เคล็ดลับสูงวัยสุขภาพดี  บอกลาภาวะสมองถดถอย

เคล็ดลับสูงวัยสุขภาพดี บอกลาภาวะสมองถดถอย

วันจันทร์ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag :

ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ต่างเผชิญกับอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุในสังคม (societal aging) ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดแรงงานในวงกว้าง อันได้แก่ จำนวนประชากรวัยทำงานในช่วงอายุ 15 ถึง 64 ปี ที่จะลดลงในไม่ช้า และความเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างสัดส่วนอายุวัยทำงานเพราะมีลูกจ้างสูงวัยเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในระยะเวลาอันใกล้นี้ที่จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน ตลาดแรงงาน และคุณภาพชีวิตของเรา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องหันมาเริ่มต้นฝึกฝนพฤติกรรมสำหรับการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี (healthy aging) เพื่อจะได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข รวมถึงบรรเทาปัญหาความกดดันนานัปการที่จะเกิดขึ้นในสังคมเพราะปัจจัยเรื่องการสูงวัยด้วย

ว่าแต่จริงๆ แล้ว การสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี (healthy aging) นั้น หมายถึงอะไร องค์กรอนามัยโลกให้นิยามความหมายของคำนี้ว่าเป็นกระบวนการที่ผู้สูงอายุยังคงเสริมสร้างและรักษาความสามารถในการใช้ร่างกายและจิตใจให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม ก่อให้เกิดภาวะความเป็นอยู่ที่ดีแม้จะมีอายุมากขึ้นก็ตาม โดยจากผลสำรวจล่าสุดของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เกี่ยวกับการ “สูงวัยอย่างมีสุขภาพดี” ที่มีผู้ตอบแบบสำรวจอายุมากกว่า 40 ปีประมาณ 5,500 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า ร้อยละ 66 ของผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ตอบว่าการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีคือ “การเคลื่อนไหวร่างกายและใช้ความคิดได้อย่างกระฉับกระเฉงแม้จะแก่ตัวลงเรื่อยๆ”


 

ดร.แกรี่ สมอลล์ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น (NAB) กล่าวว่า สองในสามปัจจัยเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม (dementia) ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องพันธุกรรม นั่นแปลว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่คุณเลือกทำอยู่ทุกวันมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมองที่ดีได้แม้อายุจะมากขึ้น ผลการวิจัยยังบอกอีกด้วยว่าการออกกำลังกายเป็นประจำช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม มิหนำซ้ำกลุ่มคนวัยกลางคนรวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุยังมีความจำที่ดีขึ้นด้วย ในขณะที่รายงานวิจัยหลายฉบับเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพยังช่วยให้มีความจำที่ดีขึ้นไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามดังนั้นจึงขอแนะนำ 3 เคล็ดลับดีๆ เพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี ที่จะช่วยให้คุณบอกลาภาวะการทำงานของสมองถดถอย และช่วยเพิ่มพลังให้สมองคุณสดชื่นแจ่มใสในทุกวัน

 

เคล็ดลับที่ 1 เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น การได้รับโภชนาการที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาสุขภาพสมองควบคู่ไปด้วย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่าทำไมอาหารประเภทที่อุดมไปด้วยไขมันและเกลือมากๆ จึงไม่ดีกับทั้งร่างกายและสมองของคุณแม้แต่น้อย หลายงาน
วิจัยยังระบุด้วยว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex carbohydrate) และธัญพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี (Whole Grains) ทั้งหลายถือเป็นตัวเลือกโภชนาการชั้นดีต่อสุขภาพสมองที่อาจช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม

นอกจากนี้ การรับประทานปลาอย่างน้อยสองครั้งต่อสัปดาห์ จะทำให้คุณได้รับไขมันโอเมก้า 3 เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งช่วยปกป้องสมองและควบคุมระดับอารมณ์ให้คงที่ และอันที่จริงแล้ว กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาหรืออาหารเสริมน้ำมันปลาจะช่วยสร้างปลอกหรือเยื่อหุ้มไมอีลิน (myelin sheath) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้กระแสประสาทระหว่างเซลล์ประสาทในสมองเดินทางได้เร็วขึ้น และถ้าหากเยื่อหุ้มไมอีลินเกิดความเสียหายก็อาจนำไปสู่จุดเริ่มต้นของภาวะสมองเสื่อมได้ และอย่าลืมรับประทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ เพื่อช่วยให้สมองแจ่มใสแข็งแรงในระยะยาว และป้องกันสมองจากภาวะ oxidative stress หรือภาวะความเครียดททางด้านร่างกายที่มีผลจากการมีอนุมูลอิสระมากเกินกว่าที่จะสามารถจัดการได้ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอายุที่มากขึ้น และสำหรับผู้ชายในวัย 40 ปี ควรรับประทานผลไม้อย่างน้อย 2 ถ้วย และผักอย่างน้อย 3 ถ้วยต่อวัน

 

เคล็ดลับที่ 2 ขจัดความเครียดออกไป เพราะอาการเครียดเรื้อรังสามารถส่งผลร้ายต่อสุขภาพคุณได้ ไล่มาตั้งแต่การนอนไม่หลับ น้ำหนักเพิ่มขึ้น ไปจนถึงโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ยังไม่นับรวมการบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร และระบบประสาทส่วนกลางด้วย แม้ว่าเราจะไม่สามารถขจัดความเครียดออกไปจากชีวิตได้ทั้งหมด เราก็สามารถเรียนรู้วิธีจัดการความเครียด เพื่อช่วยให้เราสามารถปกป้องดูแลสุขภาพหัวใจและสมองของเราไปพร้อมกันได้ การหันมาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีสำคัญมากต่อการสูงวัยอย่างมีคุณภาพ คุณจำเป็นต้องนอนหลับให้เพียงพอ เนื่องจากการอดนอน (sleep deprivation) จะทำให้แก่เร็วขึ้น การได้นอนหลับอย่างเต็มที่จะช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง (chronic inflammation) พัฒนาความจำและอารมณ์ความรู้สึก และช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น การทำสมาธิแบบง่ายๆ เพราะการเจริญสติ (mindfulness) เป็นวิธีจัดการความเครียดที่ยอดเยี่ยมและได้ผลกับคนทุกเพศทุกวัย และอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่ช่วยลดความเครียดก็คือการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่งจ๊อกกิ้ง โยคะ รำไทเก็ก หรือเล่นเทนนิสสนุกๆ กับเพื่อน เพราะการออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถด้านการรับรู้และการเรียนรู้และเพิ่มขนาดของสมองส่วนที่ดูแลควบคุมเรื่องความจำด้วย

เคล็ดลับที่ 3 หาเวลาทำอะไรสนุกๆ ฝึกสมอง มีงานศึกษาวิจัยมากมายที่ชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมที่กระตุ้นสมองนั้นเชื่อมโยงกับการลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมได้โดยหากคุณชื่นชอบท้าทายอะไรใหม่ๆ ให้ลองทำกิจกรรมที่คุณไม่เคยทำได้มาก่อน อย่างเช่น หัดเล่นเครื่องดนตรี เล่นหมากรุก หรืออะไรง่ายๆ อย่างเกมซุโดะกุตามหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน ก็น่าสนุกไม่น้อย กระบวนการเรียนรู้และการรับข้อมูลรวมถึงประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การฝึกฝนทักษะที่แตกต่าง สามารถกระตุ้นการทำงานของสมองได้ พยายามฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ให้หลากหลายเพื่อให้รู้สึกน่าสนใจอยู่เสมอ นอกจากนี้ เรายังสามารถเรียนรู้เทคนิคการฝึกความจำต่างๆ ได้ง่ายๆ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสามารถในการรับรู้และการเรียนรู้ของเราได้ดีและยาวนานหลายปีตราบเท่าที่เราหมั่นฝึกฝนเทคนิคความจำเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ดี แม้เคล็ดลับเพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีข้างต้นจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่ก็ยังมีหลายคนที่ละเลยความสำคัญในการนำเคล็ดลับเหล่านี้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขในชีวิตมากขึ้น จำไว้เสมอว่า
ไลฟ์สไตล์ของการได้รับโภชนาการที่ดี บวกกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและการหมั่นทำกิจกรรมฝึกฝนสมองอยู่เสมอ สามารถช่วยถนอมรักษาสุขภาพสมองของคุณให้แจ่มใสต่อไปได้อีกนานแสนนาน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top