชาติขนาดเล็กก็นับว่ามีค่ามากกว่าพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ รัตนชาติมีสีสันแตกต่างและมีคุณวิเศษจากธรรมชาติให้แก่ผู้ครอบครอง ดังปรากฏในเครื่องประดับอันเป็นมงคลนั้น
ปีนี้กรมศิลปากรโดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาที่สร้างด้วยรัตนชาติ มาให้สักการบูชาในวันปีใหม่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อเจริญศรัทธาสักการะในพระพุทธศาสนา พระพุทธรูปรัตนชาติ เป็นพระหยกแก้วที่มีวรรณะแตกต่างกันในปางมารวิชัย โดยมี พระพุทธสิหิงค์ ปางสมาธิ อันเป็นศิลปะที่มีอายุร่วมสมัยสุโขทัย-ล้านนา อายุประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้าในรัชกาลที่ ๑) ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๓๘ ประดิษฐานพระประธาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พร้อมด้วยพระพุทธรูปสำคัญ และพระพุทธรูปรัตนชาติ ๙ องค์ ในแบบ ปางมารวิชัย, ปางชนะมาร หรือ ปางสะดุ้งมาร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุ นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงที่พื้นธรณี ในคราวที่พระองค์ทรงเอาชนะมารได้อันเป็นภาวะที่มั่นคงไม่ไหวติงต่อภยันอันตรายทั้งปวง
พระพุทธรัตนชาตินี้เป็น “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” คือ พระแก้วปางมารวิชัย ทั้ง ๙ องค์ได้แก่ ๑.พระแก้วน้ำค้าง ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔-๒๕ เจ้าพรหมสุรธาดาเจ้านครเมืองน่าน ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พระองค์โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ๒.พระแก้วกาบมรกตอ่อน ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔-๒๕ ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๐๗ นอกนั้นเป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมาแต่แรก ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ อายุประมาณพุทธศตวรรตที่ ๒๔ คือ พระแก้วน้ำค้าง, พระแก้วกาบมรกต,พระแก้วน้ำหาย, พระแก้ววิฑูรย์น้ำผึ้ง, พระแก้วจันทรกานต์, พระแก้ววิฑูรย์สีน้ำผึ้ง ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญออกมาให้ประชาชนสักการบูชาเพื่อสร้างความเป็นสิริ-ความเป็นมงคล ไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุข ปลอดภัยภยันตรายทั้งปวง ตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑ ถึงวันอาทิตย์ที่๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นเวลาหนึ่งเดือน
ในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๒ รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรมได้มีกิจกรรมที่เป็นมหามงคลในวันปีใหม่ ทุกปีนั้นมีประเพณีปฏิบัติกันเป็นประจำ คือ สักการะพระแก้วมรกต พระพุทธรูปสำคัญของประเทศ หลักเมือง และเทพารักษ์
ณ ศาลหลักเมือง สำหรับปีนี้ขอเชิญสักการะ พระพุทธรัตนชาติ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ส่วนกิจกรรมในวันปีใหม่ทุกคนสามารถร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี จัดโดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
ที่จัดขึ้นทั่วประเทศ เข้าร่วมชมและสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญจาก ๑๓ ประเทศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง การไหว้พระพุทธรูปสำคัญ ๑๐ วัด สืบสิริสวัสดิ์ ๑๐ รัชกาล ซึ่งเป็นวัดสำคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีในกรุงเทพมหานคร และรักษาประเพณีในการทำบุญตักบาตร ขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ บุพการี เป็นหลัก นอกนั้นก็สนุกสนานเถิดเทิงเอาตามใจชอบ...แต่อย่าลืมสิ่งที่ดีงามเสียจนหลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งใหม่ที่เป็นเครื่องเย้ายวนให้ทำลายวัฒนธรรมของชาติ...ชวนทำบุญไม่ทำบาปกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี